Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ไดอารี่

อ่านต่อ

หมากับงูเห่า

say, ไดอารี่ 9 April 20209 April 2020

เมื่อวานขณะกำลัง Standup Meeting อยู่นั้น พลันได้ยินเสียงเจ้าม่อนเห่าแปลกๆ แบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนทั้งเห่าทั้งขู่ พอเบือนหน้าจากหน้าจอมีตติ้งหันไปดูเท่านั้นแหละ !!งูเห่ากำลังแผ่หัวชูคอฟ่อๆ หมาก็เห่างูก็เห่า ดูสถานการณ์แล้ว ไม่น่าจะอาจสามารถจัดการเองได้ จึงรีบไปตามยาม พอยามมาถึงก็ใช้วิธีวิสามัญฆาตกรรมแบบไม่ต้องมีหมายเรียก ปิดคดีภายในไม่ถึง 10 นาที งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้ม่อน หมาหน้ามึนตัวนี้ นี่ถ้าเราไม่มีหมาไว้สังเกตสังกาหน้าบ้าน สถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ ฝั่งที่โชคร้ายอาจไม่ใช่งูเห่า แต่อาจเป็นใครสักคนภายในบ้าน

แซลม่อน
อ่านต่อ

ลาก่อนน้องมารชมพู

บ่น, ไดอารี่ 2 April 20178 June 2019

ความผูกพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ที่ หรือสิ่งของ หากเราใช้ชีวิตกับมันนานๆย่อมมีความผูกพันธ์..และครั้งนี้ก็เช่นกัน จำใจจากน้องมารชมพูด้วยความอาลัยรัก

jazz น้องมารชมู
อ่านต่อ

เสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย

ไดอารี่ 13 October 20163 November 2017

    * เป็นวันที่โลกมืดมิดและหยุดนิ่ง ได้ยินเพียงเสียงร่ำไห้

สวรรคต ในหลวง
อ่านต่อ

Oh my ghost

ไดอารี่ 10 October 20163 November 2017

หลังจากโบกลาละครไทยอย่างไม่ใยดี ผมหันมาดูซีรีย์ต่างประเทศอย่าง Walking dead, CSI , NCIS  etc. แต่บางครั้งซีรีย์แนวสืบสวนฆาตกรรมของต่างประเทศ ดูบ่อยๆเข้าก็จำเจและเริ่มจะจำทางได้ ผมจึงหันมาทางซีรีย์เกาหลีบ้าง หลายคนเตือนว่าอย่าดู ..เพราะจะติด! เหี้ย! ซีรีย์เกาหลีนะไม่เว้ย ไม่ใช่บุหรี่ จะติดกันง่ายๆได้ยังไง โดยพื้นฐานผมเป็นคนชอบดูละครมาก โดยเฉพาะละครไทย ผมดูตามแม่พี่ป้าน้าอาที่พาดูตั้งแต่เด็กๆ แต่เชื่อเถอะครับ ละครไทยที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็กๆ กับละครไทยในปัจจุบันยุคที่อวดอ้างว่าล้ำหนักหนา ยุคโซเชี่ยล ยุคดิจิตอล ยุคห่าเหวอะไรนั่น .. ละครไทยยังคงมีบทเดิมๆ เนื้อเรื่องเดิมๆ พล็อตเดิมๆ ตัวอิจฉาตบตีแย่งพระเอก อีตัวอิจฉาต้องแต่งตัวแร่ดๆ ยั่วๆ ทำหน้าทำตาแบบอิจฉ๊า อิจฉา นี่แค่พูดถึงตัวอิจฉานะ อย่าให้ต้องพูดถึงนางเอกพระเอก หรือแม้แต่คนทำสวน คนขับรถ ฯลฯ ไม่อยากจะพูด ละครไทย! กลับมาที่ซีรีย์เกาหลีดีกว่า ผมเลือกดูเรื่อง Oh my ghost ดูน่าจะเป็นซีรีย์แนวผี ตลกๆ .. ดูได้ 3 ตอนติดครับ ติดงอมแงมเลยจริงๆ มีผลทำให้ซีรีย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ มึงโดนกูเสพแน่ เรื่อง Oh my ghost ดูแรกๆเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นซีรีย์เบาสมองสบายๆ แต่สไตล์เกาหลีครับ ทำซีรีย์ทั้งทีจะให้ง่ายๆ เดาทางถูกนั้นมันง่ายไป ตอนแรกๆดูเบาๆ สบายๆ แต่พอถึงกลางเรื่องจนจบจะเข้มข้นจนไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว Oh my ghost เป็นเรื่องราวของผีตนหนึ่งที่ตายแล้วยังไปเกิดไม่ได้ เพราะมีเรื่องที่เป็นบ่วงติดไว้ในโลกมนุษย์ จึงเป็นผีร่อนเร่สิงคนโน้นทีคนนี้ที จนกระทั่งมาเจอกับนางเอก (นางเอกในเรื่องนี้ชื่ออะไรไม่รู้ ..แต่น่ารักมากครับ ทั้งหน้าตา น้ำเสียงและบุคลิก) นางเอกมีความสามารถพิเศษตั้งแต่เด็กคือสามารถเห็นผีได้ และโดยที่เป็นคนเห็นผีนี่เอง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีเพื่อน และขาดความมั่นใจ ร่างกายอ่อนแอ พอมาเจอกับผีเร่ร่อนจึงถูกผีสิงโดยง่าย นางเอกทำงานในร้านอาหารของพระเอก ..นางเอกถูกผีสิง ก่อนถูกผีสิงนางเอกก็แอบรักพระเอกซึ่งเป็นเชฟสุดหล่ออยู่แล้ว พอผีมาเจอพระเอกได้รับความรู้สึกดีๆจากพระเอก ก็เกิดหลงรักพระเอกเข้าไปอีก จึงเกิดรักสามเส้า ระหว่างคนและผี เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆครับ เมื่อผีเร่ร่อนที่เข้าใจมาตลอดว่าตัวเองฆ่าตัวตาย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ..การสืบสวนหาสาเหตุการตายก็เริ่มขึ้น … ผมเล่าไว้แค่นี้ละกัน เผื่อใครผ่านมาอ่านจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกสปอยล์ บอกได้เลยว่า…

oh my ghost เกาหลี
อ่านต่อ

จิ๊กกี๋ในวัย 70 กะรัต

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 23 September 20163 November 2017

เข้าสู่วัย 10 ขวบแล้วสำหรับจิ๊กกี๋ ถ้าเป็นคนก็เริ่มเข้าสู่วัย 70 นิสัยเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขี้อ้อน ขี้กลัว กลัวฝนกลัวฟ้าร้องกลัวฝนตก สายตาเริ่มพร่ามัว มองไกลๆไม่ค่อยเห็นตามประสาหมาสูงอายุ แต่ยังเป็นหมาที่กินยาก ฉี่ยาก อึยากเช่นเคย เอาภาพมาอัพเดตไว้เท่านี้แหละ

จิ๊กกี๋
อ่านต่อ

ตารางฝึกฮาล์ฟมาราธอน

say, วิ่ง, ไดอารี่ 26 July 20163 November 2017

วิ่งให้เข้าเส้นชัยใครก็วิ่งได้, แต่วิ่งให้เข้าเส้นชัยแบบสบายๆ นี่ต้องมีตารางฝึก ไปได้ตารางฝึกจากพันทิปมา มีตารางวิ่งย่อมดีกว่าวิ่งลอยๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลที่ดีกว่าแล้ว ยังอาจเจ็บตัว บาดเจ็บอีก คำแนะนำจากจขกท. CT- Cross train เป็นกิจกรรมที่ทำในวันที่ไม่ได้วิ่ง เลือกกิจกรรมที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ (cardio workout)ยาวประมาณ 30 นาที เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ TT- Time Trial วิ่ง warm up 1.6km จากนั้นวิ่ง pace (ความเร็วในการเคลื่อนที่ปกติ หมายถึงระยะเวลานาทีที่ใช้วิ่ง/เดินต่อหนึ่งกิโลเมตร) สบายๆ จากนั้นจับเวลาในการวิ่งเร็ว เป็นระยะทาง 3.2km แล้วพยายามวิ่งให้เร็วขึ้นสำหรับ TT ครั้งต่อไป R&R Run-Rest & Recovery run วิ่ง 4.8km – 6.4km ที่ pace สบายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง ทุก ๆ 4 อาทิตย์จะเป็นอาทิตย์ R&R INT- Intervals วิ่ง 1.6km แบบสบาย ๆ จากนั้นให้สลับระหว่างหนึ่งนาทีแบบวิ่งเร็ว (ประมาณ 80-90%) แล้วก็หนึ่งนาทีวิ่งแบบสบาย ๆ หรือวิ่งเร็ว (80-90%) สองนาที แล้วก็วิ่งแบบสบาย ๆ หนึ่งนาที เป็นระยะทาง 3.2km จากนั้นให้วิ่งแบบสบาย ๆ อีก 0.8km เป็นการ Cool down T- Tempo run ( 4.8km – 6.4km ) วิ่ง 1.6km ที่ความเร็วปกติ จากนั้นวิ่งเร็วขึ้น Tempo run (สปีดเร็วกว่าปกติ สามารถพูดได้ 3-4…

halfmarathon run วิ่ง
อ่านต่อ

ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่

ไดอารี่ 11 July 201611 July 2016

ถึงวันนี้(11/07/59) ผมก้าวเข้าสู่การวิ่งมาแล้ว 5 เดือน วิ่งต่อเนื่องทุกอาทิตย์ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 20 กิโลเมตร หากยังวิ่งแบบเดิมๆ ฝึกแบบเดิมๆ ก็จะได้ผลเท่าเดิม คือ วิ่งต่อเนื่องได้แค่ 10 กิโล มาถึงเดือนนี้ (กรกฏาคม) ซึ่งเป็นเดือนเกิดของผมเอง ตั้งใจว่าจะฝึกวิ่งทุกวัน อาจจะไม่ได้ถึง 10 กิโล แต่อยากให้ได้ความต่อเนื่อง เพื่อฝึกกำลังขา แต่พอเข้าเดือนกรกฏา ฝนก็ตกเกือบทุกวัน มีผลให้ความตั้งใจต้องล้มไม่เป็นท่า ถึงอย่างไร เมื่อมีโอกาสต้องรีบเข้าสู่โหมดความตั้งใจเดิมให้ได้ “ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปวิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข และนี่คือเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมา เราต้องดีขึ้นเรื่อยๆ

run วิ่ง ออกกำลังกาย
อ่านต่อ

อิฐมอญ

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 19 June 201530 May 2016

  ผมชอบผนังอิฐมอญ.. ชอบอารมณ์ผนังที่เก่า ๆ เหมือนงานไม่เสร็จหรืองานไม่เรียบร้อย ให้อารมณ์ดิบๆ มันเข้ากับ lifestyle และหน้าตา(ที่เถื่อนๆแบบเรา)

อิฐ
อ่านต่อ

ไหว้พระวัดโพธิ์

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 2 June 201520 October 2017

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ชาวต่างชาตินิยมชมชอบ คือถ้ามาเมืองไทยแล้วต้องไปให้ได้ (จะไปเองหรือถูกไกด์บังคับพาไปก็ตาม) เฉพาะในกรุงเทพนะ ถ้ามาถึงแล้วต้องไป นั่นคือ วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และวัดไตรมิตร เจอ 3 วัดเข้าไป ก็หมดวันละ เฉพาะวัดพระแก้วกับวัดโพธิ์นี่ก็แทบหมดแรงละครับ กว้างขวางแถมร้อนมากด้วยเช่นกัน แต่สำหรับชาวต่างชาติ ผมว่าคุ้มครับ กับการได้เข้าไปชมสถานที่ๆมีความสวยงามขนาดนั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจจะไปไหว้พระวัดโพธิ์ตามหัวเรื่องที่จั่วไว้ ไปทานข้าวริมแม่น้ำที่ปากคลอง ขากลับมีอันต้องผ่านวัดโพธิ์ พี่ที่ไปด้วยแกมาอยู่กรุงเทพหลายสิบปี แต่สาบานได้ว่าไม่เคยมาวัดโพธิ์เลย จึงต้องแวะพาแกไปไหว้พระสักหน่อย ถึงจะร้อนมากก็ตาม เดิมทีว่าจะข้ามไปฝั่งวัดอรุณฯด้วย แต่ดูท่าจะสู้แรงแดดไม่ไหว วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร อยู่ติดกับวัดพระแก้วชนิดรั้วเกือบติดกัน กั้นด้วยถนนเท่านั้นเอง แต่การจะเดินไปมาหาสู่กันไม่ใช่เรื่องสนุก เดินกันขาลากหัวเปียกเลยทีเดียว ประวัติวัดโพธิ์ใครใคร่รู้โดยละเอียดก็ไปหาจากอากู๋เอาเองนะครับ อัตราค่าบริการสำหรับคนไทยฟรี ต่างชาติต้องซื้อตั๋ว เอาภาพเล็กๆน้อยๆของวัดโพธิ์ในวันที่แดดแรงมาก มาให้ชมเพียงเท่านี้นะครับ แนะนำให้ไปเที่ยวชมด้วยตนเองดีกว่า ไปง่าย ถ่ายคล่อง รับรองอร่อย

วัดโพธิ์
1 2 3 … 7
อ่านต่อ

หมากับงูเห่า

say, ไดอารี่ 9 April 20209 April 2020

เมื่อวานขณะกำลัง Standup Meeting อยู่นั้น พลันได้ยินเสียงเจ้าม่อนเห่าแปลกๆ แบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนทั้งเห่าทั้งขู่ พอเบือนหน้าจากหน้าจอมีตติ้งหันไปดูเท่านั้นแหละ !!งูเห่ากำลังแผ่หัวชูคอฟ่อๆ หมาก็เห่างูก็เห่า ดูสถานการณ์แล้ว ไม่น่าจะอาจสามารถจัดการเองได้ จึงรีบไปตามยาม พอยามมาถึงก็ใช้วิธีวิสามัญฆาตกรรมแบบไม่ต้องมีหมายเรียก ปิดคดีภายในไม่ถึง 10 นาที งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้ม่อน หมาหน้ามึนตัวนี้ นี่ถ้าเราไม่มีหมาไว้สังเกตสังกาหน้าบ้าน สถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ ฝั่งที่โชคร้ายอาจไม่ใช่งูเห่า แต่อาจเป็นใครสักคนภายในบ้าน

แซลม่อน

ถางทาง สร้างฝัน

ไดอารี่ 24 June 2008

“ทำอะไรต้องทำด้วยใจจริง” ท่องเน็ตไปเจอบทความหนึ่งน่าสนใจ คิดจะเอามาไว้ที่นี่เหมือนกัน แต่ไม่ดีกว่า เรามาต่อยอดความคิดของเขาดีกว่า บทความที่ว่านั้น กล่าวถึงความตั้งใจในการทำอะไรสักอย่าง ต้องมีความตั้งใจเป็นสำคัญ ความรู้แบบผิวเผิน ให้ผลในทางลบเสมอ ไม่พอที่จะพัฒนาตัวเองได้ ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไรก็ตามที่หยุดหาความรู้ หยุดพัฒนาตัวเอง ก็จะกลายเป็นฟอลซิล ..เขาว่าอย่างนั้นนะครับ ผมเห็นด้วย และชอบใจบทความที่เขียนนี้มาก อ่านแล้วก็กลับมามองตัวเองจะว่าเก่งอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นเรื่องเป็นราวสักเรื่อง ก็ไม่ ได้อันโน่นนิด อันนี้หน่อย เกือบจะดี แต่ก็ยังไม่ดีพอ เกือบจะเก่ง แต่ก็ยัง มิหนำซ้ำหลังๆ เกิดโรคสันหลังยาว ขี้เกียจหาความรู้ ขี้เกียจพัฒนาตัวเอง ขี้เกียจฯลฯ โรคชี้เกียจ..เป็นโรคร้ายที่น่ากลัวทีเดียว จึงจำเป็นต้องรีบพัฒนาตัวเอง ไม่ให้โลกหมุนทิ้งเราไว้เดี่ยวดาย ความรู้สามารถเรียนเท่าทันกันได้ แต่ความรู้อย่างเดียว ถ้าไม่นำไปพัฒนา หรือใช้ประโยชน์ก็ไร้ประโยชน์ ต้องมารื้อตัวเองซะใหม่..พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน หลักการนี้ ต้องด้วยธรรมะในพระพุทธศาสนา หัวข้อ อิทธิบาท 4อิทธิบาท 4 ความหมายคือ หนทางไปสู่ความสำเร็จ 4 ข้อ ฉันทะ สร้างความรัก ความชอบในสิ่งที่ทำก่อน ไม่ใช่แค่ความรัก ความชอบอย่างเดียว ต้องสร้างความพอใจอย่างรุนแรง อยากเห็น อยากทำ อยากอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืน นั่นคือ ฉันทะ ชนิดหลอกตัวเองว่าชอบ ยังใช้ไม่ได้ วิริยะ เมื่อเกิดความรัก ความพอใจ ก็เพียรมั่น ตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถ จิตตะ ตั้งมั่น จิตจดจ่อต่อสิ่งที่รักนั้น พุ่งสมาธิและความตั้งใจทั้งหมดไปยังสิ่งนั้นสิ่งเดียว วิมังสา ไตร่ตรองพิจารณาด้วยเหตุผลถึงสิ่งที่ทำแล้วนั้น ถูกต้อง ผิด-ถูก ดี-ไม่ดี อย่างไร แก้ไขอย่างไร ถึงจะดีขึ้น และดีที่สุด   ธรรมะทั้ง 4 ข้อ ผมก็รู้ แต่ก็นั่นแหละ แค่รู้อย่างเดียว ไม่นำไปปฏิบัติ คงจะก่อเกิดประโยชน์ได้ยาก ทางไปสู่ความสำเร็จ ต้องลงมือถางทางด้วยตัวเอง รัก ตั้งใจ จดจ่อ มุ่งมั่น ถึงจะสร้างฝันสำเร็จ

สติมา อย่าประมาท

เรื่องทั่วไป 27 June 2008

To love and to be loved is the greatest happiness of existence. การรักและมีคนรักคือความสุขทิ่ยิ่งใหญ่ของการมีชีวิตอยู่. พูดถึงความสุข แต่ละคนก็มีความสุขแตกต่างกัน สุขมากสุขน้อย แตกต่างกันไป เมื่อไรที่มีความสุข ความทุกข์ก็รอโอกาสจะเข้ามาแทนทีอยู่ร่ำไป เหมือนกับมีกลางวัน ก็มีกลางคืน มีมืดก็มีสว่าง มีร้อนก็มีเย็น ฯลฯ  ไม่ค่อยจะมีความพอดีแบบ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เลย มีแต่สุขนิดหน่อย ทุกข์นิดหนึ่ง แต่หลายคนบอกว่าความสุขนะไม่มีหรอก มีแต่ความทุกข์มาก กับความทุกข์น้อยเท่านั้นแหละ ตรงที่มีความทุกข์น้อยนี่เอง บางคนเรียกว่า “ความสุข” แต่จะสุขหรือทุกข์ ก็ไม่สำคัญเท่า ความอยู่อย่างรู้ตัว ที่พระท่านเรียกว่า สติ การมีชีวีตอยู่อย่างมีสติรู้เท่าทันความคิดทุกขณะ ทุกอิริยาบถ เป็นการมีชีวิตอยู่ที่ประเสริฐ ธรรมะอีกข้อหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน นั่นคือ ความประมาท  อยากให้ดูรูปด้านล่างนี้ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนะครับ พระท่านว่า ความประมาท เป็นหนทางแห่งความตาย ภาพนี้อธิบายได้ชัดเจนทีเดียว ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาทกันนะครับ.   ป.ล. เดี๋ยวนี้จะเขียนอะไรสักที ทำไมมันฝืดนักนะ ~ ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขียนได้เป็นคุ้งเป็นแคว 🙁

พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง

เรื่องทั่วไป 9 November 200827 September 2016

สำหรับนักฟังเพลงในอดีตแล้ว ถ้าแนวลูกทุ่ง ต้องชอบ สายัณห์ สัญญา ถ้าแนวเพื่อชีวิตต้องแนว คาราบาว แนวสตริงคลาสิคหน่อย หลายๆคนก็ชอบหลายๆนักร้อง แต่ที่หลายๆคนชอบอีกคนคือ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง สายัณห์ สัญญานี่ไม่ต้องพูดถึง เพลงเพราะ หวานซึ้งจับใจ โดยเฉพาะลูกอ้อนหน้าเวที พูดทีไรแฟนเพลงต้องวิ่งหาพวงมาลัย หัวแทบชนกันตาย ด้วยภาพลักษณ์ที่ออกทางเวที และเสียงเพลงนี่เอง หลายคนปลื้ม ศรัทธา หลงรัก สะสมอัลบั้มเพลงทุกชุด บางชุดซื้อมากกว่าหนึ่งแผ่น เพื่อแจกจ่ายคนอื่นๆ เพื่อหวังให้มาเสพรสเพลงอันไพเราะเช่นตน วงคาราบาว เป็นจิตวิญญาณ ไอดอล เป็นแบบอย่างของดนตรีเพื่อชีวิตอีกหลายๆวง เป็นผู้ปลุกเร้าสิ่งที่สังคมลืม เป็นผู้นำแห่งเพลงสามช่า เป็นนักแต่งเพลงเสียดสี กระแทก แดกดันได้อรรถรส ด้วยภาษาที่สวยสดงดงาม ไม่หยาบคาย หยาบคายบ้าง แต่ดูดี คาราบาวถือเป็นศิลปินที่ผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังได้รับการต้อนรับที่ดีเสมอ ได้เสียงตอบรับอย่างเนืองแน่นทุกครั้งที่ออกคอนเสริต มีผลงานออกมาตลอดเวลามิได้ขาด เรียกได้ว่าทำงานอยู่ในวงการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเฉไฉออกนอกเส้นทาง หลายๆเพลงของคาราบาว มีบางคนนำเอาไปเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ตลอดจนเป็นข้อตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ดังเช่นคุณสรยุทธ ที่ถือเพลงพระเจ้าตากเป็นเครื่องตัดสินใจ ในตอนที่จะออกจากเนชั่น ด้วยท่อนเพลงที่ว่า…เราจะทุบหม้อข้าว… อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ย้อนไปเมื่อสักสิบปีที่แล้ว เพลงของเขาหวาน ฟังสบาย หลายๆเพลงมีเนื้อหาเพื่อสังคม ถึงไม่ได้อยู่ในวงการเพลงยาวนานเหมือนสายัณห์ สัญญา หรือคาราบาว แต่เพลงของอริสมันต์นับว่าสร้างความนิยมชื่นชมแก่ผู้ที่ชื่นชอบมากมาย หลายๆเพลงกลายเป็นอมตะ มีการนำมาร้องใหม่ โดยนักร้องยุคปัจจุบัน ใส่ท่วงทำนองที่สามารถกระโดดโลดเต้นได้ ผิดวิสัยพี่กี้ อริสมันต์ ที่พูดถึงศิลปินนักร้องในวันนี้ เพื่อเข้าสู่ประเด็นนี้ครับ ณ ปัจจุบันศิลปินที่ผมกล่าวถึงทั้งสามนั้น สองในสามหลุดออกจากวงการเพลงเข้าสู่วงการการเมือง มีเพียงคาราบาวที่ยังคงอยู่ในวงการดนตรีเช่นเดิม ทั้งที่จริงๆแล้ว คาราบาวน่าจะเข้าสู่วงการการเมืองมากกว่า ด้วยเนื้อหาเพลงที่ประชดประชัน ดุ ด่า การเมืองอย่างเผ็ดร้อนกว่าใคร และออกตัวชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับนักการเมืองที่คอรับชั่น คาราบาวก็ยังเป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตที่มีคนชื่นชอบทั่วประเทศอย่างปัจจุบัน รักมั่นศรัทธาต่อประชาชนนักรักเพลงเพื่อชีวิต อีกสองศิลปินนั้น เข้าสู่วงการการเมืองอย่างเต็มตัว การเมืองมันน่ากลัว จากภาพที่คนชื่นชอบสองศิลปินนี้ในอดีต ภาพความจริงค่อยๆปรากฏชัดเมื่อเข้าสู่วงการการเมือง การเมืองทำให้ทั้งสองหมดความไพเราะ นิ่มนวล และน่าเชื่อถือ ผมคิดว่า ..หน้าที่ใครก็หน้าที่มัน พระเจ้าให้ความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกัน เพื่อไม่ต้องมาแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เมื่อได้พลังนั้นมาแล้ ก็ควรจะรักษาพลัง และทำหน้าที่ที่ตนได้รับให้ดียิ่งๆขึ้น อย่าไปแย่งหน้าที่คนอื่น…

เป็นเหี้ย

ไดอารี่ 3 May 2011

หยุด 3 วันมีโอกาสอยู่บ้านแบบเต็มๆ จึงจัดชุดใหญ่ ‘บิ๊กคลีนนิ่งเดย์’ เริ่มจากหอมผ้าไปลงถัง, ถูกบ้าน และ.. ใส่ปุ่ยให้ต้นไม้ ตอนนี้ต้นลีลาวดีที่อยู่หลังบ้านกำลังหัดออกดอก หลังจากผลิตแต่ใบมากว่า 3 เดือนแล้ว ผมจึงหมั่นไปดูแลทุกค่ำเช้าราวกับพ่อที่รอลูกคนแรกคลอด ต้นองุ่นที่หน้าบ้านก็เบ่งบานเต็มที่ หลังจากได้น้ำฝนบวกกับปุ่ยชีวภาพตอนนี้กำลังเลื้อยขึ้นระแนง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีกประมาณ 8 เดือนนับจากนี้องุ่นจะมีลูกมาให้เราเชยชม ชวนชมที่ชวนกันมาจากคอนโดหลังถูกทิ้งตากแดดตัวเหี่ยว ตอนนี้มีใบสดชื่น แข่งกันออกดอกอย่างสนุกสนานเช่นเดียวกับอมรเบิกฟ้าที่พามาจากคอนโดตอนนี้ดอกสีขาวเบ่งบานและร่วงหลายครั้งแล้ว ขณะที่่ดอกสีชมพูมีเพียงใบให้ดูต่างหน้า คนขายบอกว่าสีชมพูออกดอกน้อย ต้อนม่วงมณีดอกสีม่วงเต็มต้นกำลังเป็นพุ่มสวย แต่ด้วยใบที่มีรสกรอบอร่อยจึงเชื้อเชิญบุ้งมากัดกินซะแหว่งหวิ่นเช่นเดียวกับส้มจี้ดถูกทั้งบุ้งและหนอนกัดกินกันอร่อย ต้นคล้ากับต้นกกได้น้ำไม่เคยขาด จึงเบ่งบานสวยสด มีอีกหลายต้นที่จำชื่อไม่ได้ เลยมิได้เอ่ยชื่อไว้ในที่นี้ ต้องกราบขออภัย ขณะตัดแต่งใส่ปุ่ยให้ต้นไม้นั่งเชยชมกับธรรมชาติอยู่นั้น แขกผู้มิได้รับเชิญก็แอบคลืบคลานเข้ามาในรั้วบ้าน!! ตัวไม่ใหญ่ขนาดเท่านิ้วโป้งผู้ใหญ่ วิ่งปรูดเข้ามาในซอกต้นไม้ในบ้าน ผมรีบวิ่งไล่เพื่อขับออกจากบ้านทันที พอเข้าไปใกล้ถึงได้รู้ว่ามันคือ “เหี้ย” ตัวน้อย น้องเหี้ยมาจากไหนไม่รู้วิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาในรั้วบ้าน จิ๊กกี๋หมาที่เห่าดุเหลือเกินกับทุกสิ่งที่อาจหาญละเมิดอาณาเขตเข้ามาแม้กระทั่งผีเสื้อที่เผลอบินเข้ามามันยังกระโดดงับจนปีกขาด!! แต่ครั้งนี้มันปล่อยน้องเหี้ยน้อยวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างหน้าตาเฉย ผมพยายามชี้ให้จิ๊กกี๋ดูให้มันไปช่วยจับ นอกจากไม่มาแล้วมันยังมองไปทางอื่นทำท่าไม่สนใจ เป็นหน้าที่เจ้าบ้านอย่างผม ต้องไล่จับอย่างทุลักทุเลได้รับความช่วยเหลือจากป้าข้างบ้านช่วยอีกแรงนึงทำให้จับได้เร็วขึ้น ผมนำมันไปปล่อยข้างนอกกำแพงหมู่บ้าน ..ให้มันไปสู่ที่ชอบๆ ไปในที่ๆมันชอบ อย่าชอบบ้านผมเลย ก็ไม่รู้ว่าเหี้ยมันเลวยังไงนะ ใครทำตัวไม่ดีถึงถูกด่าว่า “เหี้ย” ผมว่าถูกด่าว่า “ไอ้เหี้ย” ยังรู้สึกแย่น้อยกว่าถูกด่าว่า “ไอ้นักการเมือง” ผมจะโกรธมาก โกรธจริงๆ แค่คิดก็ขยะแขยง สะอิดสะเอียนเวียนหัวแล้ว

เหี้ย

ความจริงของปัจจุบัน รอบอกชาติหน้าไม่ได้

เรื่องทั่วไป 17 November 200827 September 2016

อาทิตย์ที่ผ่านมาได้อ่านหนังสือเรื่อง “ความจริงของปัจจุบัน รอบอกชาติหน้าไม่ได้” เขียนโดยท่านผู้มีนามปกากว่า เขมกร คุณเขมกรท่านนี้ ท่าทางจะมีอายุสักหน่อย แต่เป็นคนธัมมะธัมโมตั้งแต่เด็ก ได้ปฏิบัติธรรม จนมีความสามารถพิเศษในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าคนทั่วๆไป เพราะในหนังสือท่านได้บอกว่า สามารถสื่อสารกับวิญญาณ ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรได้ ฯลฯ ผมอ่านวันเดียวจบ เพราะเนื้อหาหนังสือน่าอ่าน อ่านสนุก มีประสบการณ์เกี่ยวกับวิญญาณหลากหลาย แปลกๆ ทุกเรื่องมีคติท้ายเล่ม มีแง่คิดเกี่ยวกับการทำความดี และการทำความชั่ว ที่สำคัญเกือบทุกเรื่องจะมีข้อความจากพระไตรปิฏกมาปิดท้าย อ่านแล้วก็น่าสนใจ และพาให้กลัวในเรื่องเวรกรรม บาปกรรม และบุญกรรม หนังสือแนวๆนี้ในยุคปัจจุบันมีน้อยเต็มที เน้นหนักไปในเรื่องรักๆใคร่ๆ เสียมาก หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่นที่กำลังห่างไกลจากคำว่า ทำดีหรือทำชั่ว บางคนทำชั่วจนชิน บางคนเคยรู้ตั้งแต่เด็กว่าตายแล้ว จะต้องไปชดใช้กรรม ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ แต่มักอ้างว่า ชาติหน้าเป็นเรื่องหลังความตาย ขอให้ชีวิตรอดได้ในชาตินี้ก่อน ชีวิตหลังความตายน่ากลัวว่าที่คิดเยอะ ผมพึ่งเสียเพื่อนสนิทไป เมื่อประมาณกลางๆปีนี้ ก็ยังมานั่งๆคิดเล่นๆ ว่าเพื่อนเราไปไหนแล้ว ณ ตอนนี้ เพื่อนจะรู้ตัวมั้ย จะตกใจมั้ย จะกลัวมั้ย จะไปไหน หรือจะยังไง ฯลฯ คิดดังนั้นก็ย้อนมาคิดถึงตัวเราเอง เมื่อถึงเวลานั้น เวลาที่เราต้องไปแบบนั้นบ้าง เราจะยังไง จะกลัวมั้ย จะเดินไปไหน ที่ๆนั่นมืดมากมั้ย ท่านยมบาลน่ากลัวมั้ย ระหว่างบาปกับบุญของเรา อันไหนจะมากกว่ากัน และเราจะถูกตัดสินให้ไปชดใช้ในนรกขุมไหน หรือให้ไปเสวยสุขที่สวรรค์ชั้นใด ฯลฯ ในหนังสือเล่มนี้บอกว่า ชีวิตหลังความตายเป็นอย่างนี้จริงๆ เป็นอย่างที่เราถูกสอนมาตั้งแต่เด็กโดยคนเฒาคนแก่จริงๆ และเมื่อถึงเวลานั้น “เราจะกลัวมั้ย?” ผมถามตัวเอง คำตอบก็คือ เหมือนเราสมัยประถม เวลาเข้าแถวหน้าเสาธง เมื่อครูออกไปพูดหน้าเสาธง ถ้าเราทำอะไรผิด เราก็กลัวแสนกลัว ไม่กลัวสบตาครู ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด หนำซ้ำทำแต่ความดี นอกจากไม่กลัวครูแล้ว ยังเสนอหน้าให้ครูเห็นชัดๆ เผื่อครูจะกล่าวชมถึงความดีของเราที่หน้าเสาธง คนทำดีไว้มากมายพอแล้ว ถึงตายไปก็ไม่กลัว ก็แค่ย้ายบ้านใหม่ ส่วนคนชั่ว เวลาละโลกนี้ไป นั่นหมายถึงเวลาตัดสินคดี ไม่ถูกประหารชีวิตก็ถูกจับทรมานอย่างสยอดสยอง อยู่ที่ความชั่วที่ตัวก่อไว้ ดังนั้นแล้ว..มาสะสมความดีกันเถอะครับ ถึงเวลาย้ายบ้านจะได้สบาย

ตัวต่อตัว..ไม่กลัวอยู่แล้ว

ไดอารี่ 28 January 2011

ช่วงนี้แฮงก์บ่อย ไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้เมา แต่คิดมาก ..คิด คิด มาก มาก ตอนเด็กๆ ได้ยินผู้ใหญ่ชอบพูดว่า เป็นเด็กสบายไม่ต้องคิดมาก ก็ไม่เข้าใจว่า ผู้ใหญ่เขาคิดมากเรื่องอะไร? วันนี้เป็นผู้ใหญ่กะเขาบ้างแล้ว ก็เลยเข้าใจว่า ผู้ใหญ่เขาคิดมากเรื่องอะไร? มันบอกเป็นชื่อเรื่องไม่ได้ เพราะไม่รู้จะตั้งชื่อเรื่องอะไร แต่มันสุมๆ กองๆ เยอะๆ วุ่นๆ วายๆ อยู่ในหัว จะจัดการอย่า่งไร? ให้หมดไปคงยาก คงมีวิธีเดียว คือตามรอยพุทธองค์ หยุดใจให้นิ่ง..แยกแยะปัญหาแต่ละเรื่องออกมา เมื่อเรียงปัญหาตามลำดับความสำคัญ 1 2 3 แล้ว ก็กระโจนใส่ทีละปัญหาอย่างบ้าคลัง ดูสิว่า ใครจะแน่กว่ากัน ถ้าตัวต่อตัวรับรองมันสู้เราไม่ได้อยู่แล้ว ที่เราแพ้ เพราะเราเอาตัวคนเดียวสู้กับปัญหาทั้งหมด แต่ถ้าลองแยกปัญหาแต่ละตัวออกจากกัน แล้วลุยตัวต่อตัวทีละปัญหา.. รับรอง ..ชนะชัวร์ ปล. คิดเป็นนี่ ..แต่ทำให้ได้นะโคตรยาก!!

อ่านต่อ

เที่ยวปราสาทหิน..ถิ่นพระเจ้าราเชนวรมัน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 January 201023 September 2016

ทริปเล็กๆ ในตอนปีใหม่ ระหว่างเดินทางไปตจว.ก็แวะเที่ยวเป็นระยะ ใครเคยไปคงพอเดาออกว่าที่ไหน ..ถ้าเดาไม่ออกจะเฉลยละกันนะครับ นี่คือ “ปราสาทพนมรุ้ง” ในวิกิพีเดีย กล่าวถึงพนมรุ้งไว้ว่า ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งสูง 1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชื่อพนมรุ้งแปลว่าภูเขาใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18 จารึกต่าง ๆ ที่นักวิชาการได้อ่านและแปลพอจะสรุปได้ว่า พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 3 กษัตริย์แห่งเมืองพระนคร (พ.ศ. 1487-1511) ได้สถาปนาเทวาลัยถวายพระอิศวรที่เขาพนมรุ้ง ซึ่งในสมัยแรก ๆ คงยังไม่ใหญ่โตนัก ต่อมาพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 (พ.ศ. 1511-1544) ได้ทรงอุทิศที่ดินและข้าทาสถวายแด่เทวสถานพนมรุ้ง ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 นเรนทราทิตย์ เจ้านายแห่งราชวงศ์มหิทรปุระที่ปกครองดินแดนแถบนี้ (ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างนครวัด) ได้สร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นและได้ทรงบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ ปราสาทพนมรุ้ง จากนั้นที่แวะยอดฮิตครับ วังน้ำเขียว พอดีเย็นมากแล้วยังไม่มีที่พัก ระหว่างทางแอบเห็นป้ายโฆษณารีสอร์ทต่างๆ เลยลองโทรสุ่มดู เผื่อยังมีที่ว่างให้ซุกหัวนอน ที่แรกก็ได้เลยครับ เจ้าของบอกว่า ความจริงไม่ว่าง แต่คนที่จองเขายกเลิก ห้องน้อยเลยตกเป็นของเรา ผมรีบบึ่งเข้าไปทันที .. นี่คือเจ้าของบ้าน เป็นแมวท้องโต เดินตามเราไม่หยุดเลย ถ้าจะถามว่า ปลายภูหมอก โอเคมั้ย เต็ม 10 ผมให้ 3 ครับ ทางเข้าก็แคบ ขรุขระ รถสวนกันไม่ได้เลย ถ้าบังเอิญมาปะกันระหว่างทางจะทำยังไง?? แอร์ไม่มี (แต่ตอนโทรคุยกันบอกมี) ไฟแสบตามาก อันนี้ผมรับไม่ได้สุดๆ พี่แกเน้นไฟสว่างรีสอร์ท รวมถึงตัวห้องแบบประหยัด ใช้ไฟตะเกียบ แบบสว่างจ้า แสบตามาก นอนดูทีวีบนเตียงต้องปิดไฟ จริงๆรีสอร์ทต้องมีไฟสลัวๆ หรี่ๆ แบบนุ่มๆ สบายตา อันนี้รับไม่ได้ๆ…

พนมรุ้ง
อ่านต่อ

บ้านกรูด ทะเล – สวย – สงบ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 17 April 200923 September 2016

ปีใหม่แบบไทยๆ สาดน้ำ ปะแป้ง รดน้ำ ดำหัว ยึดรถเมล์ เผารถ ไล่กระทึบ ยิง ฟัน ฆ่า ฯลฯ กลายเป็นวันประวัติศาสตร์ไปอีกวัน นอกจาก 6 ตุลา , 14 ตุลา, พฤษภาทมิฬ , 7 ตุลา และล่าสุดสดๆร้อนๆ 12 เมษา คนไทยแบ่งเป็นฟักฝ่ายโดยแยกตามสี สีใหญ่ๆมี 2 สี แต่ไม่แน่ใจในอนาคตจะมีสีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ สีน้ำเงินที่โผล่มาแค่วันเดียวก็หายไป อาจจะเป็นสีเฉพาะกิจ แต่จะสีไหนก็ตาม เสื้อผ้าทั้งสองสีของผม ถูกพับเก็บไว้ในตู้มิดชิด ไม่ยอมใส่มันอีกต่อไป (ถึงจะชอบแค่ไหนก็ตาม)   วกมาเรื่องตัวเองบ้างดีกว่า สงกรานต์ปีนี้ก็เหมือนทุกๆทีครับ ..ไปทะเล ผมไม่ได้ไปเยี่ยมแม่ พี่น้อง หรือญาติผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์นานแล้ว..(จนลืมไปแล้วว่า วันสงกรานต์ต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะถูกต้องตามจารีตประเพณี) จารีตประเพณีที่บังคับให้เราทำอะไรเหมือนๆกันในวันเดียวกันนี่เอง ทำให้เกิดปัญหา~ ปัญหารถติดเพราะต้องออกไปไหว้ผู้ใหญ่ในวันเดียวกัน ปัญหาสถิติคนตาย ปัญหาคนตกรถ อุบัติเหตุ ฯลฯ   เราถูกตั้งกฏ(โดยสื่อหรือใครก็ไม่รู้)ให้รักแม่รักพ่อปีละครั้ง รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ปีละ 3 วัน มีการรณรงค์ส่งเสริมให้ไปไหว้พ่อไหว้แม่ในวันดังกล่าว จนคนที่รักพ่อรักแม่อยู่ทุกวัน ไหว้พ่อไหว้แม่อยู่ทุกวัน รู้สึกไม่มั่นใจว่าที่ทำๆทุกวันนั่น ใช่รักพ่อรักแม่รึยัง? ต้องรีบไปไหว้เป็นพิเศษในวันนั้นให้ได้ ส่วนคนอื่นๆที่พ่อแม่อยู่ไกล ก็ต้องรีบออกจากบ้านออกเดินทางพร้อมกันในวันเดียวกัน จะไม่ไปก็ไม่ได้ เปิดทีวีช่องไหน ก็มีแต่ภาพดาราไหว้พ่อไหว้แม่ กอด จูบพ่อแม่อยู่นั่น จนคนดูเริ่มรู้สึก (แรกๆแค่รู้สึกคิดถึงพ่อแม่ แต่หลังๆชักรู้สึกมั่นไส้) ผมก็ไม่ได้แอนตี้ประเพณีแบบนี้กันหรอกนะครับ เพียงแต่ว่า ปีละครั้ง มันพอเหรอ?? รณรงค์ ส่งเสริมกันแค่ปีละครั้งเองเหรอ คนที่รักพ่อแม่จริงๆ ทำได้ทุกวันง่ายๆ ทำตัวให้เป็นคนดี จะทำอะไรไม่ดีก็ขอให้คิดถึงท่านก่อน ก่อนนอนกราบพระและระลึกถึงท่าน อุปัฏฐาก บำรุง ดูแล ตามสมควร ฯลฯ เอาละ พูดมาเยอะแยะนั่นนะ ความรู้สึก ความเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ ไม่ต้องเห็นร่วมก็ได้ เอาภาพที่หนีกรุงเทพฯไปเที่ยวทะเลมาฝาก (ต้องใช้คำว่าหนีจริงๆ เพราะวันที่ไปนั่นนะ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดแล้ว…

กุ้งรสเด็ด

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 4 July 2008

เพื่อนคนหนึ่งกำลังจะบรรจุเป็นร้อยตรี และจะไปประจำการที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เมื่อไปประจำการที่นั่นแล้ว ก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้กลับมาอีก จะมีโอกาสกลับมาไหม หรือยังไง ก็ไม่รู้ ..ก็จึงถือโอกาสนี้เลี้ยงส่งกัน ตามความคาดหมายทีแรก คิดว่าน่าจะมีเพื่อนมามากกว่านี้ แต่ถึงเวลาจริงๆ เนื่องจากอีกวันเป็นวันทำงาน คนโน้นติดงานบ้าง คนนี้อยู่ไกล ฯลฯ ก็เลยมากันได้แค่ไม่กี่คน งานนี้เราไปกินกันที่ร้านรสเด็ก สามแยกพระโขนง เป็นร้านกุ้งกะทะบุพเฟ่ต์ คนละ 99 บาท เดิมทีร้านนี้เป็นของคุณสมรักษ์ เนื้อย่างเกาหลี แต่พี่แกบริหารงานอีท่าไหนไม่ทราบ ถึงได้ตกมาอยู่ในมือของรสเด็ดในปัจจุบัน การเดินทางไปสะดวกมาก จากแยกคลองตันไป ก็มีหลายสาย 25, 71, 40 หรือรถซุบารุขนาดเล็กก็ได้ วิ่งตรงมาจนถึงสามแยก ร้านจะตั้งอยู่กลางแยกพอดี สังเกตง่ายเห็นชัด ห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 50 เมตร ว่ากันถึงบรรยากาศ ร้านนี้บรรยากาศไม่ค่อยจะดีมากนัก ออกจะแออัดไปนิ๊ด (ร้านหมูกะทะในความคิดผม ควรจะเป็นแบบสวนๆ โล่งๆ สบายๆ หน่อย) แต่คนเยอะพอสมควร ขนาดไปตั้งแต่ 6 โมงเย็น ก็เริ่มจะหาที่นั่งลำบากเสียแล้ว ส่วนอาหาร ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ แล้ว ที่นี่ค่อนข้างให้อาหารเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นกุ้งที่มีมาให้เป็นระยะๆ ปลาหมึก ปลาเผา สเต็ก และอาหารทั่วๆไป ข้าวพัดรสชาติไม่เพี้ยน ของหวานก็หลากหลายครับ (บางที่ผมเคยเห็นของหวานมีไม่เกิน 5 อย่าง แต่ที่นี่เป็นสิบ) ที่นี่มีเบียร์หลายยี่ห้อให้ทดลองชิม น้องๆเชียร์ก็มีหลายเจ้า Hineken, Tiger, Cheer, Singha ฯลฯ เจ้าภาพงานนี้ปฏิเสธเบียร์ Tiger ด้วยเหตุผล น้องเชียร์เบียร์ไม่น่ารัก แถมปากร้าย แต่ยอมดื่มเบียร์ Cheer แม้ไม่เคยดื่มเลยในชีวิต ด้วยเหตุผลนี้ครับ หน้าตาเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่เธอปฏิเสธว่าไม่ใช่ และบอกว่ามาจากขอนแก่น ! สอบถามชื่อนาม เธอชื่อ กุ้ง มีชื่อจริงว่า สาวิตรี แซ่ไหล ธุรกิจบัณฑิตย์ ปี 2…

กุ้ง

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH