Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

บ้านบ้าน

เกี่ยวกับเรื่องบ้านที่เป็นวิมานของผมล้วนๆ ครับ

อ่านต่อ

ร่องรอยผู้บุกรุก

บ้านบ้าน 14 August 201328 October 2015

ไม่ไ้ด้คิดไปเองแน่ๆ ..เพราะเสียงนั่นมันมาจากหลังบ้าน!! เสียงคุยกันอย่างกระซิบกระซาบในความมืด ไม่แต่ผมที่ได้ยิน จิ๊กกี๋สุนัขสัญชาตญาณนักล่าหูขวากระดิ๊กตลอดเวลาที่มีเสียง ผมย่องอย่างแผ่วเบาในราตรีไปที่หลังบ้าน ค่อยๆแง้มประตูอย่างเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ หลังบ้านปกคลุมด้วยความมืด หลังจากเปิดประตูออกไป ผมรีบเปิดสวิตซ์ไฟทันที!! ทั้งสองตกใจอย่างสุดขีดเมื่อหันมาเจอผมอย่างจัง จิ๊กกี๋กระโจนเบียดผมออกจากประตูไป แต่ไม่ทัน มันเร็วมาก .. วิ่งตามกันบนกำแพงบ้านก่อนจะลัดเลาะปีนป่ายไปบนหลังคาอย่างแคล่วคล่อง ทิ้งไว้แต่ร่องรอยมูลและคราบน้ำบางอย่างไว้บนหลังตู้ มันคือกระรอกผัวเมียที่กำลังหาเรือหอ และมันก็เล็งหลังบ้านผมไว้ .. และภาพนี้คือหลักฐาน ภาพจากสถานที่จริง และอึของกระรอกจริงๆ

กระรอก
อ่านต่อ

อึลึกลับ

บ้านบ้าน 8 July 201328 October 2015

เมื่ออยู่ๆ ก็ปรากฏอึลึกลับของตัวอะไรสักอย่างที่คาดเดาไม่ได้ ณ ทางออกหลังบ้าน

ขี้ อึ
อ่านต่อ

น้ำท่วมบ้านนะเออ

บ้านบ้าน, สุขกะภาพ, ไดอารี่ 7 November 201128 June 2013

ขอคั่นทริปเที่ยวเมืองจีนด้วยสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้าน

น้ำท่วม บ้าน
ลั่นทม..หลังบ้าน อ่านต่อ

ลั่นทม..หลังบ้าน

บ้านบ้าน 25 June 2011

เห็นว่าวันนี้อากาศดี เลยจะพาไปนั่งเล่นที่ระแนงหลังบ้านซะหน่อย.. บ้านทาวน์โฮมทั่วไปเกือบทุกหลังจะตีหลังบ้านทึบทำเป็นครัว เพราะบ้านมีพื้นที่น้อย แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น รู้สึกมันอึดอัดเกินถ้าจะปิดหลังบ้านทึบ เลยตีพื้นระแนงด้วยไม้สมาร์ทวูด และตีระแนงที่กำแพงให้สูงขึ้นอีกหนึ่งเมตร เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆน้อยๆ ..ต้นลีลาวดีหรือชื่อเก่า “ลั่นทม” สองต้นซ้ายและขวานั้นได้อานิสงส์จากบ้านคุณเกลือ เห็นว่าเป็นพันธ์สามกษัตริย์คือมีดอกสามสี..ไม่พอเท่านั้นครับ หลังบ้านจะจืดไป จัดการละเลงสีเข้าไปตามใจชอบ อยากได้สีอะไรก็เทกันเข้าไป ตั้งใจว่าถ้าสีเก่าลอก จะทาสีใหม่ให้แซ่บกว่านี้ ถ้าเบื่อหน้าบ้านที่เป็นสวนสาธารณะก็จะแอบมานั่งในพื้นที่ส่วนตัวหลังบ้านได้ ‘ว่างๆก็เชิญนะครับ’

บ้าน ระแนง
อย่าโกรธเลยนะ อ่านต่อ

อย่าโกรธเลยนะ

บ้านบ้าน 16 February 2011

ความโกรธทำให้แก่เร็วขึ้นมาก ถ้าบอกว่าความโกรธทำให้แก่ คนเริ่มไม่กลัว เพราะถึงไม่โกรธคนก็แก่ขึ้นทุกวันอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ความโกรธมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และไม่ทันได้ตั้งตัว จนบางครั้งทำให้เผลอพลาดทำเรื่องที่ผิดพลาดใหญ่หลวงไปแล้วถึงได้สติ ซึ่งมันก็สายไปเสียแล้ว สำหรับผู้มีสติ ก็จะมองเห็นความโกรธ รู้เท่าทันและจัดการกับมันอย่างเหมาะสม ความโกรธมาได้อย่างไร คนเรามีประสาทรับรู้ 6 แห่ง เรียกว่าอายตนะทั้ง 6 ถ้าสิ่งทีี่รับรู้มาน่ารื่นรมย์ใจก็เป็นสุข แต่ถ้าได้รับรู้ในสิ่งที่ไม่ถูกใจก็เป็นทุกข์ หรือโกรธ จะโกรธมาก โกรธน้อย อยู่ที่ว่าสิ่งที่รับมามากน้อยแค่ไหน ประสาททั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตา ได้เห็นภาพบาดใจ เช่น แฟนของเราไปกับคนอื่น โกรธ หู ได้ยินมาว่า แฟนเราไปกับคนอื่น โกรธ จมูก ได้กลิ่นน้ำหอมแปลกๆติดมากับเสื้อของแฟน โกรธ ลิ้น ได้รับรสอาหารที่ไม่อร่อย ไม่ถูกใจ โกรธ กาย ถูกเตะ/ต่อย/ตี โกรธมาก ใจ หลังจากได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สัมผัสเรื่องไม่ดีทั้งหมดข้างต้นมาแล้ว เก็บเอามาคิดมาเป็นอารมณ์ .. โกรธ อาฆาต คิดมาก เครียด นั่นแหละครับ ที่มาของความโกรธ แล้วจะรู้เท่าทันมันได้อย่างไร ตา เห็นภาพบาดตา อย่าพึ่งวู่ว่ามโวยวายจนเสียการ ตั้งสติแล้วเข้าไปถามด้วยคำพูดที่ปกติและสุภาพที่สุด หู ได้ยินเรื่องไม่ดีมา อย่าพึ่งเชื่อทั้งหมด 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น หาข้อเท็จจริงด้วยใจที่ไม่ลำเอียงก่อน จมูก ได้กลิ่นไม่ดี ระงับความโกรธ ถามหรือหาความจริงด้วยใจไม่ลำเีอียง ลิ้น ทุกอย่างในโลกมีทั้งดีและไม่ดีเสมอ แม้ในสิ่งดีสำหรับบางคน ก็อาจไม่ดีสำหรับอีกคนก็ได้ เมื่อได้ลิ้มรสชาติไม่ดี ก็แค่ไม่กินมัน แต่ไม่ต้องถึงกับทิ้งหรือโวยวาย เพราะอาหารนั้นอาจถูกใจคนอื่น กาย หากได้รับการเตะ/ต่อย/ตี แล้วตอบโต้ ทุกอย่างจะไม่จบเพียงเท่านั้นจนกว่าจะมีผู้สูญเสีย ซึ่งนั่นแปลว่ามันสายไปแล้ว หากเขาเตะ/ต่อย/ตีเราแล้วมีความสุข เราควรจะดีใจที่ได้ช่วยให้คนอื่นสมหวัง ใจ ทำใจให้เป็นกลาง ปล่อยวาง ไม่นำมาสุมในหัวใจให้เป็นทุกข์ ..สาธุ ปล….

โกรธ
สุดเขต..สเลดเป็ด อ่านต่อ

สุดเขต..สเลดเป็ด

บ้านบ้าน, เรื่องทั่วไป 23 January 201128 October 2015

ไม่ได้ดูหนังในโรงนานพอสมควร 1.ไม่มีเวลา 2. ไม่มีเงิน 1. ไม่มีเวลา ก็น่าจะจริง การดูหนังมันต้องเข้าไปดูในโรง นั่งรถไป รถก็ติด..เสียเวลา ไปถึงห้างจองตั๋วดูหนัง ใช่ว่าถึงปุ๊บ จะได้ดูหนังปั๊บ ต้องรออย่างน้อยๆ 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วระหว่างนั้นทำอะไรละ เดินดูของ กินข้าว เสียเวลาและเสียตังค์ ในห้างมีของวางเรียงรายล่อกิเลสเรามากมาย ไม่ควักตังค์ซื้อบ้างถือเก่งโคตร 2.ไม่มีเงิน เงินสำหรับดูหนังนะมี แต่ไม่มีเงินสำหรับกิจกรรมระหว่างรอดูหนังและค่าโดยสารสำหรับไปดูหนัง!! ที่ผ่านมาก็เลยอาศัยดูหนังแผ่นจากร้านเช่า ถูกดีแผ่นละ 20 แต่ต้องรีบไปคืนภายใน 1 วัน!! ก่อนหน้าจะดูหนังในโรงครั้งล่าสุดนี้ ดูหนังแผ่นเรื่อง “กวน มึน โฮ” เป็นหนังไทยจากค่าย GTH ที่อยากดูตั้งแต่เข้าโรง แต่ติดปัญหาจาก 2 ข้อข้างต้น พึ่งได้ดูแผ่นก็ชอบ สนุก จนอยากจะดูซ้ำ แต่ยังไม่ได้ดู เพราะเช่ามาวันเดียว ดูได้รอบเดียวก็ต้องรีบเอาไปคืน เดี๋ยวเขาปรับ!! ล่าสุดดูหนังในโรงเรื่อง สนุกแบบไม่หยาบคาย ไม่ตลกพร่ำเพรื่อ แอบมีแง่คิดเล็กๆ ไม่ต้องมาก คนดูไม่ชอบหนังที่ต้องขบคิดเยอะชีวิตมันเครียดพอแล้ว ถ้าเข้าไปดูหนังแล้วต้องนั่งคิดตีโจทย์เหมือนหนังเรื่อง inception ก็ไม่ไหว เครียด ปวดหัว งง เหี้ย ห่าอะไรไม่รู้ ดูจบแล้วต้องมานั่งคิดต่อ แต่ก็ยังไม่หายงง หลายซีนในหนังเรื่องนี้มีแอบจิก กัดแบบน่ารักๆ การจิกกัดทำนองนี้เมื่่อก่อนเป็นแนวถนัดของยุทธเลิศ แต่ตอนหลังๆเฮียแกทิ้งไป หนังของแกแต่ละเรื่องเลยดูไม่จืด ไม่สนุก และไม่ใช่(สำหรับผม)อีกต่อไป ความเห็นสำหรับ..หนังเรื่องนี้ – ไหนว่าเป็นผู้ชายนับ 3 เจอนางเอกมากกว่า 3 ครั้ง แต่ยังพูดมาเต็มปากกว่า 3 ครั้ง – การจีบหญิงแบบพระเอก ก็แนวดีอยู่หรอก แต่ใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ – คนหน้าตาเหี้ยๆ ถึงไปบอกหญิงว่าใจโคตรหล่อ เขาก็ไม่เชื่อหรอก จริงๆ – ชอบที่นางเอกบอกว่าไม่ชอบดูหนังภาคต่อ แต่ชอบดูเรื่องใหม่ (ความคิดนี้ใช้ได้กับเรื่องคนเหล็ก 3 ภาคต่อทำได้ห่วยแตก…

บ้าน บ้าน บานแล้วบ้าน อ่านต่อ

บ้าน บ้าน บานแล้วบ้าน

บ้านบ้าน 8 December 2010

นานมาก ..ไม่ได้มาเขียนอะไรไว้ที่นี่เลย ดูเหมือนชีวิตช่วงนี้จะขาดหายไป ..อะไรทำให้เป็นแบบนั้น? คำตอบสั้นๆครับ “บ้าน” ตั้งแต่ตัดสินใจซื้อบ้าน โอน และเริ่มต่อเติมบ้าน ในหัวสมองผมก็มีแต่เรื่องบ้าน บ้าน และบ้าน หลายๆอย่างไอเดียที่เกิดขึ้นในหัว แต่เวลาลงมือทำจริง มันออกมาได้แค่ใกล้เคียง ใช่ว่าช่างจะไร้ฝีมือนะครับ แต่เพราะ.. 1. ถ่ายทอดไอเดียออกมาไม่เป็นภาพ ช่างเห็นเป็นอีกอย่างตามแบบของเขา 2. ไอเดียบางอย่างมีค่าใช้จ่ายสูงมาก 3. ข้อจำกัดในเรื่องเงิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าข้อสุดท้ายสำคัญสุด!! ทุกกระบวนการขั้นตอนของการซื้อ สร้าง และต่อเติมบ้าน ผมก็ได้ถ่ายรูปไว้หมดแล้วละ ตั้งใจว่าบ้านเสร็จเมื่อไร ค่อยมาเรียบเรียง เรียงลำดับภาพตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน เห็นถึงระยะเวลาและกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนเลย แต่ใช้เวลายาวนานยิ่ง บางอย่างก็ขัดใจเหลือเกิน แต่เสียดายไม่ได้เกิดมาเป็นช่าง ไม่อย่างนั้นไม่ง้อหรอกก ลงไปผสมปูน ตอกตะปูเองแล้ว สร้างบ้านไม่ให้งบบาน ทำไม่ได้ง่า่ยเลย มีเรื่องให้เสียเงินอีกมากมายครับ พูดเรื่องเงินแล้วปวดหัว ..พอก่อนๆ ที่อยากจะมาบันทึกไว้ในวันนี้คือความคืบหน้าของบ้าน ตั้งแต่จองเมื่อมีนา โอนมิถุนา และเดือนนี้ธันวา ก็ใกล้ย้ายเข้าไปอยู่ได้แล้วครับ ขอฤกษ์จากพระอาจารย์ได้ฤกษ์เข้าบ้านวันที่ 22 ธันวาคม เชิญพระเข้าบ้านและถือฤกษ์นอนเป็นวันแรกด้วยเลย ส่วนวันทำบุญบ้านก็ว่ากันอีกที ณ ตอนนี้งานหลักๆที่ยังขาดคือ งานทาสีของช่างผู้รับเหมา งานเก็บรายละเอียดสีของช่างโครงการ งานแก้ไฟบางจุด และงานม่านหน้าบ้าน อาทิตย์นี้จะลุยทำความสะอาดใหญ่ และหลังจากนั้นก็น่าจะเก็บข้าวของย้ายเข้าไปอยู่ได้แล้วละครับ ซื้อบ้าน ทำบ้าน ..ไม่ใช่เรื่องง่า่ยเลย หมดยาแก้ปวดหัวไปหลายเม็ดเลยละครับ!!

ปลูกองุ่นหน้าบ้านดีไหม? อ่านต่อ

ปลูกองุ่นหน้าบ้านดีไหม?

บ้านบ้าน 3 June 2010

หลังๆ ผมหันไปบันทึกแบบสั้นๆ ไว้ที่ thaithaidairy ส่วนเรื่องยาวๆ เป็นเรื่องเป็นราว ก็คงเขียนที่นี่แหละครับ บอกเผื่อมีใครมาๆหายๆ แล้วรู้สึกว่าบล็อกที่นี่ทิ้งช่วงนานไป ก็แว่บไปดูที่นั่นได้ (ที่นั่นคุณสามารถสมัครเขียนด้วยกันได้ด้วยนะ :P) วันนี้มาพูดถึงเรื่องบ้านใหม่(ที่ยังไม่ไปถึงไหน)อีกที ครั้งล่าสุดที่ไปดูบ้าน ก็สำเร็จไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ ที่เหลือคงเป็นการตกแต่งรายละเอียดภายในบ้าน ทาสี และอื่นๆ  ระหว่างนี้ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า จะจัดบ้านอย่างไร ปลูกอะไรตรงไหน ใส่สีอะไรไปดี ฯลฯ คิดแต่ว่าจะใส่โน่นใส่นี่อ่ะนะครับ แต่ไม่เคยคิดถึงค่าใช้จ่าย 🙁 วันนี้แอบไปเห็นห้องน้ำแบบอนรักษ์ธรรมชาติ เห็นแล้วก็อยากได้ละนะครับ แต่คิดว่าห้องน้ำที่โครงการให้มา คงไม่ใหญ่พอที่จะทำแบบนี้ หรือถ้าจะขยายทำใหม่ ก็สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายไปเปล่า เอาเป็นว่าใช้ตามที่มีไปก่อน ไอเดียนี้ทดไว้ในใจ ไว้มีเรี่ยวแรงเมื่อไรค่อยลงมือ !! อีกอย่างที่อยากทำมาก คือระแนงหน้าบ้าน เมื่อก่อนหน้านี้คิดว่าคงปลูกไม้เลื้อยทั่วๆไป เช่น ม่านบาหลี ฯลฯ แต่วันก่อนไปทานอาหารแถวถนนอักษะ (หรือชื่อใหม่ ถนนอุทยาน) ไปทานร้านบ้านน้ำเคียงดิน ก็ไปเห็นไอเดียที่เขาปลูกต้นองุ่นให้มันเลื้อยนั่งร้านสวยงามทีเดียว มีลูกองุ่นด้วย แต่รสชาติหวานหรือเปรี้ยวมิได้ชิม  เลยได้ความรู้ใหม่ว่า องุ่นก็สามารถปลูกในกทม.ได้ และปลูกให้เป็นไม้เลื้อยได้เช่นกันหากปลูกอย่างถูกวิธี กลับถึงบ้านหาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกองุ่นต่อ ก็ได้ไปเจอที่นี่ครับ ‘ปลูกองุ่นในเมืองก็ได้ ง่ายนิดเดียว‘ เขาสอนวิธีปลูกองุ่นในเมือง ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จนถึงการดูแลรักษาและการทำให้องุ่นมีรสหวาน เห็นแล้วก็เกิดไอเดียครับ  เราต้องปลูกองุ่นหน้าบ้านให้ได้ !!! ตามคำแนะนำเขาก็คือว่า ต้องปลูกต้นองุ่นก่อนที่จะสร้างร้านให้มันขึ้นอย่างน้อย 3 เดือน พยายามรักษาต้นให้มันแตกใบให้ได้เยอะๆก่อน แล้วค่อยทำร้านให้มันเลื้อย 3 เดือนก็กำหนดบ้านผมเสร็จพอดี ดังนั้น ตอนนี้ต้องไปหาองุ่นมาเลี้ยงได้แล้วสินะ

องุ่น แต่งบ้าน
โต๊ะทำงาน ‘ธรรมดา..ที่ไม่ธรรมดา’ อ่านต่อ

โต๊ะทำงาน ‘ธรรมดา..ที่ไม่ธรรมดา’

บ้านบ้าน 8 April 201028 October 2015

แอบบไปเจอโต๊ะทำงานฝรั่งคนหนึ่งมา รู้สึกถูกใจในการจัดวางของใช้ต่างๆอย่างลงตัวและเหมาะเจาะดี โต๊ะทำงานที่เราไปเห็นตามห้าง หรือร้านขายเฟอร์นิเจอร์ จะมีการจำลองการวางคอมพิวเตอร์ แก้วน้ำ เอกสาร ฯลฯ  เห็นแล้วดูดี แต่เราลืมคิดถึงความเป็นจริง !! ความเป็นจริงที่ว่า ในชีวิตจริงของคนทำงานอย่างเราๆนั้น มีของใช้บนโต๊ะทำงานมากกว่านั้นเยอะมาก และไม่มีใครมาขยันเก็บโต๊ะทำงานให้สวยกิ๊กอยู่ทุกวัน ดังนั้น เวลาจะเลือกซื้อโต๊ะทำงานจริงๆ ต้องคิดถึงข้อนี้ด้วย ใช่ว่าเห็นอะไรสวย ก็จะซื้อจะเอาอยู่ร่ำ ดั่งโต๊ะทำงานที่ผมเอามาโพสต์ด้านบนนี้ วอเปเปอร์ด้านหลังเป็นสีฟ้าเข้ม โต๊ะเป็นแนวโปร่งเพื่อมองทะลุไปเห็นสีฟ้าได้อย่างสบายตา ความไม่ธรรมดาอยู่ที่ชั้นวางหนังสือและที่หนีบเอกสารทั้งซ้ายขวา โต๊ะคอมพิวเตอร์ธรรมดาๆ เลยกลายเป็นโต๊ะที่ไม่ธรรมดาทันที งานนี้ดูพอได้ไอเดียนะครับ

12

รับปริญญา..มหานคร

เรื่องทั่วไป 15 November 2009

วันเสาร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.52) มีเพื่อนที่ประสบความสำเร็จในการศึกษาอีกขั้นหนึ่ง นั่นคือ สำเร็จการศึกษาในชั้นปริญญาโท เพื่อนคนนั้นคือ ตุ๋อึ่ง หรือวนสัณฑ์ (สายัณห์) ศรีสร้อย ถ้านับเพื่อนที่มีอยู่(อันน้อยนิด)ของผมที่สำเร็จการศึกษาถึงขั้นปริญญาโทนั่นน้อยมาก ดังนั้น เมื่อเพื่อนคนหนึ่งประสบสำเร็จ ผมจึงไม่ลังเลที่จะไปร่วมแสดงความยินดี และถือโอกาสได้พบปะเพื่อนๆในกลุ่มอีกด้วย (ลองทายสิว่า..มือที่ปิดตา คือมือใคร) สำหรับตุ๋อึ่ง ผมไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคือวันที่ตุ๋อึ่งมาประกันตัวผม เปล่าๆ ผมไม่ได้ติดคุก ต้องเรียกว่ามาค้ำประกันเพื่อเข้าทำงานให้ผม ตุ๋อึ่งเป็นเพื่อนที่มีน้ำใจเสมอ ไม่ว่าเพื่อนจะมีอะไรและหนักหนาแค่ไหน เอ่ยปากเมื่อไร ตุ๋อึ่งก็จะยื่นมือช่วยอย่างเต็มใจ ผมเฝ้ามองความสำเร็จของตุ๋อึ่งอย่างชื่นชม ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานจนกระทั่งเปลี่ยนงานสู่ตำแหน่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นคนที่ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองอย่างน่าเอาเยี่ยงอย่าง ขณะที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ ก็ไม่วายหาโอกาสไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ขณะที่ผมยังจมอยู่กับความขี้เกียจและความกลัวว่า จะเรียนไม่จบ? ไม่มีตังค์เรียน..หรืออีกเหตุผลร้อยแปด แต่จริงๆแล้วก้อคือขี้เกียจนั่นเอง..   มหาวิทยาลัยมหานคร เขารับปริญญากันที่ไบเทคบางนาครับ ข้อดีของการรับที่นี่คือ สถานที่กว้างขวาง ไม่ร้อนแดด ไม่กลัวฝนเปียก..(วันนั้นฝนก็ตกด้วย)  หลังรับปริญญาเสร็จมีการไปกินเลี้ยงที่ร้าน เลจ ฮิวจ์ อยู่ในถนนเกษตร นวมินทร์ ตรงข้ามกับร้าน the pool หรือถ้าให้ง่ายก็อยู่ใกล้ๆร้านกุ้งเต้น มีป้ายใหญ่ๆ สูงๆ เป็นตระหง่าน ร้านเลจ ฮิวจ์ เป็นร้านกลางแจ้งขนาดใหญ่ กว้างมาก อยู่บนคลอง ตัวโต๊ะอาหารตั้งอยู่บนแพที่ผูกติดๆกัน มีคาราโอเกะด้วย(ถ้าสนใจ)  บรรยากาศดี ลมเย็นดี อาหารก็ถูก. งานนี้ตุ๋อึ่ง(ผู้รับปริญญา) เป็นผู้เลี้ยง พวกเราๆไปแสดงความยินดีกลับได้กินฟรีครับ (แฮะๆ) อ้อ..ไม่ได้ไปแค่สี่ห้าคนตามที่ปรากฏในภาพนะครับ ไปกันสิบกว่าคนครับ งานนี้จ่ายไปเท่าไรไม่รู้ เพราะผมกลับก่อนตั้งแต่ทุ่มครึ่งแย้วว..

อ่านต่อ

จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 32

วิ่ง, สุขกะภาพ 15 January 20173 November 2017

การไปวิ่งจอมบึงมาราธอนถือเป็นความใฝ่ฝันของนักวิ่งทั้งหลาย เพราะไม่ใช่ว่าใครจะไปวิ่งได้ นอกจากมีเงิน มีเวลาแล้ว ยังต้องลุ้นว่าสมัครแล้วจะได้รับเลือกให้ไปวิ่งหรือเปล่า ตอนสมัครวิ่งใจยังไม่พร้อมสำหรับมาราธอนเลยเลือกในระยะที่ตัวเองสามารถทำได้ก่อน นั่นคือระยะฮาล์ฟ แต่พอถึงเวลาจริงกลับเสียดายระยะมาราธอน.. เราน่าจะจบมาราธอนแรกเสียทีนี่เลย

จอมบึงมาราธอน
อ่านต่อ

รีวิวที่พัก ที่เที่ยวเขาใหญ่ ณ มายโอโซน My Ozone

ท่องเที่ยว 3 August 201918 March 2020

ขอต้อนรับสู่ my ozone ดินแดนดุจปราสาทในเทพนิยาย, พูดถึงเขาใหญ่ ที่นี่มีที่ให้เที่ยวหลายที่ แต่ถ้ามีเวลาแค่วันเดียวและที่พักของคุณคือที่ มาย โอโซน ขอแนะนำว่าตัดที่เที่ยวที่อื่นทิ้งให้หมด และใช้ชีวิตใน 1 วันของคุณที่มาย โอโซนเท่านั้น สืบเนื่องจากได้รับของสมนาคุณจากเพื่อนคนหนึ่ง ผู้ซึ่งมอบรางวัลแด่มิตรภาพด้วยที่พักดีๆ ที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ ..ก็จึงเป็นที่มาของการมาที่พักที่หรูหราในครั้งนี้  ที่นี่จะมีที่พักทั้งแบบเป็นห้องและเป็นหลัง ราคาก็แตกต่างกันไป มีไฮไลท์ตรงปราสาทที่เด่นตระหง่าเป็นทั้งที่รับประทานอาหารเช้า ฟิสเนต และสระว่ายน้ำ แต่สำหรับผมสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านั้นคือ สนามหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา .. เช้านี้ต้องออกไปวิ่งซะหน่อยแล้ว พาไปชมห้องพักแบบ standard ซึ่งเป็นที่พักของคนในค่ำคืนนี้  ทุกอย่างในห้องพักดูดีมีราคา เตียงนุ่มสมราคา ตำแหน่งแสงไฟแต่ละจุดไม่แยงตา ไม่ทำร้ายสายตา นอนได้แม้ในเวลากลางวัน แง้มบานประตูด้านหลังออกไปจากเห็นทุ่งหญ้าสวยงาม แค่ใช้ชีวิตในห้องนอนนี้ก็คิดว่าคุ้มค่ามากแล้ว ..แต่อย่าเลยครับ ด้านนอกห้องยังมีอะไรให้เที่ยวชมอีกมาก นอนแต่พอหายเหนื่อย ออกไปเที่ยวรอบๆดีกว่า.. อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับที่นี่เลย นั่นคือ สระว่ายน้ำ นอกจากจะมีโซนที่นั่งริมสระหลากหลายทั้ง outdoor และ indoor แล้ว ขนาดของสระใหญ่พอที่จะให้กระโดดโลดเล่นว่ายได้จนเหนื่อยหอบเลยละครับ  ข้อดีของที่นี่อีกอย่างคือ ไม่หวงสนามหญ้า ด้านหน้าปราสาทและด้านหน้าที่พัก สามารถจอดบนสนามได้เลย อ้อมไปด้านหลังปราสาทจะพบดอกหญ้าเป็นกลุ่มแนวสวยงาม ซึ่งจะมีสนามหญ้าเป็นเนินสนับกันไปสวยงาม มองออกไปไกลๆเป็นแนวเขาใหญ่ ราวกับที่นี่เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าเขาในยุคเก่า หยุดใจที่วุ่นวายสักพัก หายใจอย่างช้าๆ และสะกดเวลาให้เดินช้าที่สุด ผมกับเจ้าขาววิ่งอ้อมออกด้านหลังปราสาทที่เป็นสนามกอล์ฟ สำหรับคนที่ชอบวิ่งหรือชอบปั่นจักรยาน นี่คือสวรรค์ชัดๆ ถนนคอนกรีตเล็กๆลัดเลาะไปตามเนินเขาเล็กๆ มองไปจนลับหูลับตาราวกับว่าเชิญชวนให้เราออกไปสัมผัสมัน รุ่งขึ้นอีกวัน ออกไปสำรวจโซนอื่นๆบ้าง เห็นว่ามีสวนดอกไม้อยู่ไกลๆด้านหน้าโน้น ส่วนร้านกาแฟเห็นมีคนเยอะ ก็เลยไม่ได้แวะครับ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืนที่รู้สึกว่ามีอะไรให้ค้นหาตลอดเวลาครับ ห้องก็น่านอนน่าอยู่ แต่ก็คิดว่ามีเวลาน้อยเกินที่จะนอนหลับเฉยๆแล้วตื่นขึ้นแต่งตัวออกจากที่พัก หากอยากหลับตาและตื่นขึ้นท่ามกลางปราสาทกลางป่าเขา ที่นี่คือคำตอบครับ

มายโอโซน เขาใหญ่
อ่านต่อ

เทมวัลลีย์ เขาใหญ่

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 25 March 202025 March 2020

เขาใหญ่ยังเป็นสถานที่ๆมีมนต์เสน่ห์ ใครคิดอะไรไม่ออกว่าจะไปไหนก็มักจะไปเริ่มต้นที่เขาใหญ่ก่อนเสมอ ใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก มีธรรมชาติที่สัมผัสได้ และที่สำคัญมีรีสอร์ท โรงแรม ที่พักเยอะมากกก ทั้งราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น วันนี้ขอเสนอที่พักหลักพันของโรงแรมที่เรียกตัวเองว่า “เทมวัลลีย์” ผมพักในเรตราคาต่ำสุดนั่นคือ คืนละสี่พันสองร้อยบาท บรรยากาศโดยรอบโรงแรม ด้วยราคาที่พักและการบริการบวกอาหารอร่อยโรงแรมนี้คุ้มค่าการมาพักผ่อนมากครับ แต่สำหรับผมไปพักบ่อยๆไม่ได้ (เดี๋ยวไม่มีเงินกินข้าว) ทริปหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ

เขาใหญ่ เทมวัลลีย์
อ่านต่อ

น่าน..งัย

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 February 201428 October 2015

จังหวัดน่านเป็นจังหวัดเล็กๆในภาคเหนือ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และภูเขาส่วนใหญ่ไม่มีต้นไม้ เนื่องจากเมื่อก่อนคนที่นั่นมีค่านิยมตัดไม้มาสร้างบ้าน บ้านต้องมีท่อนไม้ใหญ่ๆ ถึงจะแสดงถึงฐานะ ปัจจุบันค่านิยมนี้เริ่มหมดไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นตามบ้านเก่าแก่ของคนน่าน ผลที่เกิดจากค่านิยมนี้ทำให้ภูเขาหลายๆลูกในจังหวัดน่านไม่มีต้นไม้!! ระยะทางจากรุงเทพไปน่านประมาณ 860 กิโลเมตร ถ้าจะไปเที่ยวแนะนำให้ไปในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลปีใหม่ ที่ไม่แนะนำเพราะผมเจอมาแล้วกับตัว! ถึงจังหวัดน่านจะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่การเดินทางไปทางเหนือยังไงเสียก็ต้องอาศัยทางเดียวกันอยู่ดี ดังนั้น ระหว่างทางทั้งไปและกลับผมรถติดเต็มๆ การท่องเที่ยวครั้งนี้ผมเลือกขับรถไปเองครับ โดยน้องพิงกี้ หรือมารชมพู ไปพร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน 2 คัน ไม่มีการจองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์ อาหาร และเครื่องนอนแล้ว ใยต้องกลัวอะไร? เดินทางวันแรกวันที่ 28 ธ.ค. 56 แต่เช้าตรู่ รถไม่เยอะมาก แต่ก็ใช้ความเร็วมากไม่ได้สักเท่าไร วันแรกเลยไปไม่ถึงน่าน ได้แค่จ.แพร่ อ.สูงเม่น อากาศยังไม่หนาวมากเท่าไร วันต่อมาออกเดินทางท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆในแพร่ก่อน แล้วมุ่งหน้าไปดอยเสมอดาว จ.น่าน ระหว่างทางไปดอยเสมอดาว วิวข้างทางสวยงามมากครับ แต่ไม่มีเวลาจอดถ่ายรูป ต้องรีบไปดอยเสมอดาวเพื่อหาที่นอนให้ได้ก่อนในคืนนี้ ณ ดอยเสมอดาว ปกติที่นี่จะแทบไม่มีคน หรือถ้ามีก็รับคนได้สูงสุดไม่เกิน 30-40 คน แต่วันนี้ที่เราเดินทางไปถึง คนร่วมร้อย!! จุดกางเต๊นท์ที่เจ้าหน้าที่จัดให้เต็มหมดแล้ว ที่เหลือต้องหาจุดกางเอง ซึ่งแทบจะไม่มีที่กางแล้ว ที่ๆเราได้อย่าใช้ชื่อว่าเป็นที่กางเต๊นท์เลยครับ เพราะมันเป็นพื้นที่ไม่เรียบ นั่งตรงๆไม่ได้จะไหล ไม่ต้องพูดถึงนอน นอนไม่หลับเลยทั้งคืน!! แต่อากาศหนาวมาก ตื่นเช้าเริ่มรู้สึกไม่สบาย … หลังจากเก็บเต็นท์เครื่องนอน และทานข้าวต้มที่ทำขึ้นเองในตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไป อ.บ่อเกลือ อ. บ่อเกลือตั้งอยู่บนดอยสูง ถนนถึงแม้จะดี แต่ก็มีความโค้ง เลี้ยวเยอะค่อนข้างน่ากลัว ต้องใช้เกียร์ต่ำตลอด และพอถึง อ.บ่อเกลือซึ่งอยู่บนดอย อากาศกลางวันกับกลางคืนต่างกันสุดขั้ว ส่งผลให้วันรุ่งขึ้น ผมป่วย 100% มีไข้ และไอรุ่นแรง วันต่อมาเดินทางลงจากบ่อเกลือเข้าเมืองน่าน เพื่อที่จะพักในตัวเมืองน่าน ก่อนออกเดินทางกลับในวันถัดไป …เรามาส่งท้ายปีเก่าที่เมืองน่านครับ ตัวเมืองน่านเองเป็นเมืองที่เงียบ ๆ เล็กๆ  แม้จะเป็นช่วงปีใหม่ก็ยังเงียบ แต่มีงานส่งท้ายปีใหม่ที่ศาลาว่าการน่าน เช้าของวันปีใหม่ อาการไข้ดีขึ้น…

อ่านต่อ

หลับให้สบายเถอะ..ลูกรัก

ไดอารี่ 19 July 200930 June 2016

ผมเลี้ยงกระต่ายมาปีกว่าแล้ว มันชื่อจุ๊บๆ น่ารัก เชื่อง ซน กัดแทะทุกอย่างในบ้าน ตั้งแต่ไม้กวาด สายไฟ กระเป๋า ผ้า จนถึงขนตัวเอง ผมเคยซื้อกระดิ่งผูกคอให้ มันรำคาญแต่กัดกระดิ่งออกไม่ได้ เลยกัดขนตรงคอที่มีกระดิ่งซะเกลี้ยงเลย เริ่มเชื่อรึยังว่ามันเป็นสัตว์สัญชาติแทะ ผมเลี้ยงจุ๊บจุ๊บแบบปล่อย ไม่เคยขังกรง ปล่อยให้อยู่ที่ระเบียงมีร่มเงา กรง และโพรงให้ จุ๊บจุ๊บอึฉี่เป็นที่เป็นทาง มันมักจะเข้าไปอึฉี่ในกรงที่ด้านล่างมีถาดรองอึมันอยู่ ด้วยความที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อย จุ๊บจุ๊บจะติดคนมาก เวลากลางคืนมักจะออกมาเล่นกับผม มาคลอเคลีย เอาหัวมาซบ (ส่วนใหญ่ซบขาเพราะผมนั่งบนเก้าอี้) จุ๊บจุ๊บชอบให้ลูบหัว ไม่ว่าสิ่งที่ลูบนั้นจะเป็นมือหรือเท้าก็ตาม อาหารที่ชอบที่สุด คือ ขนมปังฟาร์มเฮาส์ แต่อาหารที่ขาดไม่ได้คืออาหารเม็ดของซีพี พอได้ยินเสียงถุงพลาสติก จุ๊บจุ๊บเป็นต้องหูผึ่งวิ่งปรี่มาหา นึกว่ามีขนมให้กิน จุ๊บจุ๊บมักร่าเริงในเวลากลางคืน และหลับในเวลากลางวัน เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 52) ฝ้าในห้องผมพังลงมา ด้วยเจอลมแรง ผมไม่คิดเลยว่า ฝ้าที่ตกลงมานั้น เป็นสัญญาณแห่งความสูญเสียในครั้งนี้ ผมจำเป็นต้องพาจุ๊บจุ๊บไปอาศัยอยู่ที่อื่นก่อนสักพัก เพื่อเจ้าของหอจะได้มาซ่อมฝ้า เหตุที่ต้องพาไปที่อื่นก่อน เพราะจุ๊บจุ๊บไม่ถูกอนุญาตให้อยู่ในหอนี้ ..ใช่ มันเป็นแรงงานต่างด้าว ใช้ความน่ารักน่าเอ็นดูให้คนพอใจคลายเหงาแลกกับอาหารไปวันๆ ผมพาจุ๊บจุ๊บขึ้นรถเมล์โดยใส่ในกระเป๋าผ้า จุ๊บจุ๊บไม่ดิ้น ไม่งอแงเวลาอยู่ในกระเป๋าแม้จะต้องนอนคดอยู่ในนั้นร่วมชั่วโมง ผมเห็นแววตาซื่อและเศร้าของมันตลอดเวลาแห่งการเดินทางครั้งนี้ ณ ที่ๆจะฝากจุ๊บๆนั้น เป็นบ้านสองชั้น และมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้าน โดยสนามหญ้ามีรั้วกั้นมิดชิด แม้จะมีสุนัขอยู่ในบ้านก็หมดห่วง เพราะรั้วสูงและแข็งแรงพอที่จะปกป้องจุ๊บจุ๊บได้ พอเท้าแตะสนามหญ้า จุ๊บจุ๊บวิ่ง กระโจน และกัดกินยอดหญ้าอ่อนด้วยความสุข มันไม่เคยสัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้มาก่อน อยู่แต่ในตึก มีแต่ปูนจนเข้าใจว่า นั่นคือพื้นโลก ไม่เคยรู้จักพื้นดินและต้นหญ้า จุ๊บจุ๊บมีความสุข นอนกลางวันอย่างที่เคย ผมเห็นดังนั้น ก็ดีใจ แม้จะเห็นพญามัจจุราชวิ่งอยู่รอบๆรั้วด้านนอก ก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ผมคิดแต่ว่าหมาเข้าไปทำอันตรายไม่ได้ แต่ลืมคิดไปว่า..กระต่ายมันอาจจะออกมาให้หมาทำอันตรายเสียเอง !! พออาทิตย์ตกดิน ความมืดเข้าปกคลุม จุ๊บจุ๊บเป็นกระต่ายขี้เหงา ชอบให้คนคลอเคลียลูบไล้  มันจึงออกจากรั้วอย่างไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา มันยังไม่เคยเจอใครที่คิดจะทำร้ายหรือเอาชีวิตมันเลย ทุกอย่างบนโลกนี้เป็นสิ่งสวยงามสำหรับจุ๊บจุ๊บ พอขาก้าวแรกพ้นรั้วเท่านั้น หมาที่อยู่ด้านนอก เหมือนเจอของเล่นมีชีวิต มันตระครุบ กัด ฟัด จนจุ๊บจุ๊บสิ้นใจ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย…

จุ๊บจุ๊บ
อ่านต่อ

พระเจ้าสร้างคนไทย(จริงหรือ)~

เรื่องทั่วไป 16 May 201114 May 2016

ก็ไม่รู้ว่าใครแต่งเรื่องนี้อ่ะนะครับ แต่หลายๆเรื่องในปัจจุบันที่เกิดในบ้านเมืองเรา เห็นแล้วก็ได้แต่ เฮ้อ ..ๆ ๆ  ๆ  บ้านเมืองอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่เคยไป แต่เมืองไทย มีข่าว ..ขโมยสายไฟ ขโมยเสาธง ขโมยพระพุทธรูป ขโมยล้อรถ ขโมย ๆ ๆ ๆ ..ๆ  มีข่าวแปลกๆ ข่าวห่าเหวอะไรมากมายในทุกวงการ เมืองไทยที่เมื่อก่อนเคยทัดเทียมกับญี่ปุ่น ก็ถูกญี่ปุ่นทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น ปัจจุบันกำลังจะถูกเวียดนามหรือลาวแซงหน้า และล่าสุดถูกเขมรตีหัว!! เมืองไทยเราโชคดี..แต่พวกเราๆเองไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี พออ่านเมล์ฟอร์เวิร์ด(ด้านล่างนี้) ก็เลยเกิดอาการเห็นด้วย ฤๅพระเจ้าสร้างเรามาแบบนั้นจริงๆ ..ลองอ่านดูครับ (ไม่รู้ใครแต่งแต่โดน) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆมากมาย พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยหลักของการวางของวิเศษ พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ ทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกาแล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล แต่ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้ด้วย เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาลเพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้ด้วย ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ทั้งหมด…..จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน คราวนี้พระองค์ทรงลืมประเทศ รูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีนทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่เขาสูงชันมาก เทือกเขาได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาดข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด ว้า !! แย่แล้ว พระเจ้าคิดว่าประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่นอน พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆจะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่า พระองค์ไม่ยุติธรรม จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้ เมื่อคิดได้เพื่อเป็นการป้องกัน ประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้างคนไทยขึ้นมา!!

คนไทย พระเจ้า

พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง

เรื่องทั่วไป 9 November 200827 September 2016

สำหรับนักฟังเพลงในอดีตแล้ว ถ้าแนวลูกทุ่ง ต้องชอบ สายัณห์ สัญญา ถ้าแนวเพื่อชีวิตต้องแนว คาราบาว แนวสตริงคลาสิคหน่อย หลายๆคนก็ชอบหลายๆนักร้อง แต่ที่หลายๆคนชอบอีกคนคือ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง สายัณห์ สัญญานี่ไม่ต้องพูดถึง เพลงเพราะ หวานซึ้งจับใจ โดยเฉพาะลูกอ้อนหน้าเวที พูดทีไรแฟนเพลงต้องวิ่งหาพวงมาลัย หัวแทบชนกันตาย ด้วยภาพลักษณ์ที่ออกทางเวที และเสียงเพลงนี่เอง หลายคนปลื้ม ศรัทธา หลงรัก สะสมอัลบั้มเพลงทุกชุด บางชุดซื้อมากกว่าหนึ่งแผ่น เพื่อแจกจ่ายคนอื่นๆ เพื่อหวังให้มาเสพรสเพลงอันไพเราะเช่นตน วงคาราบาว เป็นจิตวิญญาณ ไอดอล เป็นแบบอย่างของดนตรีเพื่อชีวิตอีกหลายๆวง เป็นผู้ปลุกเร้าสิ่งที่สังคมลืม เป็นผู้นำแห่งเพลงสามช่า เป็นนักแต่งเพลงเสียดสี กระแทก แดกดันได้อรรถรส ด้วยภาษาที่สวยสดงดงาม ไม่หยาบคาย หยาบคายบ้าง แต่ดูดี คาราบาวถือเป็นศิลปินที่ผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังได้รับการต้อนรับที่ดีเสมอ ได้เสียงตอบรับอย่างเนืองแน่นทุกครั้งที่ออกคอนเสริต มีผลงานออกมาตลอดเวลามิได้ขาด เรียกได้ว่าทำงานอยู่ในวงการอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเฉไฉออกนอกเส้นทาง หลายๆเพลงของคาราบาว มีบางคนนำเอาไปเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ตลอดจนเป็นข้อตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ดังเช่นคุณสรยุทธ ที่ถือเพลงพระเจ้าตากเป็นเครื่องตัดสินใจ ในตอนที่จะออกจากเนชั่น ด้วยท่อนเพลงที่ว่า…เราจะทุบหม้อข้าว… อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ย้อนไปเมื่อสักสิบปีที่แล้ว เพลงของเขาหวาน ฟังสบาย หลายๆเพลงมีเนื้อหาเพื่อสังคม ถึงไม่ได้อยู่ในวงการเพลงยาวนานเหมือนสายัณห์ สัญญา หรือคาราบาว แต่เพลงของอริสมันต์นับว่าสร้างความนิยมชื่นชมแก่ผู้ที่ชื่นชอบมากมาย หลายๆเพลงกลายเป็นอมตะ มีการนำมาร้องใหม่ โดยนักร้องยุคปัจจุบัน ใส่ท่วงทำนองที่สามารถกระโดดโลดเต้นได้ ผิดวิสัยพี่กี้ อริสมันต์ ที่พูดถึงศิลปินนักร้องในวันนี้ เพื่อเข้าสู่ประเด็นนี้ครับ ณ ปัจจุบันศิลปินที่ผมกล่าวถึงทั้งสามนั้น สองในสามหลุดออกจากวงการเพลงเข้าสู่วงการการเมือง มีเพียงคาราบาวที่ยังคงอยู่ในวงการดนตรีเช่นเดิม ทั้งที่จริงๆแล้ว คาราบาวน่าจะเข้าสู่วงการการเมืองมากกว่า ด้วยเนื้อหาเพลงที่ประชดประชัน ดุ ด่า การเมืองอย่างเผ็ดร้อนกว่าใคร และออกตัวชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับนักการเมืองที่คอรับชั่น คาราบาวก็ยังเป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตที่มีคนชื่นชอบทั่วประเทศอย่างปัจจุบัน รักมั่นศรัทธาต่อประชาชนนักรักเพลงเพื่อชีวิต อีกสองศิลปินนั้น เข้าสู่วงการการเมืองอย่างเต็มตัว การเมืองมันน่ากลัว จากภาพที่คนชื่นชอบสองศิลปินนี้ในอดีต ภาพความจริงค่อยๆปรากฏชัดเมื่อเข้าสู่วงการการเมือง การเมืองทำให้ทั้งสองหมดความไพเราะ นิ่มนวล และน่าเชื่อถือ ผมคิดว่า ..หน้าที่ใครก็หน้าที่มัน พระเจ้าให้ความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกัน เพื่อไม่ต้องมาแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เมื่อได้พลังนั้นมาแล้ ก็ควรจะรักษาพลัง และทำหน้าที่ที่ตนได้รับให้ดียิ่งๆขึ้น อย่าไปแย่งหน้าที่คนอื่น…

ถางทาง สร้างฝัน

ไดอารี่ 24 June 2008

“ทำอะไรต้องทำด้วยใจจริง” ท่องเน็ตไปเจอบทความหนึ่งน่าสนใจ คิดจะเอามาไว้ที่นี่เหมือนกัน แต่ไม่ดีกว่า เรามาต่อยอดความคิดของเขาดีกว่า บทความที่ว่านั้น กล่าวถึงความตั้งใจในการทำอะไรสักอย่าง ต้องมีความตั้งใจเป็นสำคัญ ความรู้แบบผิวเผิน ให้ผลในทางลบเสมอ ไม่พอที่จะพัฒนาตัวเองได้ ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไรก็ตามที่หยุดหาความรู้ หยุดพัฒนาตัวเอง ก็จะกลายเป็นฟอลซิล ..เขาว่าอย่างนั้นนะครับ ผมเห็นด้วย และชอบใจบทความที่เขียนนี้มาก อ่านแล้วก็กลับมามองตัวเองจะว่าเก่งอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นเรื่องเป็นราวสักเรื่อง ก็ไม่ ได้อันโน่นนิด อันนี้หน่อย เกือบจะดี แต่ก็ยังไม่ดีพอ เกือบจะเก่ง แต่ก็ยัง มิหนำซ้ำหลังๆ เกิดโรคสันหลังยาว ขี้เกียจหาความรู้ ขี้เกียจพัฒนาตัวเอง ขี้เกียจฯลฯ โรคชี้เกียจ..เป็นโรคร้ายที่น่ากลัวทีเดียว จึงจำเป็นต้องรีบพัฒนาตัวเอง ไม่ให้โลกหมุนทิ้งเราไว้เดี่ยวดาย ความรู้สามารถเรียนเท่าทันกันได้ แต่ความรู้อย่างเดียว ถ้าไม่นำไปพัฒนา หรือใช้ประโยชน์ก็ไร้ประโยชน์ ต้องมารื้อตัวเองซะใหม่..พัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน หลักการนี้ ต้องด้วยธรรมะในพระพุทธศาสนา หัวข้อ อิทธิบาท 4อิทธิบาท 4 ความหมายคือ หนทางไปสู่ความสำเร็จ 4 ข้อ ฉันทะ สร้างความรัก ความชอบในสิ่งที่ทำก่อน ไม่ใช่แค่ความรัก ความชอบอย่างเดียว ต้องสร้างความพอใจอย่างรุนแรง อยากเห็น อยากทำ อยากอยู่ด้วยทั้งวันทั้งคืน นั่นคือ ฉันทะ ชนิดหลอกตัวเองว่าชอบ ยังใช้ไม่ได้ วิริยะ เมื่อเกิดความรัก ความพอใจ ก็เพียรมั่น ตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถ จิตตะ ตั้งมั่น จิตจดจ่อต่อสิ่งที่รักนั้น พุ่งสมาธิและความตั้งใจทั้งหมดไปยังสิ่งนั้นสิ่งเดียว วิมังสา ไตร่ตรองพิจารณาด้วยเหตุผลถึงสิ่งที่ทำแล้วนั้น ถูกต้อง ผิด-ถูก ดี-ไม่ดี อย่างไร แก้ไขอย่างไร ถึงจะดีขึ้น และดีที่สุด   ธรรมะทั้ง 4 ข้อ ผมก็รู้ แต่ก็นั่นแหละ แค่รู้อย่างเดียว ไม่นำไปปฏิบัติ คงจะก่อเกิดประโยชน์ได้ยาก ทางไปสู่ความสำเร็จ ต้องลงมือถางทางด้วยตัวเอง รัก ตั้งใจ จดจ่อ มุ่งมั่น ถึงจะสร้างฝันสำเร็จ

สายใย..บางบาง

ไดอารี่ 20 September 2010

โลกเดี๋ยวนี้เราเชื่อมทุกอย่างเข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น และง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เสียแล้วของ ‘สยามมนุษย์’ นั่นคือ “โทรศัพท์มือถือ” เดี๋ยวนี้มันไม่ได้เป็นแค่โทรศัพท์สำหรับติดต่อกันอย่างเดียว ไม่ว่าจะติดต่อด้วยเสียง ข้อความ รูปภาพ หรือเดี๋ยวนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกสามจี สามารถติดต่อกันด้วยภาพเคลื่อนไหวสดๆได้ โทรศัพท์มือถือกลายสภาพเป็นเครื่องประดับชิ้นเอก เป็นเครื่องวัดมาตรฐานของคนได้ในระดับหนึ่ง หากเมื่อไรที่หนุ่มหรือสาวนางไหน ควักไอโฟนหรือบีบีขึ้นเซย์ฮัลโหล สถานภาพทางสังคมดูดีขึ้นทันที ได้รับการต้อนและไมตรีจากผู้อื่นได้ง่ายขึ้น ชายหนุ่มที่ริจะขอเบอร์สาวๆ หากเดินปรี่ไปหาแล้วหยิบโทรศัพท์ไอโฟนหรือบีบี เพื่อบันทึกเบอร์สาวเจ้า เปอร์เซ็นต์ที่จะได้เบอร์ย่อมมีสูงกว่าพวกที่หยิบโทรศัพท์โนเนมหน้าจอสีขาวดำขึ้นมาบันทึกอย่างแน่นอน โทรศัพท์รุ่นใหม่ๆออกมา นอกจากเน้นประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ดีไซน์ต้องสวยเลิศ เมื่อหยิบขึ้นมาโทรในที่สาธารณะแล้ว ทุกคนต้องมองแล้วร้องวู้ววว..ว  รับโทรศัพท์ได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ต้องแอบๆซ่อนๆใครเพียงเพื่อจะรับโทรศัพท์รุ่นกระติกน้ำโบร่ำโบราณ!! บริการต่างๆที่แฝงมาในโทรศัพท์สามารถดูดเงินในกระเป๋าผู้ใช้ได้อย่างสบายมือ โทรศัพท์ที่ว่าแพงแล้ว บริการต่างๆรายวัน รายเดือน หรือรายปีแพงกว่าอีก!! แน่นอนโทรศัพท์มือถือ ใช้ง่าย สะดวกสบาย คิดถึงใคร ติดต่องานไหน หรือไม่คิดถึง ไม่ได้ติดต่องาน อยากคุยกับเพื่อนที่อยู่ชั้น 2 (ตัวเองนั่งอยู่ชั้น 1) ก็กดโทรคุยได้ง่ายๆ คุยง่าย จ่ายหน้ามืด!! ยิ่งใช้ง่าย สะดวกสบายเพียงไร เงินก็หลุดหายไปได้ง่ายเช่นกัน อย่าลืมว่า..คำพูดทุกคำของเราที่พูดผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นคำพูดมีค่าทั้งสิ้น แม้เรื่องที่พูดอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าพูดผ่านโทรศัพท์..เรื่องไร้สาระจะมีมูลค่าขึ้นมาทันที!! ยิ่งเดี๋ยวนี้มีบริการ เสียงเพลงรอสาย เปลี่ยนเพลงได้ทุกชั่วโมง, เล่นอินเทอร์เนต เฟสบุค ทวิตเตอร์ผ่านมือถือ , ดูดวง, เล่นเกมส์ , จองตั๋วหนัง, จองตั๋วเครื่องบิน, จองศาล จองโลง!!! ฯลฯ บริการเยอะดีจังนะครับ แต่ทุกบริการมีค่าบริการทั้งนั้น และแพงเสียด้วย!! บริการทั้งหลายทั้งปวงที่มีมาในมือถือใช่ว่า ผมจะบอกว่าไม่ดี ดีครับ ดีมาก ..แต่ไม่ใช่จะดีกับทุกคน แล้วดีสำหรับใคร? ดีสำหรับทุกคนที่มีธุระใช้มันจริงๆ ไม่ใช้พร่ำเพรื่อในเรื่องไร้สาระ ถ้าอยากจะไร้สาระหรือบันเทิง ก็ต้องไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านแทน ประหยัดกว่า อินเทอร์เนตผ่านมือถือ มันสะดวกง่าย ค่าบริการก็จึงแพงตามมาด้วยนะ พูดเรื่องโทรศัพท์มาเยอะแยะมากมาย เข้าสู่เรื่องตัวเองซักที ผมใช้โทรศัพท์ถูกๆมาหลายปีแล้วครับ ถูกที่ว่านี่คือถูกจริงๆ เพราะได้มาฟรี ใช้รับสาย โทรออก รับข้อความ และฟังเพลงได้เท่านั้น และผมก็ใช้เท่านั้น ค่าโทรศัพท์รายเดือนไม่เคยเกิน 200 บาท!! ในโทรศัพท์มีเบอร์แม่…

เทคโนโลยี โทรศัพท์

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (50)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (62)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH