Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

เพลงสั้น

หมวดนี้ไม่ใช่หมวดแต่งเพลง..แต่เอาชื่อเพลงมาเป็นชื่อเรื่อง

อ่านต่อ

ปราสาททราย

เพลงสั้น, เรื่องสั้นสั้น 5 July 201131 July 2015

ดินแดนหลังภูเขาที่สูงตระหง่าน 5 ลูกตั้งติดต่อกัน มีแม่น้ำที่ไหลจากภูเขาสูง ด้านล่างที่แม่น้ำไหลผ่าน มีเมืองเมืองหนึ่งตั้งอยู่

ปราสาททราย พระราชา เจ้าหญิง
อ่านต่อ

เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)

เพลงสั้น, เรื่องสั้นสั้น 4 July 20119 February 2016

ด้วยความที่เจ้าหญิงพึ่งอายุย่าง 16 ยังไม่เคยรู้จักความรักและความรู้สึกแบบนี้ก็พึ่งเกิดขึ้นกับเธอ

ความรัก นักพรต เจ้าหญิง
อ่านต่อ

ไม่ใช่เจ้าชาย

เพลงสั้น, เรื่องสั้นสั้น 3 July 201111 February 2017

ในที่จองจำเจ้าหญิงได้พบกับหญิงงามและหญิงเกือบงามอีก 4-5 นาง ทราบภายหลังว่าเธอทั้งสิ้นล้วนถูกจับขังเพราะแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหญิง แต่ละคนก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันไป

เจ้าชาย เจ้าหญิง
อ่านต่อ

เจ้าหญิงคนต่อไป

เพลงสั้น, เรื่องสั้นสั้น 2 July 201111 February 2017

เจ้าหญิงและสัตว์ผู้ภักดีที่สี่เดินทางมาถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง

เจ้าหญิง
อ่านต่อ

เจ้าหญิง

เพลงสั้น, เรื่องสั้นสั้น 1 July 201114 June 2019

ณ กลางป่าดินแดนแสนไกล เจ้าหญิงในชุดสีขาวปรากฏกายบนท้องทุ่งสีเขียว
รอบๆรายล้อมด้วยสัตว์นานาชนิดที่จงรักภักดี
มีกวาง มีกระต่าย นำหน้าด้วยหมีและนกกระจอก

กวาง เจ้าหญิง
คนที่ถูกรัก อ่านต่อ

คนที่ถูกรัก

เพลงสั้น 17 June 20117 June 2019

ใกล้เวลา 4 โมงเย็นนั่นหมายถึงเวลางานผมใกล้จะหมด การทำจะล่วงเวลาย่อมมีค่าใช้จ่าย คือต้องเสียค่าเช่ารถเพิ่มอีกกะหนึ่ง แต่ต้องเสี่ยงกับสภาพร่างกายที่อาจจะหลับในได้ผมจึงบึ่งแท็กซี่หาปั้มเพื่อทำความสะอาดรถก่อนส่งอู่ เพื่อนแท็กซี่หลายคนไม่ยอมปิดไฟสัญญาณว่า “ว่าง” ขณะขับกลับอู่ เผื่อเจอผู้โดยสารที่ไปทางเดียวกับตน จะได้เงินเพิ่มไม่เสียเที่ยว แต่ส่วนใหญ่เจอผู้โดยสารที่ไปคนละทาง นั่นย่อมหมายถึงการต้องขัดใจผู้โดยสารเมื่อกล่าวคำปฏิเสธ ผมปิดไฟสัญญาณ ว่าง บึ่งรถกลับอู่ โทรศัพท์nokiaรุ่นเก่าที่นอนสงบนิ่งมาทั้งวันเป็นปกติ วันนี้มาร่ำร้องขึ้นปรากฏเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก!!“สวัสดีครับ..” ผมพูดเสียงเรียบ“อา นี่เราเองนะ” ปลายสายเป็นผู้หญิงเสียงกังวาล“โทษนะครับ ชื่ออะไรครับ”“เราเอง ปลาไง” ปลา ในชีวิตผม ผมรู้จักคนชื่อปลาเพียงคนเดียวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไม่เพียงรู้จัก ผมและเธอถึงขั้นเป็นแฟน ตอนนั้นผมยังไม่ขับแท็กซี่ ยังครองชีวิตมนุษย์เงินเดือนเต็มขั้น ปลาทำบัญชีให้บริษัท ผมกับเธอสนิทกันได้ไม่นาน เราทั้งคู่ก็ยอมใช้สรรพนามเรียกกันว่า “แฟน” และเปลี่ยนสถานภาพในเฟสบุคว่า “มีแฟนแล้ว” ความรักของเราเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ทะเลสงบมักมีพายุใหญ่รออยู่ข้างหน้า ปลาขยับฐานะเป็นรองผู้จัดการในปีถัดมาที่เรารู้จักกันและจากวันนั้นเธอก็มีเวลาว่างสำหรับแฟนอย่างผมน้อยลง แต่เธอกลับมีเวลาให้ผู้จัดการหนุ่มมากขึ้น จากนั้นไม่นานผมแอบเห็นสถานภาพในเฟสบุคของเธอเปลี่ยนเป็น “โสด” ผมเอะใจ แต่ไม่เข้าใจ จนที่สุดข้อสงสัยทั้งหมดก็กระจ่าง คืนนั้นเป็นวันเกิดผม แต่เธอลืมโดยอ้างว่าต้องไปต่างจังหวัด เพื่อนที่สนิทและไว้ใจได้คนหนึ่งบอกว่า คืนนั้นเธอไปกับผู้จัดการหนุ่ม..ผมทนปวดใจอีก 2 เดือนจึงลาออก เธอไม่มาแม้เพื่อบอกลา “อ้อ ปลา..” การโทรศัพท์หาผมในครั้งนี้จึงทำให้ผมแปลกใจมาก เพื่อนสนิทหรือคนรู้จักที่ไม่ติดต่อเรามานานมากแล้ว แต่จู่ๆติดต่อกลับมา มีไม่กี่สาเหตุ 1.ยืมตังค์ 2.ขายตรง “อา สบายดีนะ ตั้งแต่อาไปครั้งนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยเนาะ” “สบายดีครับ ว่าแต่มีอะไร?” “เปล่า ไม่มีอะไร คิดถึงจึงโทรหานะ อยากเจออยากทานข้าวด้วย” “คงไม่สะดวกหรอกครับ” ผมกล่าวสวัสดีก่อนวางสายด้วยความมึนงง สงสัยเพราะภาวะโลกร้อน ถึงผมไม่มีแฟน แต่คงไม่อยากคืนดีกับคนอย่างเธอแน่นอน คนที่คบคนเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างเธอมันน่ารังเกียจ แต่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้ ปลาหวังผลประโยชน์อะไรในตัวผมเหรอ คนที่ไม่มีอนาคตขับแท็กซี่อย่างผมเนี่ยะนะ !?! ยังไม่ทันวางโทรศัพท์ลง มันก็ส่งเสียร้องอีกครั้ง “สวัสดีครับพี่ยง ผมว่าจะเอาเงินไปคืน..พ” “ไม่เป็นไรอา ไม่ต้องรีบร้อน เย็นนี้ว่าจะชวนไปหาอะไรดีๆกินสักหน่อย” นี่ก็อีกรายที่ผมได้ยินคำพูดที่ไม่คาดว่าจะได้ยินจากปาก ยง หรือเฮียยง คนในอู่รู้จักดีว่าเป็นคนพูดเสียงดังโพงพาง เกือบทุกคนติดหนี้แก แม้จะปล่อยดอกที่สูงลิ่ว แต่หลายคนมีทางเลือกไม่มากนักทุกวันจะเจอแกทวงเงิน แต่วันนี้..แกไม่พูดถึงเงินแต่กลับชวนไปกินข้าว! ยังไม่ทันวางสายพี่ยง ก็มีสายซ้อนขึ้นมา ดังนั้น พอพี่ยงวางสายเสียงจากอีกสายก็แทรกเข้ามาในหูผมทันที“อา…

คนที่ถูกรัก
เขียนถึงคนบนฟ้า อ่านต่อ

เขียนถึงคนบนฟ้า

เพลงสั้น 18 March 201126 July 2016

ชายหนุ่มนั่งเหม่อบนดาดฟ้าตึก 20 ชั้น สายตาเบิ่งไปยังเบื้องหน้าไร้จุดหมาย บนท้องฟ้าปรากฏกลุ่มเมฆสีดำเป็นสัญญาณเตือนว่าไม่กี่นาทีนับจากนี้จะเกิดฝน หลายคนเริ่มโกลาหลเพื่อเข้าที่พัก กลับบ้าน หรือจัดการกับข้าวของที่คาดว่าจะโดนฝน รถบนท้องถนนเริ่มคลาคล่ำติดขัด แต่ชายหนุ่มบนดาดฟ้ายังคงนิ่งเฉยกับเหตุการณ์รอบข้าง เขายังคงนิ่งและเหม่อลอย จิตใจเขาล่องลอยไป ณ ที่แดนไกล  ด้วยความที่เป็นดาดฟ้าสูง บวกกับฟ้าที่มืดครื้ม จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นเขาผู้ซึ่งอยู่ใกลักับความตายระยะประชิด เขาขยับขาเข้าใกล้ริมดาดฟ้า ในขณะที่สายตาไม่ได้มองขาที่ก้าว ในห้วงความคิดของเขาขณะนี้ วนเวียนด้วยเรื่องราวในอดีตที่เขาและเธอรู้จักและรักกัน!! เธอคนนั้นช่าทำให้เขาเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ รอยยิ้ม คำพูด และอิริยาบถต่างๆข่องเธอผ่านเข้ามาาในหัวของเขาราวสไลด์โชว์ เขายิ้มเมื่อสไลด์โชว์แห่งอดีตนำเสนอเรื่องราวของเธอและเขาช่วงที่รักกัน แต่ฉับพลันเขากลับร้องไห้ เมื่อสไลด์มาถึงจุดสุดท้ายที่เธอจากไป.. เธอทิ้งเพียงเมสเสจสั้นๆบนมือถือของเขา “ฟ้าต้องไปแล้ว..” และหลังจากนั้นโลกของเธอกับเขาก็ขาดหายไป เขาติดต่อเธอไม่ได้ เธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย “หรือเธอเป็นเพียงนางฟ้าที่มีเวลามาเล่นสนุกในโลกมนุษย์เพียง 30 วัน” เขาตั้งสมมติฐานอย่าคนบ้าที่ไม่เข้าใจความรัก แต่มันเป็นความจริงที่เขาและเธอรู้จักกันและรักกันในเวลา 30 วันเท่านั้น แล้วเธอก็โบยบินจากเขาไป.. ชายบนดาดฟ้ายังคงจินตนาการเธอเป็นนางฟ้า และตัวเขาเองกำลังจะบินไปหาเธอ เธอผู้ทำให้เขาเป็นบ้าไปแล้วในขณะนี้ บนท้องฟ้าเริ่มปรากฏเม็ดฝน และในที่สุดฝนก็ตกอย่างหนัก ท้องฟ้ามืดสนิท ชายหนุ่มสำนึกว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องโบยบิน เขารอสัญญาณฟ้าแล่บอีกครั้ง แล้วเขาจะบิน!! ในชั่วขณะความเป็นกับความตายใกล้กันถึงที่สุด สัญญาณจากฟ้าจะเป็นเครื่องชี้ชะตาชีวิตเขา และทันใดนั้นเอง ฟ้าแล่บปรากฏขึ้นพร้อมเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหว ชายหนุ่มก้าวขาขวาออกเบื้องหน้าทันที! เขาใกล้ไปพบกับนางฟ้าของเขาในบัดนี้แล้ว ไม่ทันที่เท้าข้างขวาจะทิ้งน้ำหนักลงไป โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น..ก่อนจะไป ขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายไว้กับโลกใบนี้ เขาชักขากลับยืนที่เดิม หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมาดู บนหน้าจอปรากฏเบอร์ของเธอคนนั้น .. นางฟ้าของเขา เขารีบกดรับทันที!! ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร เสียงปลายสายก็ดังขึ้นมาทันที “คุณอยู่ไหนค่ะ ได้รับเมสเสจของฟ้าไหม? ตอนนี้ฟ้าเสร็จธุระที่ตจว.แล้ว ฟ้า..ตู๊ด ..ตุ๊ด ตุด” แล้วสัญญาณก็ขาดหายไป เขารีบโทรกลับ แต่ก็ไร้สัญญาตอบกลับ ชายหนุ่มเปิดอ่านเมสเสจเธออีกครั้ง เขาพึ่งพบว่าเมสเสจของเธอมีทั้งหมด 3 ข้อความ “ฟ้าต้องไปแล้ว..” เมสเสจที่ 2 “..ป่วยหนัก..รีบไป..” และเมสเสจสุดท้าย “ที่บ้าน..สัญญาณ..มี” เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวจนพอเข้าใจได้ รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา แต่มันก็สายไปที่เขาจะกลับไปเสียแล้ว ฟ้าแล่บอีกครั้ง มาพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ร่างชายหนุ่มบนดาดฟ้าไหม้เกรียม และล่องลอยสู่เบื้องล่าง.. ร่างแหลกละเอียด และไหม้เกรียม แต่ที่มุมปากของชายหนุ่มปรากฏรอยยิ้มแห่งความสุข.. * ชื่อเรื่องจากชื่อเพลง เขียนถึงคนบนฟ้า ของพิง…

คนบนฟ้า อกหัก
เมื่อเขามา..ฉันจะไป อ่านต่อ

เมื่อเขามา..ฉันจะไป

เพลงสั้น 4 March 2011

บนถนนโค้งแสนเปลี่ยว ข้างถนนรกครึ้มด้วยต้นหญ้าและต้นไม้สูงใหญ่ไล่ระดับ กลางคืนถนนเส้นนี้มืดสนิท ชาวบ้านแถวนี้รู้ดีว่าถนนเส้นนี้ไม่เหมาะกับการคมนาคมในยามวิกาล ได้แต่หวังผู้แทนปากหวานที่เคยให้คำมั่นสัญญาจะดำเนินการทำถนนให้ปลอดภัยมีไฟ มีความสะดวกหากตนได้รับเลือกตั้ง นี่เขาก็ได้รับเลือกตั้งไปแล้ว .. ยังไม่เคยเห็นเงาผู้แทนคนนั้นเลย ก้าวเข้าสู่หน้าหนาวอันเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของคนในเมือง ถนนเส้นนี้เริ่มมีรถรามากขึ้นแม้เป็นยามค่ำคืนมืด นักท่องเที่ยวหลายคนพูดกันหนาหูว่าบนถนนหัวโค้งเปลี่ยวเส้นนั้น มักพบหญิงสาวผมยาวในชุดขาวเดินข้างถนนบ้าง เดินข้ามถนนบ้าง นั่งริมถนนบ้าง เธอเป็นใครมาจากไหน และมาทำอะไรในยามค่ำคืนไม่มีใครรู้ เพราะไม่มีใครกล้าจอดรถลงไปถามสักครั้ง จนกระทั่งคืนวันหนึ่ง.. ชายหนุ่มจากเมืองหลวงบึ่งรถยามค่ำคืนเพื่อไปหาแฟนสาวที่อยู่ทางเหนือ อำนาจความรักทำให้เขาอดทนรอให้ถึงรุ่งสางไม่ได้ ขับรถมาท่ามกลางความมืดมิดด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงทางโค้งอันเปลี่ยวนั้น รถไม่ได้โค้งไปตามถนนที่ควรจะเป็น กลับตรงดิ่งแหกโค้งออกนอกทางพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ คนขับคอหักตาย ณ ที่ตรงนั้น ส่วนรถมีสภาพยับเยินเกินบรรยาย.. และตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ยามค่ำคืนอันมืดมิด ไม่เคยมีใครพบหญิงสาวผมยาวชุดขาวอีกเลย คนเฒ่าคนแก่บอกว่า “เขาไปเกิดใหม่แล้ว” หลายคนเบาใจคลายกังวล แต่ไม่กี่วันต่อมา มีเสียงร่ำลือกล่าวถึงทางโค้งเปลี่ยวนั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่หญิงสาวชุดขาวผมยาว แต่เป็นชายหนุ่มคอหักร่างโชกด้วยเลือดสีแดงนั่งร้องไห้อยู่ข้างทาง ณ ทางโค้งเปลี่ยวแห่งนั้นแทน!! คนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่า.. วิญญาณที่ตายด้วยอุบัติเหตุจะไม่ได้ไปผุดไปเกิดใหม่..จนกว่าจะมีวิญญาณใหม่มาแทนตัว เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นลอยๆมาตามสามลมของค่ำคืนอันเงียบและมืดมิดว่า “เมื่อเขามา..ฉันจะไป” ชื่อเรื่องจากชื่อเพลง “เมื่อเขามา..ฉันจะไป” ของ ดา Endorphine

ผี วิญญาณ เมื่อเขามา..ฉันจะไป
ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ อ่านต่อ

ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ

เพลงสั้น 2 March 2011

ผมมักหลบลี้หนีผู้คนและโลกที่แสนวุ่นวายเข้าสู่โรงหนังดินแดนที่เสกสรรค์จินตนาการมากมาย ที่นี่มันคือโลกใบใหม่ที่สนุก เศร้า ตื่นเต้น หรือเป็นอะไรก็ได้ตามเนื้อหนังที่ตีตั๋วเข้าไปดู แม้เป็นเวลาแค่ไม่เกิน 3 ชั่วโมงสำหรับภาพยนตร์ 1 เรื่อง แต่ถ้านำไปลบจาก 24 ชม.ที่วุ่นวาย ก็นับว่าคุ้มค่า 3 ชม.ที่ตัดขาดจากโลกความเป็นจริง เพราะเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดถูกปิดโดยไม่ต้องกลัวถูกใครตำหนิ เป็น 3 ชั่วโมงที่หัวไม่ต้องคิดถึงอดีต ปัจจุบันและอนาคต หัวใจเปี่ยมด้วยความถวิลหาในอรรถรสของหนัง หลังเลิกงานของเย็นวันศุกร์ที่แสนวุ่นวาย ผมปรากฏตัวหน้าโรงหนังอีกครั้ง คนจำหน่ายตั๋วยังคงถามคำถามเดิมทุกครั้งที่ผมมาซื้อตั๋ว “กี่ใบค่ะ?” ความจริงคนจำหน่ายตั๋วน่าจะจำหน้าผมได้แล้ว เพราะผมปรากฏตัวที่นี่คนเดียวเกือบทุกวันศุกร์ ศุกร์นี้ก็เช่นกัน ผมถือตั๋ว 1 นั่งจดจ่อรอเวลาหนังฉาย เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ผมถือตั๋วเข้าโรงหนังด้วยจิตใจเอิบสุข แม้เบื้องหลังจะฉาบทาด้วยความทุกข์ก็ตาม หนังที่ผมเลือกดูในวันนี้ ไม่ใช่หนังในกระแส เป็นหนังอินดี้ของผู้กำักับหน้าใหม่ ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ในโรงหนังมีผมเพียงคนเดียว แอบลุ้นเล็กๆว่ากว่าหนังจะฉายอาจจะมีใครซื้อตั๋วเข้ามาดูก็ได้ แต่ถึงต้องดูคนเดียวก็ไม่แปลก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการดูคนเดียว หนังโฆษณาเกือบ 30 นาทีผ่านไป ก็ยังไม่มีคนเข้ามาเพิ่ม ยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีจบไป ก็ยังไม่มีใครมา.. ขณะหนังกำลังเริ่ม บนจอปรากฏเครดิตและทีมผู้สร้างอย่างช้าๆ ปรากฏร่างหนึ่งเดินอย่างเชื่องช้าเช่นกันและนั่งลงข้างๆผม สัญชาตญาณบอกให้รู้ว่าเป็นผู้หญิง ผมไม่กล้ามองเธอตรงๆ แต่เธอผมยาว และที่สำคัญเธอมาคนเดียว!! แม้จะรู้สึกอุ่นใจที่ในโรงหนังไม่ได้มีเพียงลำพัง แต่ที่นั่งตั้งมากมาย ทำไมจำเพาะเจาะจงมานั่งเบียดกันด้วย ช่างเถอะ เธออาจจะกลัวการนั่งคนเดียวตรงข้ามกับผมที่กลัวการนั่งแน่นๆ คนเยอะๆ เราสองคนในโรงที่กว้างขวาง นังเบียดกันตรงกลางโรงหนังในแถว C เมื่อหนังดำเนินไปถึงกลางเรื่อง ผมได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆจากเธอ เสียงกระซิกสะอึกน้ำตาดังมาเป็นระยะ ถ้าหนังที่ดูเป็นหนังเศร้า หนังชีวิตผมก็จะไม่แปลกใจ แต่นี่หนังรักผจญภัย เธอร้องไห้ทำไมกัน!! เสียงเธอร้องไห้ถี่ขึ้น จนผมอดไม่ได้ที่จะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอรับผ้าเช็ดหน้าด้วยเสียงขอบคุณแหบแห้ง “คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ด้วยความที่ในโรงหนังไม่มีคนอื่นนอกจากเราสองคน ผมจึงกล้าที่จะเมิดข้อห้ามคุยกันและรับโทรศัพท์ในโรงหนังที่ผมเคร่งครัดมาตลอด เพียงคำถามที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองถามไปด้วยมารยาทหรือด้วยความเป็นห่วงจริงๆ แต่สิ่งที่เธอถ่ายทอดให้ฟังหลังจากนั้นทำเอาผมต้องนั่งฟังนิ่ง ผมจบความบันเทิงจากภาพยนตร์เพียงแค่ครึ่งเดียว ครึ่งหลังผมนั่งรับฟังเธอจนจบ เธอเล่าว่า.. เธอรู้จักผู้ชายคนหนึ่งและคบหาดูใ่จกันมาได้ระยะหนึ่ง ทุกครั้งที่เธอและเขาว่างต่างนัดกันมาดูหนังที่นี่ ไม่ว่าหนังที่ฉายจะเป็นหนังรัก หนังเศร้า หนังตลก จะสนุกหรือไม่ก็ตาม เธอและเขาก็ ตีตั๋วเข้าดู เพราะทั้งคู่ช่อบดูหนังมาก วันนี้ก็เช่นกันเธอนัดเขามาดูหนังอีกเช่นเคย แต่เนื่องจากเขาติดธุระอาจจะมาช้าสักนิด จึงให้เธอซื้อตั๋วไว้เผื่อด้วย เธอรอแล้วรอเล่า ก็ไม่ปรากฏเขามา โทรหาก็ติดต่อไม่ได้ เธอกระวนใจยิ่ง แต่ก็จนใจที่จะออกไปตามหาที่ไหน…

หนัง ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ัจักเธอ
1 2
อ่านต่อ

อิฐมอญ

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 19 June 201530 May 2016

  ผมชอบผนังอิฐมอญ.. ชอบอารมณ์ผนังที่เก่า ๆ เหมือนงานไม่เสร็จหรืองานไม่เรียบร้อย ให้อารมณ์ดิบๆ มันเข้ากับ lifestyle และหน้าตา(ที่เถื่อนๆแบบเรา)

อิฐ
อ่านต่อ

ทริปม่วนใจ ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 28 January 20235 February 2023

แบกเป้เที่ยวม่อนจอง ยอดเขาสวยในจังหวัดเชียงใหม่

ม่อนจอง เชียงใหม่ เดินป่า
อ่านต่อ

เที่ยวหาดสามพระยา ประจวบคีรีขันธ์

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 1 January 202124 September 2021

ต้อนรับปีใหม่ด้วยการพาหมาม่อนไปเที่ยวทะเล ~ ถือว่าเป็นทริปเอาใจหมา เพราะก่อนหน้านี้หนีไปเที่ยวเหนือซะหลายวัน ทริปนี้เลยถือโอกาสพาหมาไปเอาบรรยากาศทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยพาไปหนหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นไปหาดเจ้าสำราญนอนบ้าน ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนเพราะม่อนจะนอนเต็นททททททท์ หาข้อมูลอยู่นานพอสมควรว่าที่ไหนบ้างเขาต้อนรับน้องหมาและที่สำคัญคนต้องไม่เยอะวุ่นวายเกินไป เพราะหมาอาจจะตื่นคนได้ ที่สำคัญเกรงใจคนอื่นเขา (โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบหมา) จนได้ข้อมูลมาว่า หาดสามพระยา สามารถพาหมามาพักแรมได้ แต่กระนั้นก็ได้เผื่อแผนสองไว้แล้วว่า ถ้าที่สุดเจ้าหน้าที่เปลี่ยนกฏกระทันหันไม่ยอมให้หมาเข้าพัก ก็จะลอง walkin ตามรีสอร์ทหรือเลวร้ายที่สุดก็แค่ขับรถกลับบ้านเท่านั้นเอง.. แต่โชคดีที่นี่ต้อนรับหมา.. หาดสามพระยา หาดสามพระยา ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย และยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่นี่จะเป็นบริเวณของหาดทรายที่สวยงาม ร่มรื่น และเงียบสงบ ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จากเชิงเขาสูงไปจดปากคลองเขาแดง ที่สำคัญคือมีทิวสนขนานไปกับชายทะเลเป็นทิวแถว คอยให้ความร่มรื่น ทำให้ไม่ร้อนจนเกินไป.. อากาศช่วงปีใหม่นี้ถือว่าเย็นสบายมาก มีลมเบาๆ กลางคืนอากาศหนาวจับใจ..อยากจะอยู่ต่ออีกสักคืน แต่เจ้าหมาม่อนตื่นที่จนไม่เป็นอันนอน อาจจะแปลกที่นิดหน่อยกับการนอนเต็นท์ หลังจากสั่งอาหารจากร้านสวัสดิการมาทานเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บของกลับบ้านครับ อ่อ..อาหารร้านสวัสดิการที่นี่รสชาติเป็นที่เลืองลือเลยนะครับว่าอร่อย และราคาไม่แพง ปิดท้ายด้วยบั้นท้ายลูกสาว..หมาม่อน ทริปหน้าว่ากันใหม่~

กางเต็นท์ ประจวบคีรีขันธ์ ม่อน หาดสามพระยา

หลุด4เหี้ย

เรื่องทั่วไป 26 June 2011

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม.. หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง” หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย

หลุด4หลุด

เคนดะอิจิ ยอดนักสืบ

เรื่องทั่วไป 10 November 2009

การนั่งในรถนานๆโดยไม่น่าเบื่อ ไม่หงุดหงิด และไม่หิวเลย คิดว่าเป็นไปได้มั้ย? ในกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯ ของเราเนี่ยะ ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงภาวะรถติดได้เลย ต่อให้มีตังค์มากก็เหอะ ต้องมีสักครั้ง หรือหลายๆครั้งที่ต้องทนนั่งรอรถติด โดยเฉพาะผู้อาศัยรถเมล์เป็นเครื่องเดินทาง และโดยเฉพาะในช่วงนี้ ช่วงที่กทม.กำลังเร่งปรับปรุงสะพานในหลายๆจุด  รถที่เคยติดอยู่แล้ว ก็ทวีความมหาติดอีกเป็นหลายเท่าตัว นี่ไม่นับเหตุการณ์ประท้วง หรือชุมนุมตามท้องถนนอีกนะ ถ้าบังเอิญเกิดขึ้นในเส้นทางที่เรากำลังสัญจรอยู่ด้วยละคุณเอ๊ย..อยากจะร้องไห้เป็นภาษาละติน ความน่าเบื่อที่ต้องติดอยู่ในรถนั้นจะหมดไปครับ วันนี้ผมพบทางออกที่แสนสดใสแล้วครับ ผมไม่ค่อยได้เดินทางด้วยรถเมล์เท่าไร เพราะบ้านอยู่ใกล้ที่ทำงานเพียง 2 ป้ายรถเมล์ ตอนเช้าๆอาศัยเดินชมนกชมไม้ ชมหญิง ชมควาย(ขับรถ)บางคน ไม่ต้องง้อรถราที่ติดขัด ตอนเย็นก็เดินกลับเช่นกัน ปัญหาการเดินทางของผมแทบไม่มี แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มีเหตุที่ต้องเดินทางค่อนข้างไกล จากพัฒนาการ สู่ปากเกร็ด ผมอาศัยรถเมโทรบัส สาย 35 คันสีขาวๆ หน้าตาดี มีทีวีให้ดูนั่นแหละครับ เส้นทางจากพัฒนาไปสู่ปากเกร็ดต้องวิ่งบนถนนเพชรบุรีถนนสายโลกีย์อันเก่าแก่ ต้องผ่านแยกอโศกที่โคตรติด และผ่านสี่แยกประตูน้ำ แยกประตูน้ำที่ปกติก็โหดอยู่แล้วในเรื่องรถติด วันนี้ทะลึ่งมีกลุ่มคนมาประท้วงอีก..2+2 = 10 เลยละครับพี่น้อง รถเมโทรบัสนิ่งสนิท ทุกคนดูกระวนกระวาย แต่ผมไม่ ..เพราะอะไรนะหรือ วันนี้ผมมีหนังสือติดกระเป๋ามาด้วยเล่มหนึ่ง เรื่อง เคนดะอิจิ ยอดนักสืบ เคนดะอิจิ ยอดนักสืบ เป็นหนังสือนิยายแนวสืบสวนสอบสวนของญี่ปุ่นที่มีคดีสะเทือนขวัญเยอะแยะมากมาย ล้วนแต่น่ากลัว ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ หญิงคิดคด ชายกบฏ รถระเบิด ฯลฯ  มีหลายภาคหลายตอนครับ เล่มที่อยู่ในมือผมขณะนี้ คือ ตอนเจดีย์สามเศียร ไม่น่าเชื่อว่าผมติดอยู่บนรถเมล์ตั้งเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ไม่รู้สึกเบื่อ หงุดหงิด ง่วงนอน หรือหิว อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่ตอนนั้นเป็นเวลาระหว่าง 6 โมงเย็น – 2 ทุ่ม อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศในรถที่เอื้อตอนการอ่านหนังสือ บวกกับหนังสือที่สนุกอ่านแล้ว น่าติดตาม น่าสงสัย ชวนให้อยากรู้ ผมมักตั้งคำถามและเดาเหตุการณ์ในคดีของเคนดะอิจิเสมอ แต่เดาถูกเพียงเล็กน้อย เมื่อตอนจบมักมีการผลิกล็อกแบบคาดไม่ถึงเสมอ และนั่นคือเสน่ห์ของเรื่อง ทั้งผู้เขียนคือ โยโคมิโซะ  ชิชิ และผู้แปล มนาด ศีติสาร ได้ใส่อรรถรสและความลึกลับซับซ้อน…

เคนดะอิจิ
อ่านต่อ

จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 32

วิ่ง, สุขกะภาพ 15 January 20173 November 2017

การไปวิ่งจอมบึงมาราธอนถือเป็นความใฝ่ฝันของนักวิ่งทั้งหลาย เพราะไม่ใช่ว่าใครจะไปวิ่งได้ นอกจากมีเงิน มีเวลาแล้ว ยังต้องลุ้นว่าสมัครแล้วจะได้รับเลือกให้ไปวิ่งหรือเปล่า ตอนสมัครวิ่งใจยังไม่พร้อมสำหรับมาราธอนเลยเลือกในระยะที่ตัวเองสามารถทำได้ก่อน นั่นคือระยะฮาล์ฟ แต่พอถึงเวลาจริงกลับเสียดายระยะมาราธอน.. เราน่าจะจบมาราธอนแรกเสียทีนี่เลย

จอมบึงมาราธอน

กระต่ายไล่โจร(?)

ไดอารี่ 11 November 200827 September 2016

เคยดูทีวีเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงๆ อุบัติเหตุจริงๆ อย่างเช่นรายการเรื่องจริงผ่านจอ ที่มักจะเอาภาพวงจรปิดการโจรกรรมบ้าง ลักขโมยของเล็กๆน้อยๆ ของในห้างร้านจนกระทั่งถึงของใหญ่ๆ เช่น รถ, บ้าน เป็นต้น เห็นแล้วก็กลัวอยู่เหมือนกัน แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า เหตุการณ์แบบนั้นคงไม่เกิดขึ้นกับเรา แต่แล้ว..เหตุการณ์แบบในทีวีก็เกิดขึ้นจริงกับผม!!! เย็นวันนี้หลังจากเลิกงานในเวลาห้าโมงเย็น ผมก็กลับบ้านไวตามปกติ พอเดินมาถึงห้องขณะจะไขกุญแจ ก็เหลือบไปเห็นข้างๆประตูมีรอยงัดแงะ แว่บแรกคิดว่า..เอ ไอ้จุ๊บ(กระต่ายของผม) มันมาแทะประตูห้องตั้งแต่เมื่อไรหว่า คิดในเวลาติดๆกันต่อไปว่า นี่มันสูงเกินที่กระต่ายจะแทะได้ ใจคอเริ่มไม่ได้ ขณะเดียวกันผมก็เหลือบไปดูที่กุญแจ กุญแจคล้องถูกงัด กุญแจลูกบิดก็ถูกงัด! ผลักประตูเพียงเบาๆประตูก็เปิดอ้าออกโดยง่าย ผมตัวเย็น ใจหายวูบ รีบก้าวเข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่ดูคือ macbook! ผมไม่ได้ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะคอม จะเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างมิดชิด จะใช้เมื่อไรถึงจะหยิบออกมา รีบเปิดตู้ดู ปรากฏว่าแมคบุคสุดเลิฟ ยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม ใจชื้นขึ้นมาหน่อย รีบสำรวจดูของอื่นๆ ปรากฏว่าของทุกอย่างยังอยู่อย่างเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการถูกค้น รื้อ หรือปรากฏว่ามีอะไรหาย? ยังความปลาดใจให้เกิดแก่ผมยิ่งนัก ผมโทรเรียกเจ้าของหอมาดู แกมาถึงก็แสดงความกังวลที่เห็นประตูถูกงัดจนเสียหาย อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ใครรู้ กลัวคนอื่นจะกลัวและจะย้ายออก ดูแกจะกังวลกว่าผมมาก รีบไปหาอุปกรณ์มาซ่อม และปลอบผมให้หายกังวลว่า ต่อจากนี้ไปตอนบ่ายๆคงต้องเดินมาตรวจบ่อยๆ เพราะปกติกลางวันจะเงียบ คนออกไปทำงานซะส่วนใหญ่ กลางคืนมียามคอยรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว นั่งดูแกซ่อมประตูพลางพยายามคิดกันว่า ขโมยคนนี้คือใคร เป็นคนใน(หอ)หรือคนนอก คนนอกก็อาจเข้ามาได้แม้ประตูหอจะมีระบบคีย์การ์ดก็เถอะ ขโมยอาจถือโอกาสที่มีคนเข้า แล้วเดินตามเข้าไป หรือถ้าเป็นคนใน เจ้าของหอให้ความคิดเห็นว่า แกสงสัยอยู่คนหนึ่ง ซึ่งพึ่งย้ายมาอยู่ไม่นาน อยู่ห้องริมในชั้นเดียวกันนี้ ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง ยังเป็นนักศึกษาเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น ในเวลากลางวันก็จะมีเพียงเด็กคนนี้อยู่ในชั้นนี้คนเดียว แต่ก็ไม่สามารถปักใจเชื่อได้ เพราะไม่มีหลักฐาน ประเด็นที่ว่าใครคือขโมย ก็ยังสรุปไม่ได้ ประเด็นต่อไปคือ ทำไมขโมยคนนี้ถึงไม่เอาสิ่งของใดๆออกไป ถึงแม้เอาของใหญ่ไปไม่ได้ อย่างทีวี ตู้เย็น ของใคร คงเอาไปไม่ได้ เพราะจะเป็นที่สงสัยของคนปากซอย แต่กระนั้น ทำไมของเล็กๆน้อยๆ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ ถึงไม่ได้ถูกรื้อค้นอย่างที่ควรจะเป็น สิ่งที่ผิดปกติเพียงนิดเดียวที่ผมเห็น คือ ปลั๊กทีวีถูกเสียบไว้ (ปกติก่อนออกไปทำงานทุกครั้งผมจะดึงปลั๊กออก) แต่อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อเช้าผมลืมถอด ข้อนี้ยังไม่แน่ใจนัก ปกติผมไม่เคยลืมจะถอดปลั๊ก ข้อสันนิษฐานที่ผมคุยกะเจ้าของหอ คือ เป็นไปได้ไหมที่ขณะเจ้าขโมยกำลังงัดห้องได้ พอดีมีคนเดินผ่านมา…

กระต่าย

ตัณหาพาไป~

เรื่องทั่วไป 25 June 2008

ช่วงนี้ลูกชายผมกำลังอยู่ในช่วงหนุ่มเต็มที่ มีอารมณ์ได้ตลอดเวลา ขณะนั่งทำงานอยู่ดีๆ มันมาเกาะขาผมกระดึ๊บๆ พยายามจะปล้ำขาผมให้ได้ ก่อนจะปล้ำมีการมาโลมเล้า เลียขาจนน่ารำคาญ คิดไปคิดมาก็น่าสงสารมันเหมือนกัน จะพาไปเที่ยวอาบอบนวด ก็ไม่รู้ว่าที่ไหนมีอาบ อบ นวดสำหรับกระต่ายบ้าง ก็จึงจำยอมให้มันข่มขืนขาไปพลางๆก่อน  พอพ้นฤดูของมัน อารมณ์ของมันก็น่าจะปกติ  พูดถึงเรื่องนี้ เมืือคืนดูรายการตี 10 กรณีหญิงสาวที่มาแฉว่าถูกพ่อพยายามข่มขืน ตัณหานี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ จนน่ากลัว สัตว์อย่าง หมา กระต่าย วัว ควาย มันมีเพศสัมพันธ์กันตามฤดู มีเพื่อสืบพันธ์ แต่คนมีเพศสัมพันธ์เพื่อสนองตัณหาตัวเอง ต้องการเซ็กเหมือนต้องการอาหาร ก็ไม่ปฏิเสธว่าเซ็กส์มันสุดยอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเซ็กส์คือสิ่งที่ดีที่สุด อาจจะมีการวิจัยมาแล้วว่า เซ็กส์ที่เหมาะสมทำให้สุขภาพแข็งแรง เซ็กส์ทำให้เลือดสูบฉีดดี แต่เซ็กส์ต้องอยู่ในขอบเขตแห่งความถูกต้อง เหมาะสม มีศีลธรรม .. นับวันข่าวแนวพ่อข่มขืนลูก ลูกข่มขืนแม่ พี่ข่มชืนน้อง ฯลฯ จะเยอะขึ้นจนน่าตกใจ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวของต่างประเทศ ที่พ่อแท้ๆ ขังลูกสาวไว้ที่ห้องใต้ดิน และข่มขืนจนมีลูกหลายคน.. อ่านข่าวแล้วก็อนาถ ปฏิเสธอไม่ได้ว่า ที่โลกเจริญได้ทุกวันนี้ ก็เพราะตัณหาเป็นตัวขับเคลื่อน อยากบินได้เหมือนนก ก็คิดก็ค้นจนได้เครื่องบิน อยากเดินทางไปในน้ำได้เหมือนปลา ก็คิดก็ค้นจนได้เรือ อยากไปไหนมาไหนเร็วเหมือนมา ก็คิดก็ค้นจนได้รถ อยากร่ำอยากรวย ก็เล่นการเมือง..ฯลฯ แต่ตัณหาที่อยู่เหนือการควบคุมของปัญญา ย่อมนำพาไปในทางเลวร้าย ยิ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยิ่งทำให้เห็นตัณหากันดาษดื่นในสภา แต่ละคนออกมาพูด ก็น่าเชื่อทั้งนั้น พูดกันคนละที เลยไม่รู้ว่าใครพูดจริง ใครพูดโกหก ใครพูดเพื่อบ้านเมือง ใครพูดเพื่อตัวเอง เพื่อพวกพ้อง หรือเพื่อผู้มีบุญคุณ(คนนั้น)  ป.ล. วันนี้นั่งคิดตั้งนานว่าจะมาบ่นอะไรดี เหลือบไปเห็นช่อง NBT เห็นคนๆนี้เข้า ก็เลยอยากจะเขียน แต่ไม่กล้าเขียนลงลึก เพราะผู้ไม่รู้ ไม่ควรพูดมาก..เดี๋ยวปากจะพาจน

ทรัพย์อันประเสริฐ..เกิดในสันดาน

เรื่องทั่วไป 18 January 2010

ความสุขของปุถุชนเฉกเช่นพวกเรา คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความสุขสูงสุดในชีวิตคือ เงิน อัตราความสุขจะสูงหรือต่ำ เงินคือมาตรวัด  เพราะเงินสามารถซื้อความสุขได้สารพัดอย่าง ซื้อความสะดวกสบาย ซื้ออาหารที่ชอบ ซื้อผู้หญิงที่ใช่ ซื้อความรัก(?) (กรณีความรักนี่ ผมไม่แน่ใจว่า เขาสามารถซื้อได้จริงหรือไม่นะ เพราะหากความรักสามารถซื้อได้ด้วยเงิน เมื่อไรที่เงินหมด ความรักก็จะหมดเช่นกัน) เนื่องจากยังไม่เคยเป็นคนมีเงินมากมายถึงขนาดสามารถซื้อโน่นซื้อนี่ได้แบบไม่ต้องคิดอย่างนั้น เลยไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า เงินมาก เท่ากับ สุขมาก จริงหรือไม่? รอให้มีเงินเยอะๆก่อน แล้วจะมาบอกว่า มีเงินเยอะแล้วสุขเยอะจริงมั้ย? ผมว่า สุขหรือทุกข์ มันอยู่แค่ กินได้ และนอนหลับมั้ย? ประเภทที่ว่า กินก็ไม่ค่อยได้ ได้นิดหน่อยก็หาความอร่อยไม่เจอ อาหารเต็มโต๊ะหรูหราแต่นั่งกินคนเดียว ลูกก็ไม่อยู่ ภรรยาก็ไปเที่ยว  เวลานอนก็มือก่ายหน้าผาก คนที่นอนข้างๆก็ไปจ้างเขามานอนด้วย หน้าตาหยั่งกะนางฟ้า อายุเท่ากับลูกสาวตัวเอง รู้สึกเหมือนนอนกับลูกสาว ..นี่เราจะมีอะไรกับลูกสาวตัวเองเหรอเนี่ยะ?? บริวาร ลูกน้อง เดินห้อมล้อม ยกมือไหว้ ธาตุแท้มิได้ไหว้เราเลย มันไหว้เงินของเราต่างหาก สรุปนี่ สุขหรือทุกข์กันแน่นะ มองดูตามียายมา ตาสายายสี ตาดียายดำ ทำงานง่กๆ ทั้งวัน เหนื่อยมากก็กินข้าวได้มาก เอร็ดอร่อยลูกหลานห้อมล้อมแย่งกันกิน แป๊บเดียวกับข้าวหมดจาน พอตกกลางคืนยังไม่ทัน 2 ทุ่มดี ก็หลับเป็นตาย กินอิ่ม นอนหลับ ..ก็สุขใจ ในพุทธศาสนาบอกไว้ว่า แท้จริงทรัพย์ที่มีค่าที่สุด คือทรัพย์ที่มีอยู่ในสันดานของเรานี่เอง เรียกว่า อริยทรัพย์ มี ๗ อย่าง ๑.  สัทธา เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ ๒.  สีล รักษา กาย วาจา ให้เรียบร้อย ๓.  หิริ ความละอายต่อบาปทุจริต ๔.  โอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อบาป ๕.  พาหุสัจจะ ความเป็นคนเคยได้ยินได้ฟังมาก คือ จำทรงธรรมและรู้ศิลปวิทยามาก ๖.  จาคะ สละให้ปันสิ่งของของตนให้แก่คนที่ควรให้ปัน ๗.  ปัญญา รอบรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์…

ธรรม
อ่านต่อ

ทริปนอนเต๊นท์ ณ ป้อมปี่ กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว 27 October 201914 March 2020

หลังจากติดอกติดใจในการกางเต๊นท์เมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งนี้จึงจัดทริปใหม่อีกครั้ง โดยจุดหมายคืออุทยานแห่งชาติเขาแหลม ป้อมปี่ เดินทางออกจากกรุงเทพในเวลาประมาณ 9.00 นาฬิกา เส้นทางไปกาญจนบุรีเดินทางสะดวกรถน้อยเหมาะแก่การเดินทางไปเที่ยว ป้อมปี่อันเป็นจุดหมายในการเดินทางในครั้งนี้นั้นใช้เส้นทางที่มุ่งหน้าไปสังขละบุรี เส้นทางบางจุดแคบ ขดเคี้ยวและลาดชัน อาจต้องใช้ความระมัดระวังนิดหนึ่ง แต่รถทุกชนิดสามารถวิ่งได้สบาย ก่อนถึงป้อมปี่ประมาณ 4 กิโลเมตรทางด้านขวามือจะจบน้ำตกเกริงกระเวีย ลองเที่ยวแบบเรียบง่ายใช้ชีวิตติดดิน ก็ได้บรรยากาศอีกแบบครับ ที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้โขเลย การทำอาหารในที่ๆเครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อมก็ได้อรรถรสสนุกสนานกันไป ทริปหน้าไปไหนต่อ..เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง

กาญจนบุรี ป้อมปี่ เขาแหลม

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH