Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

say

อ่านต่อ

หมากับงูเห่า

say, ไดอารี่ 9 April 20209 April 2020

เมื่อวานขณะกำลัง Standup Meeting อยู่นั้น พลันได้ยินเสียงเจ้าม่อนเห่าแปลกๆ แบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนทั้งเห่าทั้งขู่ พอเบือนหน้าจากหน้าจอมีตติ้งหันไปดูเท่านั้นแหละ !!งูเห่ากำลังแผ่หัวชูคอฟ่อๆ หมาก็เห่างูก็เห่า ดูสถานการณ์แล้ว ไม่น่าจะอาจสามารถจัดการเองได้ จึงรีบไปตามยาม พอยามมาถึงก็ใช้วิธีวิสามัญฆาตกรรมแบบไม่ต้องมีหมายเรียก ปิดคดีภายในไม่ถึง 10 นาที งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้ม่อน หมาหน้ามึนตัวนี้ นี่ถ้าเราไม่มีหมาไว้สังเกตสังกาหน้าบ้าน สถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้ ฝั่งที่โชคร้ายอาจไม่ใช่งูเห่า แต่อาจเป็นใครสักคนภายในบ้าน

แซลม่อน
อ่านต่อ

“โพสต์”

say, เรื่องทั่วไป 12 May 201811 June 2019

-1- หลังจากกลับจากโรงเรียนเย็นวันนั้น เด็กชายตื่นเต้นมากกับสิ่งที่เขาได้มาจากโรงเรียน เขาหลงใหลกับสิ่งนี้มาก ในสายตาเขามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ สามารถวาดการ์ตูน เขียนตัวหนังสือสวยๆงามๆ บนกระดานได้ เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ครูใช้มันสร้างสิ่งยิ่งใหญ่บนกระดาน และสำคัญว่ามันจะสามารถวาดหรือเขียนอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ มันคือสิ่งที่เรียกว่า “ชอล์ก” -2- ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือส่งตัวเองเข้าสู่โลกโซเชียล รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากเมื่อเห็นคลิปน่ารักๆ ที่เพื่อนเขาโพสต์ แต่พอนิ้วสไลด์ขึ้นขยับสายตาเลื่อนลงมาในโพสต์ถัดไป กลับเปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นนิ่งเฉย แววตาแฝงความอิจฉา เมื่อเห็นภาพเพื่อนๆที่ถ่ายตามที่ท่องเที่ยวต่างๆในท่าทีที่มีความสุข นึกถึงตัวเองที่ตอนนี้ยังคงทำงานหนัก แต่ยังไม่สามารถมีเงินไปเที่ยวที่ไหนเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่แม้แต่จะกดไลท์ และรีบเลื่อนมันพ้นๆไป สายตายิ่งแฝงความเคียดแค้นชิงชังหนักขึ้น เมื่อเลื่อนลงมาพบข่าวดาราที่เขาชื่นชอบถูกแฟนบอกเลิกทั้งๆที่มีลูกด้วยกันแล้ว -3- เด็กชายเสียใจนิดหน่อยที่พบว่า “ชอล์ก” ที่เขาได้มาจากโรงเรียนไม่สามารถเนรมิตตัวการ์ตูนหรือสิ่งสวยๆงามๆอย่างที่ครูทำได้ อีกทั้งพบว่า “ชอล์ก” ไม่ใช่ผู้สร้าง เป็นแต่เพียงเครื่องมือช่วยในการสร้างเท่านั้นหลังจากที่พยายามเที่ยววาดทั่วกำแพงบ้านและกำแพงวัดในหมู่บ้าน นอกจากภาพที่วาดจะไม่สวยงามแล้ว บางข้อความที่เด็กชายเขียนเป็นคำด่าหยาบคายระบายอารมณ์ส่วนตัว -4- ชายหนุ่มโพสต์ข้อความหยาบคายแสดงความคิดเห็นต่อข่าวดาราที่เขาชื่นชอบถูกแฟนบอกเลิกทั้งๆที่มีลูกด้วยกันแล้ว ทุกตัวอักษรที่เขาบรรจงพิมพ์แต่ละตัวเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชังด้วยอารมณ์ส่วนตัว แต่ใช้พื้นที่ข่าวในการแสดงออก ดังนั้น ข้อความที่เขาโพสต์ลงไปจึงเต็มไปด้วยอคติและบิดเบือนความเป็นจริงแทบทั้งสิ้น และเมื่อกดเผยแพร่ ข้อความของเขาก็เข้าสู่โลกโซเชียลอันไม่มีที่สิ้นสุดเสียแล้ว เจ้าของบ้านทั้งก่นด่า สาปช่างเมื่อเห็นว่ากำแพงเลอะไปด้วยข้อขีดเขียนเต็มไปหมด พระเณรเองก็ต้องทำความสะอาดกำแพงวัดยกใหญ่ ด้วยฝีมือของเด็กชายผู้ไร้เดียงสา หลังจากกดเผยแพร่ไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง ชายหนุ่มเริ่มมีสติและคิดได้ว่าข้อความเหล่านั้นไม่ถูกต้อง รีบกลับไปลบ..แต่สายไปเสียแล้ว ข้อความของเขาถูกแค้ปเจอร์ไว้หมดแล้ว หลังจากนี้อาจถูกดำเนินคดีในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น การกระทำของทั้ง 2 คน ไม่แตกต่างกัน เป็นการกระทำแบบเด็กที่ไม่มีสติ แต่ความเสียหายเหมือนกัน เด็กทำยังเข้าใจว่าไร้เดียงสา แต่ถ้าผู้ใหญ่ทำเรียกว่าไร้ปัญญา!

อ่านต่อ

ตารางฝึกฮาล์ฟมาราธอน

say, วิ่ง, ไดอารี่ 26 July 20163 November 2017

วิ่งให้เข้าเส้นชัยใครก็วิ่งได้, แต่วิ่งให้เข้าเส้นชัยแบบสบายๆ นี่ต้องมีตารางฝึก ไปได้ตารางฝึกจากพันทิปมา มีตารางวิ่งย่อมดีกว่าวิ่งลอยๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลที่ดีกว่าแล้ว ยังอาจเจ็บตัว บาดเจ็บอีก คำแนะนำจากจขกท. CT- Cross train เป็นกิจกรรมที่ทำในวันที่ไม่ได้วิ่ง เลือกกิจกรรมที่เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ (cardio workout)ยาวประมาณ 30 นาที เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ TT- Time Trial วิ่ง warm up 1.6km จากนั้นวิ่ง pace (ความเร็วในการเคลื่อนที่ปกติ หมายถึงระยะเวลานาทีที่ใช้วิ่ง/เดินต่อหนึ่งกิโลเมตร) สบายๆ จากนั้นจับเวลาในการวิ่งเร็ว เป็นระยะทาง 3.2km แล้วพยายามวิ่งให้เร็วขึ้นสำหรับ TT ครั้งต่อไป R&R Run-Rest & Recovery run วิ่ง 4.8km – 6.4km ที่ pace สบายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง ทุก ๆ 4 อาทิตย์จะเป็นอาทิตย์ R&R INT- Intervals วิ่ง 1.6km แบบสบาย ๆ จากนั้นให้สลับระหว่างหนึ่งนาทีแบบวิ่งเร็ว (ประมาณ 80-90%) แล้วก็หนึ่งนาทีวิ่งแบบสบาย ๆ หรือวิ่งเร็ว (80-90%) สองนาที แล้วก็วิ่งแบบสบาย ๆ หนึ่งนาที เป็นระยะทาง 3.2km จากนั้นให้วิ่งแบบสบาย ๆ อีก 0.8km เป็นการ Cool down T- Tempo run ( 4.8km – 6.4km ) วิ่ง 1.6km ที่ความเร็วปกติ จากนั้นวิ่งเร็วขึ้น Tempo run (สปีดเร็วกว่าปกติ สามารถพูดได้ 3-4…

halfmarathon run วิ่ง
อ่านต่อ

ป้าจิ๊กกี๋

say 25 July 201523 September 2016

เข้าสู่ปีที่  10 ของเธอแล้ว ถ้าเป็นคนก็อายุประมาณ 65 ปี เป็นป้าที่เอาแต่ใจ และจนถึงวันนี้จิ๊กกี๋ก็ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น “หมา” ไม่รู้จะบอกเธอยังไง กลัวเธอรับไม่ได้

จิ๊กกี๋
อ่านต่อ

พี่เบส

say 9 June 201514 June 2019

“งานทำให้ค้นพบตัวเอง” – พี่เบสบอก.

อ่านต่อ

น้องพฤกษ์

say, สุขกะภาพ 31 May 201523 September 2021

น้องพฤกษ์เป็นลูกชายขององอาจ เพื่อนข้างๆบ้านนี่เอง ถ้าผมมีลูก ก็จะไล่เลี่ยกันกับน้องพฤกษ์นี่แหละครับ กำลังน่ารักน่าชังน่าตี และซุกซนตามประสาเด็ก เรื่องที่เคยกังวลว่า จิ๊กกี๋จะเป็นปัญหาหรือจะรังแกน้องหรือไม่นั้น ดูจากภาพนี้คงหายกังวลครับ ปกติกี๋จะหวงบ้านมาก แต่วันนี้น้องพฤกษ์เดินต๊อกแต๊กๆ เข้าบ้าน นอกจากกี๋จะไม่เห่าแล้ว ยังเดินตามมาส่งกระดิกหางดุกดิกหมามันฉลาดครับ, มันรู้ใครมาดี ใครมาร้าย “จิตใจแม้จะซ่อนไว้ข้างใน แต่หมามันรู้ครับ“

เคยชิน อ่านต่อ

เคยชิน

say 30 May 201510 July 2015

เรามักใช้ชีวิตด้วยความเคยชิน.. เคยชิน..กับการตื่น 6 โมงเช้าในวันจันทร์ถึงศุกร์ และเกือบเที่ยงในวันเสาร์อาทิตย์ เคยชิน..กับการบ่นเมื่อรถติดตามมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด ทั้งๆที่มันก็ติดทุกวัน เคยชิน..กับการกินกาแฟเอสเปรสโซ่หวานน้อยก่อนการเริ่มทำงาน เคยชิน..กับการเข้างานช้า ทั้งๆที่หลายครั้งมาถึงออฟฟิสเช้า เคยชิน..กับการกินอาหารแบบเดิมๆ รสชาติเดิมๆ และปฏิเสธอาหารอื่น ทั้งๆที่มีรสชาตดีกว่า เคยชิน..กับสังคมเน่าๆ ทั้งที่สามารถทำให้มันดีได้ เคยชิน..กับการคุยคนเดียวมากกว่าต้องไปคุยกับใคร เคยชิน..กับการอยู่คนเดียว เคยชิน..กับการไม่ต้องคิดถึงใคร เคยชิน..หรือจริงๆแล้วไม่ใช่ความเคยชิน แต่เป็นความแตกต่างตั้งแต่ต้น

สืบนัก..รักซะเลย : ตอนที่ 2 พยานปากสุดท้าย อ่านต่อ

สืบนัก..รักซะเลย : ตอนที่ 2 พยานปากสุดท้าย

say 11 November 20092 August 2017

(ต่อจากตอนที่แล้ว ปริศนาการตาย) อา หรือ สระอา พงศ์พัฒนพงศ์ นักศึกษาปี 4 คณะนิติศาสตร์ แม้จะพึ่งย้ายมาอยู่ที่รมณียคอนโดได้ไม่นาน แต่ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกต เขาจึงรู้จักเกือบหมดทุกคนในคอนโดแห่งนี โดยที่คนเหล่านั้น รู้จักเขาเพียงไม่กี่คน อา เป็นคนที่รักความยุติธรรม ไม่ชอบการเอาเปรียบ เขาเลือกเรียนในคณะนิติศาสตร์โดยไม่ลังเลหลังจากพ่อเสียชีวิตลงอย่างมีเงื่อนงำ ทิ้งความมุ่งมั่นและความตังใจเดิมที่จะเรียนศิลปะ แม้จะทำใจได้ยากเหลือเกิน แต่ความเจ็บช้ำในอดีตพลักดันให้อามุ่งมั่นในทางแห่งความยุติธรรม เขาอยากจะผดุงมันไว้อย่างน้อยที่สุดเพื่อพ่อผู้ล่วงลับ ถึงวันนี้เขาก็ยังยืนยันว่า พ่อถูกฆาตกรรม ไม่ใช่อัตวินิบาตกรรม!!! เหตุการณ์ที่สีนวลเสียชีวิตด้วยความแปลกประหลาด ยังอยู่ในความสนใจของทุกคน ดังนั้น วันต่อมา จึงมีคนมาร่วมสังเกตการณ์มากกว่าวันแรก อาสังเกตเห็นว่า บุคคลหนึ่งซึ่งไม่ควรจะหาย แต่หายไป เขาเฝ้าสังเกตความผิดปกติอยู่เงียบๆ แล้วก็บังเกิดความผิดสังเกตอีกครั้งหนึ่ง !! ในบรรดาผู้ที่ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์นี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ หรือคนแก่ ส่วนเด็กวัยรุ่น ก็คงมีแต่เขา แต่วันนี้มีเพิ่มมาอีกหนึ่ง หญิงสาวผมยาว ผู้ซ่อนแววตาไว้หลังแว่นตา ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สามส่วน เธอเป็นใคร ทำไมเขาไม่เคยเห็น อาพยายามจ้องมองเธออย่างจับผิด เธอตาหน้าตาเหมือนสักคนที่อยู่อาศัยอยู่ในคอนโดแห่งนี้ แต่ยิ่งคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เมื่อลุงเกิดมาถึง เธอก็เฉลยสิ่งที่เค้าคิดทันที “วันนี้พ่ออยู่เวร เลยให้หนูลงมาแทน” เสียงกังวานสดใสชัดถ้อยชัดคำ ลักษณะแบบนี้เธอน่าจะเรียนครุศาสตร์ หรือไม่ก็นิเทศ หรือถ้าไม่เช่นนั้นคงต้องเป็นแม่ค้าขายอะไรสักอย่างแน่ๆ แต่เดี๋ยวนะ พ่ออยู่เวร งั้นก็แสดงว่า เธอเป็น.. “ค่ะ ปกติหนูพักอยู่กับย่า แต่ช่วงนี้ปิดเทอมเลยกลับมาเยี่ยมพ่อ” “ไม่คิดว่าหมวดสรวัฒน์จะมีลูกสาวโตน่ารักขนาดนี้นะเนี่ย” ลุงเกิดเดินมาตรงกลางวงม้านั่งหินอ่อน ที่มีคนอื่นๆ นั่งรออยู่แล้ว “ลุงเกิด ที่มานี่ เราอยากจะรู้ความคืบหน้า ตกลงยามมันกลับจากต่างจังหวัดหรือยัง?” พันเปิดประเด็นทันทีอย่างใจร้อน “เฮ้อ..” ลุงเกิดถอนหายใจก่อนจะกล่าวสืบไปว่า “ข้าก็พยายามจะไม่คิดมาก และไม่อยากจะหาคนผิดหรอกนะ แต่ดูๆ เรื่องนี้มันก็แปลกๆจริงๆ” “ยังไงเหรอลุง” “เมื่อเช้านี้ข้าไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัย ต้นสังกัดที่ส่งยามมาทำงานที่นี่ เขาบอกว่า วิเชียรลาออกไปแล้ว ไม่ได้ลากลับบ้านอย่างที่เราเข้าใจ พรุ่งนี้ทางบริษัทจะส่งยามคนใหม่มาแทน” “อ้าว ..แล้วใครเป็นคนบอกว่ายามลากลับบ้าน” “เรื่องนี้วิเชียรเป็นคนบอกข้าเอง ข้าก็เลยสงสัย ว่าทำไมวิเชียรถึงต้องโกหกข้า ที่ผ่านมามันก็ดูเป็นคนดีคนหนึ่ง ส่วนว่าบ้านที่ต่างจังหวัดอยู่ไหน มีครอบครัวเป็นอย่างไร อันนี้ไม่รู้เลย” “ฉันว่ายามคนนี้มันแปลกๆอยู่นะลุงเกิด ” หลังจากนั่งฟังอยู่นาน…

อ่านต่อ

จุดเปลี่ยนของชีวิต..คุณลิขิตเองได้(นะ)

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 29 January 201030 June 2016

ผมชอบดูรายการที่เขาสัมภาษณ์คนใหญ่คนโต หรือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต คำว่า คนใหญ่คนโต ไม่ใช่เฉพาะ นายกรัฐมนตรี, สส. หรือคนร่ำรวมมหาศาลอย่างเดียว แต่หมายถึงคนที่มีความสุขในชีวิต มีอาชีพที่มั่นคง และได้ชื่อว่าประสบแล้วซึ่งความสำเร็จในชีวิต รายการแบบนี้มีน้อยเต็มทีในทีวีบ้านเรา เห็นมีเจาะใจที่ยังยืนยันยึดมั่นทำรายการแบบนี้มา ส่วนวู้ดดี้ เป็นรายการสัมภาษณ์เช่นกัน แต่สัมภาษณ์ดารา อิงกระแส เน้นถามแรงๆ แปลกๆ .. ส่วนสาระนั้นแทบไม่มี เมื่อวานนี้ผมได้ดูรายการสัมภาษณ์แบบนี้ 2 รายการ ไหนๆ ก็บอกไว้แล้วว่ารายการทำนองนี้มีสาระ ก็จึงต้องหาสาระจากการดูมาเล่าสู่กันฟังซะหน่อย รายการแรกบังเอิญได้ดูเมื่อตอนหัวค่ำ คม ชัด ลึก โดยพิธีกรน่ารัก อายุเท่ากันกับผม จอมขวัญ กัลยา แกได้ไปสัมภาษณ์คุณประเสริฐ รุ่งโรจน์ ผู้เป็นเจ้าของหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ” คำว่าแกะดำในความหมายของคุณประเสริฐ คือ การทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามคนหมู่มาก การสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ชีวิต การเลี้ยวขวาขณะที่คนหมู่มากเลี้ยวซ้าย ไม่ใช่คนขวางโลก แต่เป็นการคิดและการทำอย่างมีเหตุผลซึ่งแกทำและประสบความสำเร็จมากว่า 20 ปีแล้ว ..แกะดำของคุณประเสริฐน่าสนใจมั้ย? คุณประเสริฐเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากศูนย์ แกจบวิศวะ แต่มาเริ่มทำงานด้านโฆษณาตอนอายุ 29 แกเริ่มต้นงานโฆษณาจากศูนย์จริงๆ เพราะแกไม่รู้จักกระทั่งคำว่า “อาร์ตเวิร์ก” คืออะไร แต่ 2 ปีผ่านไปทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จอย่างล้นลามอย่า่งในปัจจุบัน จุดเปลี่ยนของคุณประเสริฐคือ ตอนที่ท่านประสบอุบัติเหตุ ต้องนอนนิ่งๆอยู่ในห้องไอซียูถึง 3 อาทิตย์ ตรงนั้นเองทำให้ท่านคิด และพิจารณาถึงวงจรชีวิตที่เป็นวงกลมอันนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จากหลังมือเป็นหน้ามือ คุณประเสริฐบอกว่า คีย์เวิร์ดสำคัญของการประสบความสำเร็จ คือ การตั้งคำถามอย่างถูกต้อง การตั้งคำถามอย่างถูกต้อง จะนำไปสู่การหาคำตอบที่ถูกต้องเช่นกัน เมื่อตั้งคำถามผิด คำตอบก็จะหาไม่ได้ เมื่อไม่ได้คำตอบในชีวิต การดำเนินชีวิตจะดีได้อย่างไร แกะดำ ไม่ได้สอนให้ทำธุรกิจด้วยตัวเองอย่างเดียว แต่สอนให้รู้จักคิดต่าง เพื่อสร้างความสุขในชีวิต ในหน้าที่การงาน ให้ออกจากวงกลมของชีวิตของแกะขาว กล่าวคือ ตื่นเช้า ไปทำงาน พักเที่ยงกินข้าว เย็นกลับบ้าน นอน เช้าวันใหม่ ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ..นั่นคือ แกะขาวของคุณประเสริฐ จากการได้ดูการสัมภาษณ์ ทำให้ผมเริ่มอยากรู้จักวิถีชีวิตของแกะดำมากขึ้น วันนี้เลยสั่งซื้อหนังสือของคุณประเสริฐมา 1 เล่มก่อน…

แกะดำ

ทะเลาะ..ทำไม

เรื่องทั่วไป, เรื่องสั้นสั้น 24 November 2009

สายน้ำไหลเลาะเซาะซอกเขาใหญ่น้อย รวมกันเป็นสายน้ำใหญ่ไหลลงมาล่อเลี้ยงชาวเมืองใหญ่ถึงสองเมือง แม่น้ำนี้จึงเปรียบดั่งชีวิตและจิตใจ คราใดที่ขาดน้ำผู้คนดุจจะสิ้นใจ คราวใดที่น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ผู้คนก็เปรมปรีด์มีความสุข แม่น้ำสายนี้จึงเปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ล่อเลี้ยงสองเมือง คือ เมืองกบิลพัสดุ์ และเมืองเทวทหะตลอดมา แม่น้ำแห่งนี้ชื่อว่าแม่น้ำโรหิณี เมืองกบิลพัสดุ์ซึ่งเป็นเมืองของบิดาของพระพุทธเจ้าของพวกเราตั้งอยูทางเหนือแม่น้ำ ส่วนเมืองเทวทหะซึ่งเป็นเมืองของมารดาของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำ  ทั้งสองเมืองเปรียบเหมือนเป็นเมืองพี่เมืองน้อง เป็นเมืองที่เป็นญาติถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และเป็นเช่นนี้มานานนับปี จนกระทั่งมาปีหนึ่งซึ่งน้ำในแม่น้ำน้อยลง แม่น้ำซึ่งทั้งสองเมืองยืดถือเป็นลมหายใจ ดุจจะลองใจคนทั้งสองเมืองให้สำนึกในบุญคุณ ว่ากันว่า ถ้าจะดูใจคนให้ดูในตอนที่เกิดเรื่อง เพราะในตอนนั้นธาตุแท้ของคนก็จะออกมาให้เราประจักษ์ ทั้งสองเมืองมีอาชีพทำนาเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อขาดน้ำก็เหมือนขาดข้าวไปด้วย เมืองที่อยู่ทางเหนือแม่น้ำ เริ่มแสดงความเป็นคนใจแคบโดยการกั้นน้ำไว้ ทดน้ำเข้านาของตน เมืองที่อยู่ทางใต้น้ำเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ จึงจำเป็นต้องมาเจรจากันระหว่างสองเมือง การเจรจาครั้งนี้ ไม่มีทีท่าเหมือนมาเจรจากันเลย เพราะทั้งสองเมืองได้ยกทัพมาประจันหน้า ณ แม่น้ำโรหิณี ความเป็นเมืองที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปันกันในฐานะเมืองพี่เมืองน้อง เมืองญาติกันไม่เหลืออีกต่อไป   พระพุทธองค์ทรงเห็นถึงภัยร้ายแรงนี้ จึงเสด็จรุดไปในวันนั้น ท่ามกลางความขัดแย้งของทั้งสองเมือง พระองค์ทรงประทับยืนกลางแดด จนพระญาติทูลถามว่า “ไยพระองค์ถึงเสด็จยืนท่ามกลางแดดที่ร้อน” พระองค์ตรัสว่า “ถึงแดดจะร้อน แต่ร่มเงาของพระญาตินั้นเย็นกว่าร่มเงาใต้ต้นไม้นัก” เมื่อเห็นพระญาติทั้งสองฝ่ายเงียบ จึงตรัสถามต่อไปว่า  “มหาบพิตรทั้งสอง ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร” “เรื่องน้ำพระพุทธเจ้าข้า” “ระหว่างน้ำกับชีวิตคนนี่อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน” พระองค์ตรัสถาม  “ชีวิตคนมากกว่า  พระพุทธเจ้าข้า”  “ควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้”   พระญาติดุษณีภาพทุกคน   ไม่มีใครกราบทูลเลย   พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า      “ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่วันนี้  ทะเลเลือดจะไหลนองดุจสายน้ำ”     เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พระญาติทั้งสองเมืองได้สติ และไม่รบราฆ่าฟันกันในวันนั้น      วันนี้ยกพระพุทธประวัติบางส่วนมาเล่า เพราะเดี๋ยวนี้เกิดเรื่องทะเลาะ ขัดแย้งกันเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะทะเลาะกับเพื่อน แฟน ทะเลาะกับคนข้างบ้าน ทะเลาะกับคนที่ไม่รู้จักบนท้องถนนที่เราเห็นว่าเขาขับรถไร้มารยาท(แต่เราก็เคยทำแบบนั้นในวันที่รีบ) ทะเลาะกับแท็กซี่ ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน ทะเลาะกับเจ้านาย ทะเลาะกับพี่น้อง ทะเลาะกับญาติ ทะเลาะกับคนข้างประเทศ ฯลฯ     การทะเลาะกันเกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างมองว่าอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง และฝ่ายเราถูกเอาเปรียบ   การทะเลาะยอดฮิต ก็คือ ทะเลาะด้วยเรื่องผลประโยชน์ ทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้มักจบไม่สวยและลุกลามใหญ่โตกลายเป็นทะเลาะเรื่องอื่นๆ สาวไส้มาทะเลาะมาเกลียด จนลืมต้นเค้าว่าเดิมเราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร    …

อ่านต่อ

ตามหาหัวใจ..ที่ชัยภูมิ (ตอน 2)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 August 20163 November 2017

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ด้วยความที่ช่วงนี้ออกกำลังกายบ่อย วิ่งทุกอาทิตย์ ร่างกายจึงฟิตเป็นพิเศษ ขับรถเป็นร้อยกิโลก็ยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ยังคงมีความสุขกับการขับรถท่องเที่ยว ประมาณบ่ายสองโมงที่ออกจากมอหินขาว ผมมุ่งหน้าสู่อำเภอเทพสถิตย์แหล่งที่ดารดาษด้วยดอกกระเจียวและบรรยกาศที่เย็นสบายเกือบทั้งปี เส้นทางส่วนใหญ่ลัดเลาะไปตามทุ่งนา หมู่บ้านน้อยใหญ่ ผมต้องการปั้มแก๊ส ตอนนี้หน้าปัดโชว์หน้าจอว่าแก๊สใกล้หมดแล้ว น้ำมันก็เหลือไม่ถึงขีด เส้นทางข้างหน้าอีกไกลแค่ไหน มีปั้มมั้ยยากคาดเดา ขับรถด้วยความกังวลเล็กๆเรื่องน้ำมัน ขณะที่คนข้างๆหลับไปนานแล้ว จนในที่สุดผมก็เจอปั้ม PT เติมเบนซินไป 500 บาทก่อนกันพลาด หลังจากนั้นขับรถต่อมาจนเข้าเขตอำเภอเทพสถิตย์ พอย่างเข้าเขตอำเภอผมรู้สึกได้ถึงความเย็น สดชื่น ตลอดทางเราจะพบรถอีแต่น รถไถ และรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าคนแถวนี้ทำนาทำไร่เป็นหลัก บ่ายสี่โมงผมมาถึงที่พัก เส้นทาง@LOVE รีสอร์ท ตัวรีสอร์ทไม่ติดถนนใหญ่ แว่บแรกที่เห็นทางเข้าเป็นถนนลูกรัง ผมใจคอไม่สู้ดีเท่าไร จนกระทั่งวิ่งมาถึงตัวรีสอร์ท ..ประทับใจครับ เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านติดกับไร่มันสำปะหลัง ถึงเป็นรีสอร์ทไม่ใหญ่มาก แต่การตกแต่งรวมถึงการออกแบบให้ความรู้สึกอบอุ่น น่ารัก เป็นครอบครัว ตัวที่พักจะอยู่รอบๆ เว้นสนามหญ้าตรงกลางไว้สำหรับวิ่งเล่น หรือปั่นจักรยานเล่นได้ ที่นี่มีจักรยานปั่นเที่ยวฟรี มี wifi มีอาหารอร่อย โดยเฉพาะผัดหมี่โคราชรสชาตแบบฉบับโคราชแท้ ห้องพักมีหลายแบบ ทั้งแบบบ้านเดี่ยวปูนเปลือย , บ้านแบบห้องแถวติดกัน หรือแบบเต๊นท์ก็มี แต่ละแบบก็มีความน่ารักและน่าพักแตกต่างกันไป ทั้งหลายทั้งปวงยังไม่เท่ากับความมีอัธยาศัยไมตรีอันดีของเจ้าของรีสอร์ท ยิ่งทำให้ที่นี่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเจ้าของรีสอร์ทตัวน้อยๆอีก 3 ตัว ที่คอยวิ่งป่วนต้อนรับแขกจนทั่วรีสอร์ท (หมายถึงน้องหมา) บรรยากาศรีสอร์ทดีขนาดนี้ มีหรือผมจะพลาด พอเช็คอินเข้าห้องพักเสร็จสรรพผมเลือกจักรยานที่ชอบ 1 คัน ปั่นออกไปซูดโอโซนในไร่มันสำปะหลัง ไร่มันที่มีภูเขาเป็นแบ็กกราวด์ไกลๆ ช่างงดงามนัก จนมืดค่ำผมกลับมาที่พัก คืนนี้คงได้นอนเต็มอิ่ม พรุ่งนี้ต้องตืนแต่เช้าเพื่อไปชมทุ่งดอกกระเจียว รุ่งเช้า ประมาณหกโมงครึ่ง ผมขับรถจากที่พักออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ต้องซื้อตั่วเพื่อเข้าชมและเมื่อเข้าไปแล้ว จะต้องซื้อตั๋วอีกครั้งสำหรับนั่งรถเข้าไปในอุทยานซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพราะเมื่อคืนมีฝนตก ทำให้เช้าวันนี้อากาศดีเป็นพิเศษกล่าวคือมีหมอกปกคลุมเต็มพื้นที่ไปหมด ผมซูดอากาศเข้าไปเต็มปอด นานแล้วที่ผมไม่ได้ซูดอากาศแบบไม่ต้องรู้สึกตะขิดตะขวงใจแบบนี้ ผมไม่สามารถจะบรรยาบรรยากาศได้ครบถ้วนทั้งหมด จะบอกว่ามันสวยงามมาก อากาศดีมาก หมอกที่ปกคลุมตามชายป่าสีเขียว บนพื้นก็มีต้นหญ้าสีเขียว มีดอกกระเจียวประปราย งดงามครับ งดงามอย่างยากจะบรรยาย คุ้มค่าที่ได้มา     ผมใช้เวลาที่ทุ่งดอกเจียวนานพอสมควร…

ชัยภูมิ ทุ่งดอกกระเจียว
อ่านต่อ

ลาก่อนน้องมารชมพู

บ่น, ไดอารี่ 2 April 20178 June 2019

ความผูกพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ที่ หรือสิ่งของ หากเราใช้ชีวิตกับมันนานๆย่อมมีความผูกพันธ์..และครั้งนี้ก็เช่นกัน จำใจจากน้องมารชมพูด้วยความอาลัยรัก

jazz น้องมารชมู

คนบ้าอำนาจ

เรื่องทั่วไป 17 June 20109 September 2019

เราชอบบอกกันว่า ผู้ใหญ่บ้าอำนาจ แต่ความจริงแล้ว เราเกือบทุกคนบ้าอำนาจ ขอให้มีอำนาจสักนิดนึง..ก็เริ่มจะใช้อำนาจ ตัวอย่าง.. ในวัด ไม่เด็กวัดก็มัคทายกวัด พวกนี้ทำตัวแก่วัด พอเราเลี้ยวรถเข้าวัดปุ๊บก็เริ่มใช้อำนาจกับเราทันที ตั้งแต่..ตรงนี้ห้ามจอด, วันนี้พระท่านไม่รับแขก(ซึ่งความจริงพระท่านอาจไม่รู้เรื่อง) ฯลฯ ในร้านอาหาร ..เจ้าของร้าน(บางคน)ก็บ้าอำนาจ ทำกับลูกค้าราวกับว่าเราไปขอมันกิน บนรถเมล์…โชเฟอร์-กระเป๋ารถเมล์ ชีวิตเราฝากกับมันไว้ เผลอกดปุ่มจอดป้าย 2 ครั้งก็ด่า บ้างก็ไม่ยอมจอดตรงป้าย บ้างก็ขับไปบ่น(ด่า)ไป คนบนรถต้องเงียบกริบให้มันบ้าอำนาจต่อไป บนรถแท็กซี่ บอกให้เีลี้ยวซ้ายจะได้เร็วมันก็ไปตรง บอกขับมา 30 กว่าปีแล้ว ขับไปโทรศัพท์ไป ขับไปด่าไป ฯลฯ บนรถตู้ ก็เหมือนกัน.. คนที่มีอาชีพขับรถจะมีลักษณะบ้าอำนาจคล้ายๆกัน จะดุจะด่าจะว่าผู้โดยสารทำได้โดยไม่ต้องเกรงใจ ไม่อยากจะใช้คำว่าไร้การศึกษา เพราะความจริง บอกกันดีๆ นะทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องกระโชกโฮกฮาก ไม่ต้องบีบแตรไล่รถคันอื่น ไม่ต้องปาดหน้าใคร ไม่ต้องไปบี้ตูดใคร ่ทุกคนบนถนนรีบเหมือนกันหมด ต้องไม่ใช้อารมณ์กับผู้โดยสาร ต้องซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเอง ผมเจอหลายครั้งที่ผู้ขับรถตู้แอบเก็บเกินราคา เราเองบ้าอำนาจในพื้นที่แม้จะเล็กๆก็ตามที่สามารถจะบ้าอำนาจได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในบ้านตัวเอง ในสถานการณ์ที่เราต้องตกอยู่ภายใต้คนบ้าอำนาจเหล่านี้ มีคำสอนจากพระพุทธองค์เตือนสติไว้ว่า ‘ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง’ บางคนถามว่า ทำไมเราต้องทน? หลายครั้งที่เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเราไม่รู้จักอดทน ความอดทนเป็นการตอบโต้อย่างหนึ่ง และเป็นการยุติปัญหาที่ดีที่สุด ความอดทนที่สุดยอดคือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ การอดทนต่อคนที่สูงกว่าเรา เช่น ผู้ใหญ่กว่าเรา, เจ้านาย, นายจ้าง ถือว่าธรรมดา เพราะเราจำเป็นต้องทน การอดทนต่อผู้ที่เสมอกับเรา เช่น เพื่อนร่วมงาน, เพื่อนบ้าน ฯลฯ ถือว่าดี แต่ไม่ใช่ดีที่สุด การอดทนต่อคนประเภทนี้เราต้องใช้คุณธรรมพอสมควร แต่การอดทนที่สุดยอดที่สุด คือ การอดทนต่อคนที่ต่ำกว่าเราได้ เช่น คนขับรถเมล์, คนขายของ, คนขอทาน , คนจรจัด ฯลฯ การอดทนต่อคนพวกนี้ได้ต้องอาศัยการยับยั้งใจอย่างที่สุด และหากทำได้ ก็ถือว่าเราเข้าสู่ธรรมะได้อีกระดับหนึ่ง พระพุทธเ้จ้าและพระอานนท์ทนต่อถูกชาวบ้านด่ามาตั้ง 7 วัน โดยไม่ตอบโต้หรือหนีไปไหน แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็หายไปเอง และคนที่เดือดร้อนที่สุด ก็คือคนที่จ้างชาวบ้านมาให้ด่า นอกจากไม่ได้ผลแล้วยังเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังนั้น คนบ้าอำนาจ…

ไล่ล่าสิ่งที่อยู่แสนไกล..จนลืมใจที่ใกล้เพียงเซนฯเดียว

เรื่องทั่วไป 23 January 2010

ไม่ใช่ของใหม่อะไร แต่กลัวตัวเองจะลืมเลยต้องบันทึกไว้ซะหน่อยก่อน เมื่อก่อนในหน้า all about me จะมีบ็อกของ msn ที่แสดงสถาานะของผมว่า ออนไลน์อยู่หรือไม่ ? หากออนไลน์อยู่ ท่านผู้มีเกียรติที่ผ่านเข้ามาก็สามารถทักทาย จุกกรู๊  ด่า ว่า ชม แช่ง ฯลฯ ได้ แต่เมื่อวานนี้พึ่งสังเกตุเห็นว่า เจ้าบ็อกดังกล่าวมันหายไป ทีนี้การจะไปหาโค๊ดเดิมจาก Microsof มาแปะนั้น ก็หาทางเข้าไม่เจอ เดือดรร้อนไปถึงเฮียกู(เกิ้ล)อีก  งานนี้เลยขอเน้นๆ เก็บไว้ในบล็อกส่วนตัวนี่ซะเลย เผื่อหลายคนยังไม่รู้จัก เลยจะขอแนะนำสู่กันฟังเลยครับ มันคือหน้าต่าง MSN บนเว็บ  ทำให้คนที่ต้องการติดต่อคุณ ไม่ต้องลง MSN หรือ WLM ก็สามารถติดต่อคุณได้เพียงแค่มี Browser ถ้าพยายามจินตนการตามแล้วยังนึกภาพไม่ออกเลยว่ะไอ้ทิด คลิกดูตัวอย่างจริงจากหน้านี้เลยขอรับ คลิกดูตัวอย่าง (ลากลงไปด้านล่าง ใต้ภาพสุดท้าย(ผู้ชายเสื้อแดงๆนั่นแหละครับ)) สำหรับเส้นทางไปสู่การได้มันมานั้น ง่ายเหลือหลาย คลิกที่ลิ้งด้านล่างนี่เลย แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย http://settings.messenger.live.com/applications/websettings.aspx สำหรับเว็บที่ขายของ หรือ support ออนไลน์ บริการนี้เหมาะอย่างยิ่งนะครับ จะจบห้วนๆแบบนี้ดูจะสั้นไป วันหนึ่งมีเรื่องมาบอกเ่่ล่ากันแค่นี้เหรอ เมื่อวันก่อนดูรายการเจาะใจ เขาเชิญ จับช่ายแมน หรือ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ เรื่องราวของท่านน่าสนใจมาก และท่านเป็นคนที่มีความคิดไม่เหมือนใคร หลายประโยค เมื่อท่านพูด ทุกคนก็จะร้อง “เออ..เนอะ” หลายเรื่องที่เราไม่ทันคิด ด้วยความเคยชินของชีวิต แต่ท่านคิดทุกเม็ดทุกหน่วย รายการเจาะใจในวันนั้น เวลาไม่พอต้องต่อในอาทิตย์ถัดไป แต่แค่ตอนแรกก็รู้สึกได้ว่า ชีวิตท่านน่าสนใจ น่าศึกษา ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสไปร่วมงานกับนาซ่า ประมาณ 6-7 ปี พิธีกรถามว่า รู้สึกอยา่งไรที่ได้ไปร่วมงานกับนาซ่า? ท่านตอบว่า “รู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิตที่ได้ไปที่นั่น” นาซ่าพยายามค้นคว้าหาทางเพื่อไปนอกโลก นอกจักรวาลที่ไกลแสนไกล จนลืมค้นคว้าสิ่งที่อยู่ข้างในเพียงแค่เซนเดียว นั่นคือ หัวใจ คมครับคม ผมชอบ ป.ล. อยากรู้จักท่านมากกว่านี้ คลิกเลย

ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ
อ่านต่อ

เที่ยวสวนผึ้ง~ไปเช้าเย็นกลับ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 11 October 201514 May 2016
สวนผึ้ง

ยุทธะ-หัด-หมี

เรื่องทั่วไป 16 June 2009

พลายช้างทรงองค์กษัตริย์ หาได้มีความหวาดหวั่นไม่ แม้ตัวเป็นต่อข้าศึก ด้วยพลัดหลงเหล่าเสนาทหารเข้ามาอยู่ท่ามกลางทัพอริศัตรู  สถานการณ์ขณะนั้น แม้หากข้าศึกจู่โจมจู่ลู่ด้วยกำลังกลยุทธ ก็หามีใครสามารถกล่าวอ้างภายหลังได้ว่า รบกันด้วยความอยุติธรรม ก่อนเหตุการณ์จะเอนเอียงไปในทิศทางดังกล่าว องค์จอมกษัตริย์ผู้ทรงช้างท่ามกลางอริข้าศึกที่ยกพลมาประชิดเมือง กล่าวอย่างองอาจไร้ความหวาดหวั่นในพระทัยว่า “เจ้าพี่จะยืนช้างอยู่ในที่ร่มไม้ทำไม  เชิญเสด็จมาทำยุทธหัตถีกันให้เป็นเกียรติยศเถิด  กษัตริย์ภายหน้า ที่จะทำยุทธหัตถีได้อย่างเรา จะไม่มีแล้ว” เมื่อฟังดังนั้น พระมหาอุปราชาก็เกิดทิฏฐิในสงคราม ใคร่จะแสดงความยิ่งใหญ่ให้ปรากฏในหมู่ทหารของตนและฝ่ายตรงข้าม จึงให้เหล่าทหารม้าและกองทหารเดินทุกหมู่นาย จงหยุดการเข้ารุมล้อม เพียงพระองค์จอมทัพกับกษัตริย์จอมศึก จะทรงช้างทำยุทธหัตถี พระมหาอุปราชาทรงช้างชื่อพัทธกอ เป็นช้างที่มีรูปร่างใหญเป็นพญาคชสาร ฝั่งองค์กษัตริย์ทรงช้างชื่อภูเขาทอง ซึ่งภายหลังได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า พระยาไชยานุภาพ เมื่อเข้ารุมตะลุมบอน ช้างพัทธกอที่มีขนาดใหญ่และมีความฮึกเฮิมในศึกสงครามกว่า ก็ปรี่เข้าหาช้างไชยานุภาพเอางางัดขึ้นจนเสียหลัก พระมหาอุปราชาเห็นทีได้เปรียบ จึงใช้พระแสงของ้าว ฟันอย่างรวดเร็ว องค์กษัตริย์เบี่ยงหลบทัน แต่ถูกพระมาลาหนังขาดไปอย่างน่าหวาดเสียว  พอช้างไชยานุภาพสะบัดหลุด แล้วกลับชนได้ล่างแบกถนัดรุนพลายพัทธกอหัวเบนไป  องค์กษัตริย์ได้โอกาสบ้าง ก็จ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว ถูกพระมหาอุปราชาที่ไหล่ขวาขาด  สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง  องค์จอมกษัตริย์ได้รับชัยชนะ อริศัตรูก็ล่าถอย ..แผ่นดินได้รับเอกราช องค์กษัตริย์ที่ทรงช้างอย่างองอาจกำชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ปรากฏนามว่า “พระนเรศวรมหาราช” ส่วนช้างทรงที่แต่เดิมชื่อว่า พลายภูเขาทอง จากนั้นได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า พระยาไชยานุภาพ และหลังจากศึกที่มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาครั้งนั้น ก็ได้รับชื่อใหม่อีกครั้งว่า “เจ้าพระยาปราบหงสา” ช้างเป็นสัตว์คู่บุญคู่บารมีองค์มหากษัตริย์มาแต่ครั้งโบราณ ครั้นเวลาผ่านไป.. ช้างถูกย้าย ถูกถอดยศ โดยไม่มีความผิด จากนายทหารผู้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นคนงานแบกลากซุง ต้องทำงานแข่งกับเวลา ครั้นงานเสร็จไม่ทัน ช้างต้องเสพยาบ้า เปล่า..ช้างไม่หายามากินเอง หากแต่ควาญชั่วเป็นผู้ป้อนยา  หลังจากได้ยาบ้า ช้างก็ทำงานหนักจนผอมโซตัวซีด บางเชือกกลายเป็นช้างติดยาจนยากแก้ไข  ที่น่าเจ็บปวดใจที่สุด ช้างถูกลดสถานะลงต่ำกว่าเดิมอีก นั่นคือ ช้างขอทาน เดินเตร็ดเตร่ตามเมือง ย่านชุมชน เพียงเพื่อขอเงินจากการขายถุงอาหารให้ถุงละ 20 บาท !!! เมื่อช้างเข้ามาใช้ชีวิตในเมือง ความวุ่นวายประสาคนเมืองก็เกิดขึ้น ช้างถูกรถชน, ช้างตกท่อ, ช้างตกงาน ฯลฯ ขณะที่ช้างนอนเจ็บป่วด ช้างสัตว์ร่างใหญ่ แต่นัยน์ตาเล็ก นัยน์ตาเล็กๆคู่นั้นของช้าง เป็นนัยน์ตาซื่อๆ ใสๆ ของทาสผู้ซื่อสัตย์ แต่เมื่อประสบกับความเจ็บปวดสุดทรมาน จึงเอ่อล้นด้วยน้ำตา และหากช้างได้ดูทีวี ได้ดูข่าวบ้าง น้ำตาที่เอ่อล้นนั้นคงมิใช่เพราะความเจ็บปวดกายอย่างเดียว หากแต่เจ็บไปถึงข้างในใจ ระทมด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ บัดนี้ช้างไม่ได้กู้แผ่นดินอีกแล้ว…

ช้าง

ได้เวลา..เอาเลือดบ้าออก

ไดอารี่ 12 January 2010

หยุดเสาร์-อาทิตย์ กิจกรรมออกกำลังกายและงดมื้อเย็นของผมก็มีอันต้องหยุดไปด้วย ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าวันอาทิตย์นี้ จะไปบริจาคเลือดให้ได้ หลังจากปีที่แล้ว ไปแค่ครั้งเดียว และครั้งเดียวนั้นก็ถูกปฏิเสธจากสภากาชาดด้วยข้อหา “เลือดลอย”  ก่อนบริจาคเลือดจะมีกระบวนการวัดความดัน และเจาะเลือดตรวจก่อน หลังจากสูบเลือดจากปลายนิ้วเสร็จแล้ว เขาจะหยดแหมะลงในน้ำยาสีฟ้า ถ้าเลือดปกติมันจะดิ่งลงก้นขวดในทันที ถ้าเลือดจาง มันจะค่อยๆจม หรือไม่จมเลย ที่เราเรียกว่า “เลือดลอย” นั่นแหละครับ สาเหตุมาจาก นอนดึก พักผ่อนน้อย หรือเคยบริจาคเลือด แต่ไม่กินยาบำรุงเลือด ผมอยู่ในจำพวก ไม่กินยาบำรุงเลือดที่เขาาให้มา สาเหตุคือ ผมแพ้ยาวิตามินเม็ดสีแดงมันๆ หวานๆ นั่นอย่างรุนแรง ร่างกายจะสร้างปฏิกิริยาต่อต้น พะอืดพะอมจนจะอาเจียนพู่งปรี๊ดกลับมาทางเดิมให้ได้ ..อาการแพ้มันเกิดขึ้นเพราะผมอุตริเอง เมื่อสมัยบริจาคเลือดยุคแรกๆเมื่ออายุ 17-18 พอได้ยาบำรุงเลือดมา ก็กระดกหมดทั้งถุง ตั้งแต่บัดนั้นละครับ ผมเกลียดยานี้อย่างรุนแรง อย่าว่าแต่กินเลย เห็นหน้ายาก็เกิดอาการแล้วละ วันนี้ตั้งใจว่าจะบริจาคจริงๆ เย็นวันก่อนไปบริจาคเลยปฏิเสธแอลกอฮอลล์จากเพื่อนๆในงานแต่งจนสิ้น ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการบริจาคเลือดครับ ก่อนจะบริจาคเลือด นอกจากต้องนอนให้พอ กินอาหารให้อิ่ม ไม่กินยาพารา ยาแก้อักเสบแล้ว ภายในวันนั้นก่อนบริจาคเลือด ต้องอย่ากินอาหารมันๆ เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ฯลฯ วันนี้คนมาบริจาคเยอะพอสมควร เวลาบ่าย 2 โมงแล้ว คิวยังยาวเฟื้อย มีเทคนิคนิดหนึ่งสำหรับคนที่ไปบริจาคแล้ว พบว่ามีคิวยาวมาก แนะนำให้ว่า ก่อนกรอกรายละเอียดในการบริจาคเลือดให้ไปกดบัตรคิวก่อน กดบัตรคิวทั้งข้างบนและข้างล่าง คิวข้างล่างเพื่อเจาะตรวจเลือดวัดความดัน ส่วนคิวด้านบนเพื่อเจาะเก็บเืลือด เอาคิวทั้งสองที่มาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการบริจาค อาจจะช่วยให้เร็วขึ้นอีกนิดนึง เลือดผมค่อนข้างดี เร็ว และแรง อาจเพราะอั้นมาทั้งปี หลังจากไปนอนกำแบๆ แป๊บเดียว ก็เต็มกระปุกแล้ว เต็มก่อนคนที่เข้าไปก่อนซะอีก  วันนี้เจอพวกแปลกๆมาบริจาคเลือด แบกกล้องตัวใหญ่มาด้วย แล้วก็เที่ยวถ่ายทุกช็อตตั้งแต่ทางเดิน จนกระทั่งบันไดเลื่อน ถ่ายๆ พอตัวเองต้องนอนให้เลือด ก็ยังอุตส่าห์หยิบกล้องตัวใหญ่กระเตงถ่ายแขนตัวเองที่มีเข็มปักอยู่อย่างยากลำบาก.. ไม่รู้ถ่ายไปอวดใคร แต่เอาเถอะ..ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังได้บุญด้วย ผมก็ขออนุโมทนาด้วยคนน่ะ หลังจากบริจาคเลือดแล้วว่าจะเข้าไปกราบพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรฯ แต่วน 2 รอบ ยังหาที่จอดไม่ได้เลย แดดก็ร้อน รถก็เยอะ คนก็แยะ เลยถอดใจ วันหลังค่อยมาใหม่ละกัน…..

อ่านต่อ

น้ำท่วมบ้านนะเออ

บ้านบ้าน, สุขกะภาพ, ไดอารี่ 7 November 201128 June 2013

ขอคั่นทริปเที่ยวเมืองจีนด้วยสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้าน

น้ำท่วม บ้าน

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH