Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

กลอน

อ่านต่อ

น้ำตาซาตาน

กลอน, เรื่องสั้นสั้น 24 September 20168 June 2019

เรื่องราวของชายที่ปมในวัยเด็ก หลังเกิดเหตุฆาตกรรมฆ่าหมดบ้าน เขาใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหาฆาตกร เรื่องราวถูกถ่ายทอดในรูปแบบของกลอนแปดสุภาพบ้าง ไม่สุภาพบ้าง ..เชิญติดตามได้ ณ บัดนั้น.

พ่อ

เมื่อผมอยากมีสี

ไดอารี่ 12 February 2010

ช่วงนี้เหนื่อยหน่อย ต้องตื่นเช้าหลายวันแหละ..เรื่องของเรื่องคือ ผมไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการทหาร !! หลังจากปีที่แล้วพลาดท่า ปีนี้เลยขอโอกาสอีกครั้ง การสอบมีเรื่องให้ยากลำบากทั้งกายและใจอยู่หลายอย่าง  1. ลำบากใจ เพราะการสอบมีตั้ง 5 วัน โชคดีที่ไม่ติดกันทั้ง 5 วัน การจะลาหลายๆวันในเดือนเดียวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจ ผู้จัดการไม่ว่ากระไร แต่เราก็เกรงใจเหลือแสน  2. ลำบากกาย การสอบทหารนอกจากจะต้องทำข้อสอบได้แล้ว ร่างกายต้องแข็งแรง มีการทดสอบดันพื้น ลุกนั่ง และวิ่งรอบสนามฟุตบอล 2 รอบ ประมาณ 800 เมตรในเวลาไม่เกิน 4 นาที !! ด่านอื่นๆไม่ว่าจะดันพื้น หรือลุกนั่ง เราต้องแข่งกับตัวเอง และไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรนัก แต่ตอนวิ่งนี่สิ ต้องวิ่งพร้อมกับคนอื่นและทุกคนก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขคือต้องวิ่งไม่เกิน 4 นาที ดังนั้น สิ้นเสียงนกหวีด ทุกคนก็ต่างตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุในเวลา 11.00 น. นาทีนั้น ผมคิดถึงครั้งแรกในชีวิตของทุกคนที่ต้องแข่ง คือ การแข่งกันของสเปิร์มที่ว่ายเพื่อไปถึงไข่ในมดลูก สเปิร์มตัวที่แข็งแรงที่สุดจะเป็นผู้กำชัยชนะ ทุกคนเป็นสเปิร์ม ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งโดยไม่หันมอง ทักทาย หรือสนใจคนข้างๆที่วิ่งไม่ไหวแล้ว สนใจแต่เป้าหมายของตน มันต่างจากวิ่งจ๊อกกิ้งในเวลาเช้าที่สวนสาธารณะ ไม่มีการทักทาย ยิ้มแย้ม ทุกคนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด มุ่งมั่นเพื่อชัยชนะ ผมวิ่งตามจังหวะและระดับความเร็วของตัวเองที่เคยทำตลอด 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา เหนื่อยเหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าครั้งแรกที่มาซ้อมวิ่งที่สวนสาธารณะ ผมได้ความเร็วที่ 3.39 นาที ถือว่าผ่าน วันพฤหัส ไปสอบข้อเขียน บ่ายวันนั้นฤกษ์ไม่ดีเอาซะเลย ใกล้จะถึงกรมยุทธฯอยู่แล้วแท้ๆ เจอด่านตำรวจ ผมนั่งมอเตอร์ไซต์วินจาก รถไฟใต้ดินบางซื่อ ไม่ใส่หมวกกันน็อค คนขับเป็นผุ้หญิง แกตกใจมาก ตำรวจถามว่า ทำไมไม่หาหมวกกันน็อคให้ผุ้โดยสาร ..แกเงอะงะพูดไม่ออก ตำรวจเลยหันมาทางผม ..”ผมจะรีบไปสอบนายร้อยครับ” พูดพร้อมยื่นบัตรให้ดู ..ตำรวจกล่าวตักเตือนคนขับมอไซต์นิดหน่อย แล้วก็ปล่อยไป  ดวงไม่ดีจริงๆ เพราะผมทำข้อสอบข้อเขียนไม่ได้เลย !!! วันนี้(วันศุกร์) พึ่งไปสอบสัมภาษณ์มา..เฮ้อ ต้องถอนหายใจแรงๆอีกสักที รู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไร .. แต่ช่างเถอะ หมดหน้าที่ของเราแล้ว ..เราทำดีที่สุดที่สามารถทำได้แล้ว…

อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก

เรื่องทั่วไป 22 March 2010

ใช้ชีวิตในโลกอินเทอร์เนตมาเกือบๆ 10 ปี ชีวิตผมจึงถูกเปลี่ยนให้อยู่ในระบบของโลกออนไลน์มากขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง (จริงๆ อินเทอร์เนตก็คือโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกัน แต่จริงน้อยกว่า)  มี 3 ช่องทางการสื่อสาร คือ อ่าน พูด และเขียน  โลกอินเทอร์เนต ก็สามารถสื่อสารได้ทั้ง 3 ช่องทางเช่นกัน คือ ทั้งอ่าน พูด และเขียน แต่ช่องทางพูดอาจจะน้อยกว่า เราอาศัยพูดกันผ่านตัวหนังสือ !! ตัวหนังสือสื่อสาร ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการพูดกันสักเท่าไร หากทั้งคู่(หมายถึงคู่สนทนา) รู้จักกัน(ดี)มาก่อน เคยคุยกันมาก่อน เพียงเห็นตัวหนังสือก็จะสามารถจินตนาการถึงเสียงของคู่สนทนาชัดเจนอยู่ในหัว เหมือนคุยกันอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว หากแต่ว่่าถ้าไม่เคยคุยกันมาก่อน ไม่เคยได้ยินเสียง หรือไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงตัวหนังสือแม้สื่อมาด้วยคำธรรมดาๆ ก็อาจถูกอีกฝ่ายตีความหมายเป็นอื่นได้ !! ปัญหานี้ อาจทำให้เราเสียเพื่อน หรือร้ายกว่านั้น เพื่อนอาจกลายมาเป็นศัตรูได้อย่างน่ากลัว เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นกับผม ในฐานะบล็อกแห่งนี้เป็นบล็อกส่วนตัว จึงไม่แปลกที่ผมจะเล่าเรื่องส่วนตัว.. เรื่องมันเกิดขึ้นจากการคุยกันผ่านตัวหนังสือนี่แหละ.. ผมคุยกับเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างประเทศผ่านโปรแกรมยอดฮิต Facebook คุยกันบนกระดานหน้าบ้านเขาเลย  ก่อนหน้าที่เขาจะไปอยู่ต่างประเทศ เราก็เคยไปเที่ยว กิน ดูหนังด้วยกันระยะหนึ่ง จนผมทึกทักเอาเองว่า เออ..เพื่อนแฟนก็เพื่อนเราด้วยคนหนึ่ง วันที่เขาบิน เราก็ไปส่งที่สนามบิน ผมแอบชื่นชนกับแฟนว่า เพื่อนหญิงคนนี้ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ทึ่งกับความกล้าที่่จะบินไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศโดยลำพัง ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังไม่สามารถขนาดนั้น .. หลังจากที่เขาไปต่างประเทศก็หลายปีที่ไม่ได้คุยกัน แต่ก็ได้แอดไว้ใน facebook จนล่าสุดเมื่อวันศูกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 ผมได้ทักทายเขาไปในfacebook และก็ได้การตอบกลับมาด้วยไมตรี ถามสารทุกข์สุขดิบประสาคนที่ไม่ได้คุยกันมาเป็นปี ๆ มันเป็นการสนทนาผ่านตัวหนังสือที่ใช้คนละภาษา คือ เขาพิมพ์อังกฤษมา ผมตอบภาษาไทยไป .. ด้วยความคิดมากของผมเอง ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่เขาใช้สามารถพิมพ์หรืออ่านภาษาไทยได้ไหม? จึงถามไปว่า อ่านภาษาไทยได้ไหม? ความหมายคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่อ่า่นภาษาไทยได้ใช่ไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้ ..ผมก็ตอบว่า “อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก” ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือประชดประชันแดกดันอะไรแต่อย่างใดเลย เป็นน้ำเสียงตอบบประสาสื่ออย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนเท่านั้นเอง แต่คำตอบที่ผมได้หลังจากนั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เขาไม่พอใจมากกับประโยคนั้น เขาบอกน้ำเสียงของผมมันเย้ยหยันถึงขั้นดูถูก .. เบื้องต้นผมไม่ทราบว่าเขาโกรธผมจากประโยคไหนที่เราคุยกัน ผมถูกบล็อกไม่ให้ติดต่อใน facebook ยิ่งทำให้ร้อนใจยิ่งกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมให้เพื่อน…

หนึ่ง
อ่านต่อ

เที่ยวขุนแปะ เชียงใหม่

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 26 December 201812 June 2019

พอย้อนกลับไป ก็พบว่าผมไปเที่ยวทางภาคเหนือเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันแล้ว ไม่ไปก่อนปีใหม่ก็ไปหลังปีใหม่ มนต์เสน่ห์ของภาคเหนือมีให้เที่ยวกันตลอดปีไม่ซ้ำที่กัน ปีนี้ก็เช่นกัน ทุกอย่างต้องมีการวางแผน เรื่องเที่ยวก็เช่นกัน ถึงแม้โพสต์นี้ผมจะโฟกัสไปที่ขุนแปะ แต่ก็จะขอเล่าถึงแผนเล็กๆก่อนมาถึงที่นี่ ก่อนมาที่นี่ผมแวะไปงานวิ่งที่ลำพูนก่อน ระยะเพียง 21 กิโลเมตรไม่เหนื่อยมาก วิ่งเสร็จอาบน้ำทานข้าวเที่ยวต่อได้เลย จากลำพูนแว่บไปเที่ยวที่แม่กำปอง (ผมจะแยกเล่าถึงแม่กำปองอีกทริปหนึ่ง) ก่อนจะมาเที่ยวต่อที่นี่ ขุนแปะ กระท่อมตะวันไรวินทร์ ขุนแปะ ยอมรับว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้ว่าขุนแปะหน้าตาเป็นอย่างไร เห็นภาพแว่บๆในกูเกิ้ลก็ประมาณว่าเป็นหมู่บ้านอยู่ในหุบเขา สงบเงียบ ไม่มีอินเทอร์เนต และไร้สิ่งอำนวยความสะดวก และตกลงใจจองแบบงงๆในหน้าเพจของเขา ดูจากแผนที่แล้วระยะทางห่างจากแม่กำปองเพียง 159 กิโลเมตร ใช้เวลาอย่างมากไม่เกิน 2 ชั่วโมง หลังจากศึกษาเส้นทางแล้วก็คิดในใจว่าเหลือๆ หลังจากเที่ยวแม่กำปองเสร็จจึงมุ่งหน้าไปขุนแปะ ขับตามทางหลวงหมายเลข 108 ก่อนจะแยกไปตามทางหลวงชนบทหมายเลข 1013 ทางค่อนข้างดี เนื่องจากไม่ใช่เทศกาล ถนนโล่งวิ่งชิว จนกระทั่งเห็นป้ายปากทางบอกว่า ขุนแปะเข้าไป 20 กิโลเมตร เวลาเหลือๆ ยังไม่เข้าที่พักขอขับเลยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติออบหลวงก่อน .. หลังจากเที่ยวอุทยานแห่งชาติออบหลวงเสร็จ ก็จึงมุ่งหน้าไปขุนแปะ ทางเข้าไปจากถนนใหญ่เป็นทางเล็กๆพื้นคอนกรีต ..เมื่อขับเข้าไปเรื่อยๆ ทางก็เล็กลงเรื่อยๆ คอนกรีตหายไปเป็นถนนลูกรัง และทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆเข้าไปในหุบเขา ที่เลวร้ายไปกว่านั้น มีการทำถนนอีกนั้น นั่นหมายความว่าเราต้องเผชิญกับลูกรังแคบๆ ฝุ่น และทางชันมาก ขับเข้าไปเกือบ 1 ชั่วโมงตามแผนที่กูเกิ้ล อากู๋บอกใกล้จะถึงแล้วเจอทางแยกซ้ายขวา ทางขวาเป็นทางดี ทางซ้ายเป็นทางไม่ค่อยดี ค่อนข้างรก ชัน ผมแทบร้องไห้ อากู๋บอกให้ไปทางซ้าย T_T แทบจะวิ่งเข้าไปในป่า ทางแคบมากๆ กลับรถไม่ได้ต้องเดินหน้าไปอย่างเดียว จนในที่สุดเดินหน้าต่อไม่ได้ เพราะทางข้างหน้าสูงชันกว่า 45 องศา ที่สำคัญถนนเป็นหินกรวดนิ่ม ซึ่งล้อไม่สามารถเกาะวิ่งไปได้ ครั้งแรกผมพยายามเร่งเครื่องยนต์เพื่อปีนเนินนั้น แต่แล้วก็ไม่เป็นผล รถไหลลงมา ครั้งที่สองลองใหม่อีกครั้ง ผลก็เป็นเช่นเดิม รถไปต่อไม่ได้แล้ว .. กลับรถก็ดูจะลำบากมากด้านข้างเป็นหน้าผาสูง ผมตัดสินใจโทรหาเจ้าของรีสอร์ท และโชคดีมากที่โทรติด เพราะแถวนั้นสัญญาณโทรศัพท์หายากมาก ติดๆขัดๆ เจ้าของที่พักบอกว่ามันไปได้สองทาง ทางที่อากู๋แนะนำนั้นก็ไปได้และใกล้กว่าด้วยแต่ต้องเป็นรถโฟลวิลขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้น (อากู๋มันไม่รู้ว่าผมขับรถอะไรมา…

ขุนแปะ เชียงใหม่

ด.ช.จุ๊บ

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 18 June 2008

ครบ 5 เดือนของเจ้าจุ๊บ จุ๊บ มาดูพัฒนาการของมันหน่อยยยยย… แรกเริ่มเดิมที ผมเข้าใจมาตั้งนานว่าเป็นเพศเมีย ตั้งชื่อให้ซะน่ารักว่า “จุ๊บ จุ๊บ” คือกระต่ายนี่ ไม่สามารถมองอวัยวะเพศแล้วรู้ว่าเป็นเพศอะไร เหมือนแมว หรือสุนัข ลูกอัณฑะก็ไม่มี มีอวัยวะเหมือนอวัยะเพศเมีย ก็เลยเข้าใจมาตลอดว่า มันเป็นเพศเมีย..อีกอย่างหนึ่ง กิริยามารยาทของมันก็เป็นเพศเมียแท้ๆ ทั้งขี้อ้อน ขี้เล่น กริยามารยาท ทำให้ผมเชื่ออย่างนั้นว่ามันคือ เพศเมีย.. แต่แล้ววันหนึ่ง ได้พาเจ้าจุ๊บไปเที่ยวบ้านเพื่อนบ้านที่เขามีกระต่ายที่มีอายุเท่าๆกัน พอไปเห็นเท่านั้นแหละ ไอ้จุ๊บสำแดงธาตุหื่นขึ้นมาทันที มันขึ้นคร่อมกระต่ายเพื่อนบ้าน ตอนนั้นเองที่ผมมองเห็นอวัยวะเพศของมันโผล่ออกมา..ความจริงก็ปรากฏ ! มันเป็นผู้ชายยย    ลองดูภาพเจ้าจุ๊บครับ ซนมั่กๆ น้ำ อาหารก็มีให้พร้อม แต่มันไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่มีหรอกครับ ปีนป่ายไปดูดน้ำก็อกบ้าง ปีนไปกินต้นไม้ในกระถางบ้าง กินอิ่มแล้วก็นอน นอน และนอน พอกลางคืนตอนนั่งดูทีวี หายง่วง มาเล่น มาอ้อน มากวน .. แต่มีนิสัยที่น่ารักอย่างหนึ่งคือ เขาจะอึ ฉี่เป็นที่เป็นทางครับ ที่ๆของเขาคือกระถางต้นไม้ที่ผมประยุกต์ให้เป็นห้องน้ำ (ดั่งภาพบนขวาสุด)   เจ้าจุ๊บมัน นอนได้ทุกท่า หลับได้ทุกที่จริงๆ

อ่านต่อ

รีวิวที่พัก ที่เที่ยวเขาใหญ่ ณ มายโอโซน My Ozone

ท่องเที่ยว 3 August 201918 March 2020

ขอต้อนรับสู่ my ozone ดินแดนดุจปราสาทในเทพนิยาย, พูดถึงเขาใหญ่ ที่นี่มีที่ให้เที่ยวหลายที่ แต่ถ้ามีเวลาแค่วันเดียวและที่พักของคุณคือที่ มาย โอโซน ขอแนะนำว่าตัดที่เที่ยวที่อื่นทิ้งให้หมด และใช้ชีวิตใน 1 วันของคุณที่มาย โอโซนเท่านั้น สืบเนื่องจากได้รับของสมนาคุณจากเพื่อนคนหนึ่ง ผู้ซึ่งมอบรางวัลแด่มิตรภาพด้วยที่พักดีๆ ที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ ..ก็จึงเป็นที่มาของการมาที่พักที่หรูหราในครั้งนี้  ที่นี่จะมีที่พักทั้งแบบเป็นห้องและเป็นหลัง ราคาก็แตกต่างกันไป มีไฮไลท์ตรงปราสาทที่เด่นตระหง่าเป็นทั้งที่รับประทานอาหารเช้า ฟิสเนต และสระว่ายน้ำ แต่สำหรับผมสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านั้นคือ สนามหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา .. เช้านี้ต้องออกไปวิ่งซะหน่อยแล้ว พาไปชมห้องพักแบบ standard ซึ่งเป็นที่พักของคนในค่ำคืนนี้  ทุกอย่างในห้องพักดูดีมีราคา เตียงนุ่มสมราคา ตำแหน่งแสงไฟแต่ละจุดไม่แยงตา ไม่ทำร้ายสายตา นอนได้แม้ในเวลากลางวัน แง้มบานประตูด้านหลังออกไปจากเห็นทุ่งหญ้าสวยงาม แค่ใช้ชีวิตในห้องนอนนี้ก็คิดว่าคุ้มค่ามากแล้ว ..แต่อย่าเลยครับ ด้านนอกห้องยังมีอะไรให้เที่ยวชมอีกมาก นอนแต่พอหายเหนื่อย ออกไปเที่ยวรอบๆดีกว่า.. อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับที่นี่เลย นั่นคือ สระว่ายน้ำ นอกจากจะมีโซนที่นั่งริมสระหลากหลายทั้ง outdoor และ indoor แล้ว ขนาดของสระใหญ่พอที่จะให้กระโดดโลดเล่นว่ายได้จนเหนื่อยหอบเลยละครับ  ข้อดีของที่นี่อีกอย่างคือ ไม่หวงสนามหญ้า ด้านหน้าปราสาทและด้านหน้าที่พัก สามารถจอดบนสนามได้เลย อ้อมไปด้านหลังปราสาทจะพบดอกหญ้าเป็นกลุ่มแนวสวยงาม ซึ่งจะมีสนามหญ้าเป็นเนินสนับกันไปสวยงาม มองออกไปไกลๆเป็นแนวเขาใหญ่ ราวกับที่นี่เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าเขาในยุคเก่า หยุดใจที่วุ่นวายสักพัก หายใจอย่างช้าๆ และสะกดเวลาให้เดินช้าที่สุด ผมกับเจ้าขาววิ่งอ้อมออกด้านหลังปราสาทที่เป็นสนามกอล์ฟ สำหรับคนที่ชอบวิ่งหรือชอบปั่นจักรยาน นี่คือสวรรค์ชัดๆ ถนนคอนกรีตเล็กๆลัดเลาะไปตามเนินเขาเล็กๆ มองไปจนลับหูลับตาราวกับว่าเชิญชวนให้เราออกไปสัมผัสมัน รุ่งขึ้นอีกวัน ออกไปสำรวจโซนอื่นๆบ้าง เห็นว่ามีสวนดอกไม้อยู่ไกลๆด้านหน้าโน้น ส่วนร้านกาแฟเห็นมีคนเยอะ ก็เลยไม่ได้แวะครับ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืนที่รู้สึกว่ามีอะไรให้ค้นหาตลอดเวลาครับ ห้องก็น่านอนน่าอยู่ แต่ก็คิดว่ามีเวลาน้อยเกินที่จะนอนหลับเฉยๆแล้วตื่นขึ้นแต่งตัวออกจากที่พัก หากอยากหลับตาและตื่นขึ้นท่ามกลางปราสาทกลางป่าเขา ที่นี่คือคำตอบครับ

มายโอโซน เขาใหญ่
อ่านต่อ

หลับให้สบายเถอะ..ลูกรัก

ไดอารี่ 19 July 200930 June 2016

ผมเลี้ยงกระต่ายมาปีกว่าแล้ว มันชื่อจุ๊บๆ น่ารัก เชื่อง ซน กัดแทะทุกอย่างในบ้าน ตั้งแต่ไม้กวาด สายไฟ กระเป๋า ผ้า จนถึงขนตัวเอง ผมเคยซื้อกระดิ่งผูกคอให้ มันรำคาญแต่กัดกระดิ่งออกไม่ได้ เลยกัดขนตรงคอที่มีกระดิ่งซะเกลี้ยงเลย เริ่มเชื่อรึยังว่ามันเป็นสัตว์สัญชาติแทะ ผมเลี้ยงจุ๊บจุ๊บแบบปล่อย ไม่เคยขังกรง ปล่อยให้อยู่ที่ระเบียงมีร่มเงา กรง และโพรงให้ จุ๊บจุ๊บอึฉี่เป็นที่เป็นทาง มันมักจะเข้าไปอึฉี่ในกรงที่ด้านล่างมีถาดรองอึมันอยู่ ด้วยความที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อย จุ๊บจุ๊บจะติดคนมาก เวลากลางคืนมักจะออกมาเล่นกับผม มาคลอเคลีย เอาหัวมาซบ (ส่วนใหญ่ซบขาเพราะผมนั่งบนเก้าอี้) จุ๊บจุ๊บชอบให้ลูบหัว ไม่ว่าสิ่งที่ลูบนั้นจะเป็นมือหรือเท้าก็ตาม อาหารที่ชอบที่สุด คือ ขนมปังฟาร์มเฮาส์ แต่อาหารที่ขาดไม่ได้คืออาหารเม็ดของซีพี พอได้ยินเสียงถุงพลาสติก จุ๊บจุ๊บเป็นต้องหูผึ่งวิ่งปรี่มาหา นึกว่ามีขนมให้กิน จุ๊บจุ๊บมักร่าเริงในเวลากลางคืน และหลับในเวลากลางวัน เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 52) ฝ้าในห้องผมพังลงมา ด้วยเจอลมแรง ผมไม่คิดเลยว่า ฝ้าที่ตกลงมานั้น เป็นสัญญาณแห่งความสูญเสียในครั้งนี้ ผมจำเป็นต้องพาจุ๊บจุ๊บไปอาศัยอยู่ที่อื่นก่อนสักพัก เพื่อเจ้าของหอจะได้มาซ่อมฝ้า เหตุที่ต้องพาไปที่อื่นก่อน เพราะจุ๊บจุ๊บไม่ถูกอนุญาตให้อยู่ในหอนี้ ..ใช่ มันเป็นแรงงานต่างด้าว ใช้ความน่ารักน่าเอ็นดูให้คนพอใจคลายเหงาแลกกับอาหารไปวันๆ ผมพาจุ๊บจุ๊บขึ้นรถเมล์โดยใส่ในกระเป๋าผ้า จุ๊บจุ๊บไม่ดิ้น ไม่งอแงเวลาอยู่ในกระเป๋าแม้จะต้องนอนคดอยู่ในนั้นร่วมชั่วโมง ผมเห็นแววตาซื่อและเศร้าของมันตลอดเวลาแห่งการเดินทางครั้งนี้ ณ ที่ๆจะฝากจุ๊บๆนั้น เป็นบ้านสองชั้น และมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้าน โดยสนามหญ้ามีรั้วกั้นมิดชิด แม้จะมีสุนัขอยู่ในบ้านก็หมดห่วง เพราะรั้วสูงและแข็งแรงพอที่จะปกป้องจุ๊บจุ๊บได้ พอเท้าแตะสนามหญ้า จุ๊บจุ๊บวิ่ง กระโจน และกัดกินยอดหญ้าอ่อนด้วยความสุข มันไม่เคยสัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้มาก่อน อยู่แต่ในตึก มีแต่ปูนจนเข้าใจว่า นั่นคือพื้นโลก ไม่เคยรู้จักพื้นดินและต้นหญ้า จุ๊บจุ๊บมีความสุข นอนกลางวันอย่างที่เคย ผมเห็นดังนั้น ก็ดีใจ แม้จะเห็นพญามัจจุราชวิ่งอยู่รอบๆรั้วด้านนอก ก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ผมคิดแต่ว่าหมาเข้าไปทำอันตรายไม่ได้ แต่ลืมคิดไปว่า..กระต่ายมันอาจจะออกมาให้หมาทำอันตรายเสียเอง !! พออาทิตย์ตกดิน ความมืดเข้าปกคลุม จุ๊บจุ๊บเป็นกระต่ายขี้เหงา ชอบให้คนคลอเคลียลูบไล้  มันจึงออกจากรั้วอย่างไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา มันยังไม่เคยเจอใครที่คิดจะทำร้ายหรือเอาชีวิตมันเลย ทุกอย่างบนโลกนี้เป็นสิ่งสวยงามสำหรับจุ๊บจุ๊บ พอขาก้าวแรกพ้นรั้วเท่านั้น หมาที่อยู่ด้านนอก เหมือนเจอของเล่นมีชีวิต มันตระครุบ กัด ฟัด จนจุ๊บจุ๊บสิ้นใจ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย…

จุ๊บจุ๊บ

ซ่อมคอม

เรื่องทั่วไป 28 April 2011

ป้าข้างบ้าน : เจตป้าอยากให้ช่วยซ่อมคอมฯให้หน่อย พอซ่อมได้ไหม ผม : ต้องดูก่อนครับ ว่ามันเป็นอะไรมากมั้ย? ป้าข้างบ้าน : ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว เห็นว่าตั้งอยู่เฉยๆ ช่วยดูให้หน่อยนะ ผม : ได้ครับ แต่คอมฯมันเป็นอะไรเหรอครับ ป้าข้างบ้าน : มันไม่มีจอ ผม : ..

ขำขำ ซ่อมคอม

ในวันที่ฤดูแตกต่าง

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 7 January 2010

ไม่น่าเืชื่อว่า ณ ตอนนี้เป็นหน้าหนาว เมื่อวานฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาติดต่อกันเกือบชั่วโมง มีผลทำให้น้ำเจิ่งนอง บนถนนรถราติด บ้านเรือนที่ติดถนนก็พลอยเดือดร้อน เพราะน้ำทะลักไหลเข้าสู่บ้าน..นับเป็นเรื่องใหม่ต้อนรับปีใหม่ของปีนี้ ผลกระทบต่อผมโดยตรงคือ ทำให้ผมไม่สามารถออกไปวิ่งออกกำลังกายได้นะเซ่ !! จะไปวิ่งตากฝน ก็กลัวฟ้าผ่า เผลอๆใครเห็นเข้าจะหาว่าบ้า วิ่งเป็นพระเอกมิวสิกอกหักอย่างนั้น แต่เอาเหอะเมื่อความตั้งใจเรายังเต็มเปี่ยมอยู่ วันฝนไม่ตกมีมากกว่าวันฝนตกอยู่แล้ว ~ เช่นเดียวกับชีวิต ช่วงที่ย่ำแย่เปรียบเหมือนวันที่ฝนตก ย่อมมีน้อยกว่าวันฝนไม่ตกเป็นไหนๆ ดังนั้น เราก็น่าจะมีความสุขกับชีวิตได้มากกว่าช่วงที่แย่ๆนะ เมื่อเจอปัญหา ต้องอยู่กับ 2 สิ่งให้มากที่สุด นั่นคือ อยู่กับ สติ และอยู่กับความอดทน สติมีมากขึ้นจะเกิดสมาธิจนทำให้เกิดปัญญา อันจะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาในที่สุด ส่วนความอดทน จะช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงที่แย่ๆไปได้ บางครั้งการอดทนอีกนิดหนึ่ง อาจให้ผลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คิด ความอดทนมีแต่ผลดี อดทนเพื่อผ่านพ้นสิ่งที่เลวร้าย ใช้สติให้เกิดปัญญาแก้ปัญหาด้วยความอดทน ตัวอย่างที่เห็นชัดในปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา พระองค์ทรงเป็นมหากษัตริย์ที่เป็นตัวอย่างในทุกเรื่องให้เราชาวไทย โดยเฉพาะความอดทนในการเสด็จเยือนปวงประชาราษฏร์ของพระองค์ในถิ่นธุรกันดารต่างๆ พระองค์ทรงเสด็จอย่างไม่มีความเหน็ดเหนื่อย เพื่อเยี่ยม เพื่อร่วมรับรู้สุขทุกข์ เพื่อแก้ปัญหาให้ราษฏรของพระองค์ในทุกๆหย่อมหญ้า.. ขอพระราชทานอนุญาตนำภาพที่ได้รับจากอีเมล์ฟอร์เวิร์ดมาประกอบ เพื่อเห็นภาพที่ชัดยิ่งขึ้น ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางอุ๋ง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 20 December 202024 September 2021

ปางอุ๋ง หลังจากออกจากปางมะผ้า ชุมชนหมู่บ้านจ่าโบ่ เราก็มุ่งหน้าสู่ปางอุ๋ง..เส้นทางที่แม้สวยงามเพียงใด แต่เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเส้นทางที่วิ่งไปตามเขา เราจึงขับรถไปด้วยความวิงเวียนพอสมควร ทั้งโค้งขึ้นและโค้งลงเขา จนในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง.. ปางอุ๋ง ปางอุ๋ง หรือชื่อเต็มก็คือ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่ามีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระราชินีนาถจึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้น และพัฒนาความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงแนวชายแดน พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ให้ดีขึ้นและฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ต้องไปปางอุ๋ง ไปเสพธรรมชาติและความงดงามของสายน้ำยามเช้า คอยลุ้นว่าจะมีหมอกบนสายน้ำมั้ย..อากาศที่ปางอุ๋งว่ากันว่าหนาวทั้งปี และครั้งนี้ก็หนาวจริง น้ำนี่เย็นเจี้ยบบบ ผมมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้พูดเต็มปากว่าได้มาแล้ว ที่ใครเคยพูดว่าปางอุ๋งสวย เราก็จะได้มาเห็นด้วยตัวเองว่าจริงมั้ย..ก็สวยจริงนะครับ แต่วันที่ผมมานั้นไม่มีหมอก T_T ข้อเสียอย่างหนึ่งของจุดกางเต๊นท์ที่นี่คือ ทำเลดีๆ สวยๆติดริมน้ำ ถูกเต๊นท์เช่าของเจ้าหน้าที่กางทิ้งไว้หมด จะมีนักท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม เต๊นท์ก็จะกักที่ไว้อย่างนั้น วันที่ผมไปนักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมากนัก แต่เต๊นท์เช่าเหล่านั้นก็ถูกกางกักที่ไว้เช่นนั้น นอกจากจะกักที่ดีๆไว้แล้ว ยังมองดูเกะกะวิวสวยๆไปหมด เป็นไปได้ไหมครับว่าเต๊นท์เช่าเราไม่ต้องกางทิ้งไว้ รอเวลามีคนมาขอเช่าแล้วค่อยไปกางให้เขา ณ ตำแหน่งที่ผู้เช่าอยากให้กาง เต๊นท์เองก็จะไม่โทรมเร็ว และมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นบ้าง ครั้นจะไปกางเต๊นท์ในจุดที่ห่างจากผู้อื่น วิวสวย เงียบๆ แต่ก็จะไกลจากห้องน้ำมาก.. เช้าวันต่อมา หลังจากออกไปวิ่งเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ผมกลับมาอาบน้ำในขณะที่น้ำเย็นมากกกกก ก .. แต่เหงื่อท่วมตัวแบบนี้ไม่อาบไม่ได้ครับ คนอื่นๆที่นั่งหนาวผิงไฟ ออกอากาศตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมอาบน้ำ หลังจากเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าเราก็บอกลาปางอุ๋ง.. ขากลับผมตั้งใจจะยิงยาวจากปางอุ๋ง ไปกรุงเทพเลยโดยไม่วนกลับมาทางเชียงใหม่ และเส้นทางที่เลือกนั่นคือ ไปทางแม่สะเหรี่ยง ถนนดี รถน้อย แต่ไกลกว่าและโค้งเยอะกว่ามากครับ ระหว่างทางก็เลยแวะร้านกาแฟเรื่อยๆ ออกเดินทางต่อเข้าสู่โหมดภูเขาและมหากาพย์โค้ง โค้งจนร้องขอชีวิต ในที่สุดก็มีจุดให้แวะเมื่อเราผ่านไปแล้วกว่าพันโค้ง!! ขับรถมาถึงแม่สอด ก็มืดค่ำพอดี ก็เลยต้องหาที่หลับที่นอนที่แม่สอดและระหว่างทางกว่าจะถึงที่พักนั่นก็ระทึกพอสมควรครับ แม่สอดเป็นอำเภอที่ติดกับชายแดนพม่า ถนนมืดสนิทด้านซ้ายเป็นเหว ด้านขวาเป็นภูเขาและราวกับว่าเราขับรถอยู่คนเดียวในหุบเขา นานๆจะมีรถสวนมาสักคัน..ถ้าใครกลับจากแม่ฮ่องสอนเพื่อเข้ากรุงเทพ ไม่แนะนำเส้นทางนี้นะครับ ~ เปลี่ยวเกิ้น จบละครับทริปแม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว เจอกันใหม่ทริปหน้า.. ปิดท้ายด้วยเส้นทางวิวสวยๆจากแม่สอด.

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน

ธรรมะเสวนา #๒

เรื่องทั่วไป 17 January 2010

เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ เข้าห้องเรียนธรรมะกันสักหน่อยท่าจะดี (ท่าจะดี มาจาก ท่าทางจะดี ไม่ใช่ ถ้าจะดี (เห็นหลายคนใช้ผิด)) ครั้งที่แล้วเราเรียนกัันในหมวด ๒ วันนี้จะพากระโดดไปหมวด ๔ เลย ใช่ว่าหมวด ๓ จะไม่มีธรรมะสำคัญ แต่เห็นว่าหมวด ๔ มีธรรมะน่าสนใจหลายอย่างที่คนทั่วๆไปมักไม่ค่อยรู้จัก ธรรมะ หากอ่าน พูด คิดบ่อยๆ จะทำให้ซึมเข้าในกมลสันดานได้ จิตใจเราจะได้ห่างจากอกุลมูล ๓ (โลภะ โทสะและโฆหะ) จะให้ไม่มีเลยเป็นไปไม่ได้ ได้แต่หวังให้น้อยลงเท่านั้น หมวด ๔ ธรรมะที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว และได้พูดถึงกันบ่อยๆ คือ อิทธิบาท ๔ สูตรแห่งความสำเร็จ (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา) หรือ พรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มิทิตา อุเบกขา) วันนี้เลยขอแนะนำธรรมะเพื่อนำไปสู่ความหมดจดจากบาป ทำตัวให้มีความบริสุทธิ์จากอกุศล  นั่นคือ ปธาน ๔ ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง ๑.  สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน ๒.  ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ๓.  ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน ๔.  อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม ความเพียร ๔ อย่างนี้ เป็นความเพียรชอบควรประกอบให้มีในตน ผู้ที่พิจารณาตัวเองอยู่เนืองๆ จะเห็นความผิดพลาดของตัวเอง และพยายามที่จะระวังไม่ให้ตัวเองมีความผิดพลาดเช่นนั้นอีก การระวังบาปก็ดี ละบาปก็ดี บำเพ็ญกุศลก็ดี รักษาความดีก็ดี มิใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ต้องใช้ความเพียรพยายาม  สิ่งเหล่านี้หากปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์จนเกิดความเคยชิน  จะยากที่จะแก้ไขในภายหลัง ดังนั้น ความเพียร ๔ อย่างนี้..ต้องทำครับ นอกจากนี้แล้ว ธรรมอีก ๔ ข้อที่เราควรหมั่นพิจารณา นั่นคือ อธิษฐานธรรม ๔ อธิษฐานธรรม คือธรรมที่ความตั้งไว้ในใจ ๔ อย่าง…

ธรรม

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH