Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

วิ่ง

อ่านต่อ

นาวิกมาราธอน 2562 กับ มาราธอนครั้งที่ 5 ในชีวิต

วิ่ง 7 July 201910 July 2019

มาราธอนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 กับการเตรียมตัวเพียง 2 เดือน แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้าง ว่ากันตามจริง 2 เดือนนี่ก็ถือว่ามากพอสำหรับคนที่เคยผ่านมาราธอนมาแล้วตั้ง 4 ครั้ง!!! นาวิกมาราธอน เป็นสนามมาราธอนที่บรรดานักวิ่งยกให้เป็นสนามโหดอันดับที่ 2 รองจากเขาค้อ เนื่องจากเป็นทางวิ่งที่มีเนินเขาค่อนข้างเยอะ เป็นของแสลงสำหรับนักวิ่งอ่อนซ้อมอย่างผม ผมหมายหมั้นปั้นมือตั้งแต่ปีที่แล้วว่าอยากมาวิ่งงานนี้ให้จงได้ แต่เนื่องจากระบบการสมัครวิ่งที่อ่อนไหวต่อจำนวนคนมากมาย ทำให้ล่มแล้วล่มอีก จนไม่สามารถสมัครได้ ปีที่แล้วจึงพลาดการมาร่วมงาน ปีนี้จึงเอาใหม่ ทางทีมงานนาวิกมาราธอน เปลี่ยนการสมัครมาใช้ runlah.com จึงทำให้การสมัครวิ่งง่ายขึ้นเยอะ  การซ้อม อย่างที่บอก ผมมีเวลาซ้อม 2 เดือนหลังจากจบงานจอมบึงมาราธอนเมื่อต้นปี ก็หยุดวิ่งยาวจนเหลือเวลา 2 เดือนเพื่อไปนาวิกมาราธอน ดังนั้น 2 เดือนที่เหลือของผมจึงจำเป็นต้องซ้อมอย่างเข้มข้น!  แต่เอาเข้าจริง มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น.. ตั้งใจว่าการไปมาราธอนต้องซ้อมระยะอย่างน้อย 30 กิโลเมตร แต่ที่สุดก็ทำได้แค่ 25 กิโลเมตร แถม 2 อาทิตย์สุดท้ายฝนตกแทบทุกวันจนไม่มีโอกาสได้ซ้อม มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจ! มาราธอนต้องมีวินัย โดยไม่มีข้ออ้าง  ผลจากการหยุดไปนาน เมื่อเริ่มต้นวิ่งใหม่ ทำให้เหมือนแทบเริ่มใหม่หมดเลย .. เหนื่อยง่าย วิ่งไม่ทน และวิ่งช้า ผมโทษรองเท้า!!  ซื้อรองเท้าใหม่ Altra kayenta เบา สบายเท้า เพราะหน้ากว้างและพื้นเป็น Zero drop  แต่เมื่อมาใส่ซ้อมวิ่งแล้ว พบว่าความเร็วเท่าเดิม วิ่งช้า และเหนื่อยง่าย อีกครั้งที่ผมโทษรองเท้า  ซื้อรองเท้าใหม่ คราวนี้เอาแบบมีพื้นหนา ดีด เด้ง ได้รองเท้า on cloudtec มา เหยียบเมฆเลยมั้ยละมึง! ซ้อมวิ่งไป 100 KM ไม่เห็นความเร็วจะดีขึ้นเลย ไม่เกี่ยวกับรองเท้าละ เกี่ยวกับตัวเองนี่แหละ คือ ตัวเองอ่อนซ้อม!! ตารางซ้อมคือ วันธรรมดาวิ่ง 5-6 km 2-3 วัน วันเสาร์วิ่ง 10-12 km วันอาทิตย์วิ่ง…

นาวิกมาราธอน มาราธอน วิ่ง
อ่านต่อ

City run วิ่งชมเมือง สาทร – วงเวียนใหญ่

วิ่ง, สุขกะภาพ 24 April 201924 March 2020

City Run คือการวิ่งออกกำลังกายนอกสถานที่ครับ วิ่งไปตามตรอกซอกซอย หรือเส้นทางที่คับแคบไม่มีรถและคนจอแจ กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีตรอกซอกซอยจุดเล็กจุดน้อยเยอะมาก ถึงจะอยู่กรุงเทพเป็นสิบๆปีแต่รับรองเลยว่ามีอีกหลายที่ๆเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยไปถึง การวิ่ง city run จะทำให้เข้าถึงสถานที่เหล่านั้นได้ การวิ่ง city run ครั้งนี้เส้นทางเน้นเลียบไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เริ่มต้นที่สะพานสาทร ลัดเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงวัดอรุณและไปจบที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยพระเจ้าตากสิน สำหรับท่านที่ไม่เคยไปกราบสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่นะครับ วิธีเข้าไปข้างในต้องลอดใต้อุโมงค์ อุโมงค์อยู่ขวามือถ้าไปจากสะพานพุทธ ครั้งหน้าไปวิ่ง cityrun ที่ไหนค่อยว่ากันครับ

cityrun วิ่ง
อ่านต่อ

News Run Thailand 2018 ณ สวนนงนุช พัทยา

วิ่ง 27 July 201813 June 2019

งานนี้น่าจะเรียกว่า “งานเทรล” มากกว่า นอกจากขึ้นเขาแล้ว ถนนกว่า 70% เป็นลูกรัง!

run สวนนงนุช
อ่านต่อ

จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 33, กับมาราธอนครั้งที่ 2 ในชีวิต

วิ่ง 21 January 20186 February 2018

ตั้งแต่ไปร่วมงานจอมบึงมาราธอนเมื่อปีที่แล้ว เห็นบรรยากาศและสนามวิ่งแล้ว ก็ปฏิญาณกับตัวเองว่าครั้งหน้าจะต้องมาในนามของมาราธอนใ

จอมบึงมาราธอน มาราธอน
อ่านต่อ

บ้านแพ้ว ฮาล์ฟมาราธอน 2018 สุนทรียะของการวิ่ง

วิ่ง 15 January 201815 January 2018

การวิ่งถ้าเปรียบกับควารัก มันไม่ใช่รักแรกพบ แต่เป็นรักที่มีแต่ความปรารถนาดีต่อกัน รักที่มีแต่ให้ และรักที่จะอยู่ด้วยกันจนวันตาย

บ้านแพ้ว วิ่ง
อ่านต่อ

ประสบการณ์มาราธอนแรก บางแสน42

วิ่ง 20 November 201722 November 2017

มาราธอนแรกมีแค่ครั้งเดียว และมาราธอนแรกของผม ผมเลือกที่บางแสน42 มาราธอนแห่งความสาหัส

บางแสน42 มาราธอน วิ่ง
อ่านต่อ

ซ้อมวิ่งยาว 35 กิโลเมตร

วิ่ง 7 November 201710 July 2019

ตารางซ้อมมาราธอน จะมีวันวิ่งยาวใน 1 สัปดาห์ หรือสัปดาห์ละครั้ง เป็นการซ้อมที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ที่จะวิ่งมาราธอน เพราะจะเป็นการอัพสกิลหรือเพิ่มความอึดในการวิ่งยาว ระหว่างสัปดาห์อาจมีซ้อมวิ่งเร็ว Interval บ้าง วิ่ง Rocovery บ้าง ห้าโลสิบโลก็ว่ากันไปตามความเหมาะสม แต่ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ต้องมีวันวิ่งยาว และครั้งนี้น่าจะเป็นการวิ่งยาวครั้งสุดท้ายของผมก่อนถึงวันวิ่งจริงในมาราธอนแรกที่บางแสน สนามซ้อมที่ใกล้ที่สุดคือกระทรวงสาธารณสุข จริงๆมีใกล้กว่านั้นคือวิ่งในหมู่บ้าน แต่เคยพยายามแล้วรู้สึกสนามไม่อำนวยต่อความสุนทรีย์ในการวิ่งสักเท่าไร ทั้งรถราที่มีวิ่งเป็นระยะ(แม้จะเป็นเวลาตี 4 ก็ตาม) และที่สำคัญกว่านั้นเนื่องจากใกล้บ้านมาก ความขี้เกียจจะถามหาทุกทีที่วิ่งผ่านหน้าบ้านตัวเอง มันจะคอยบอกว่า พอเถอะ พอเถอะ เลี้ยวเข้าบ้านเลย ๆ ..จนสุดท้ายเราก็จะพ่ายแพ้ต่อมัน. กระทรวงสาธารณสุขจึงเป็นสนามซ้อมที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเป็นสนามวิ่งที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีปั้มปตท.ที่มีทั้งห้องน้ำสะอาดและเซเว่น และมีรอบวิ่งที่รอบละประมาณ 2.3 กิโลเมตร เช้าวันเสาร์ ผมตั้งนาฬิกาปลุกที่เวลา ตี 3.15 นาที ผมตื่นตามเวลาที่ตั้งไว้ ทำกิจธุระส่วนตัว พยายามถ่ายให้ได้ แต่เนื่องจากผิดเวลามันจะออกมาแค่นิดเดียว กินขนมปัง 1 ก้อน แล้วขับรถบึ่งไปกระทรวงสาธารณสุข ถึงกระทรวงฯในเวลา ตี 3.50 นาที จอดรถในปั้มปตท. ปั้มยังไม่เปิดบริการแต่เซเว่นเปิด ผมต้องไปเซเว่นเพื่อซื้อกล้วยตากกินระหว่างวิ่ง ประตูเซเว่นไม่เปิดอัตโนมัติ ต้องเคาะประตูถึงมีพนักงานมาเปิดให้ สอบถามได้ความว่า แถวนี้ตกดึกจะเปลี่ยวมาก เกรงจะมีโจร และพนักงานก็มีเพียงผู้หญิงคนเดียวด้วย จึงต้องล็อกประตู ผมใช้กล้วยตากขนาดเล็กราคา 10 บาทสำหรับการวิ่งในครั้งนี้ โดยวางแผนวิ่งว่า จะหยุดกินน้ำและกล้วยตากที่กิโลเมตรที่ 10, 15, 20, 25, 30, 32 และ 35 เริ่มวิ่งตอนเวลาตี 4 กระทรวงสาธารณสุข ณ เวลาตีสี่มีความวังเวง ลมหนาวพัดมาเป็นระยะ ใบไม้ที่เกลื่อนตามถนนเสียงดังกร็อกแกร็กตามแรงลมราวกับมีชีวิต หมาที่อาศัยอยู่ในกระทรวงตื่นตกใจที่มีคนวิ่งในยามวิกาลทั้งเห่าและหอนรับ แต่จะเห่าแค่รอบแรก พอวิ่งในรอบต่อๆไปก็เริ่มคุ้นเคย จึงหยุดเห่า กิโลเมตรแรก อาจจะเพราะความกลัวหรือยังกะความเร็วตัวเองไม่ได้ ความเร็วพุ่งไปที่ 6.36 นาที ผิดที่ตั้งใจไว้ว่าจะวิ่งที่ 6.45 – 6.50 พอจับจังหวะตัวเองได้ ก็เริ่มผ่อนความเร็วมาวิ่งในจังหวะที่ตัวเองถนัดจนครบ…

บางแสน42 มาราธอน
อ่านต่อ

ครั้งแรกในการวิ่ง Half Marathon ณ อยุธยา

วิ่ง, สุขกะภาพ 30 August 20172 November 2017

นับตั้งแต่เข้าสู่วงการ “วิ่ง” การไปร่วมวิ่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่าเป็นการวิ่งที่ตื่นเต้นที่สุด ทั้งเส้นทางวิ่งที่รายล้อมด้วยวัดวาอารามที่ดูขลัง และสำคัญที่สุดการเดินทางเพื่อไปร่วมวิ่ง

half marathon พระนครศรีอยุธยา วิ่ง
อ่านต่อ

KMUTNB Run Walk 2017

วิ่ง, สุขกะภาพ 21 August 20172 November 2017

เป็นรายการวิ่งที่พลาดเมื่อปีที่แล้ว เพราะตรงกับรายการวิ่งบนทางด่วนศรีรัช ปีนี้เลยบอกน้องที่หมู่บ้านไปว่า ถ้าหาเบอร์วิ่งได้หาให้ด้วย และเมื่อถึงวันวิ่งน้องก็หามาให้จนได้สมใจ

1 2 3

ปู่ซ่า..บ้าพลัง

เรื่องทั่วไป 17 June 2009

สิ่งที่นักดูหนังเกลียดและกลัวที่สุดในขณะดูหนัง 1. เสียงโทรศัพท์ดัง 2. ต่อเนื่องจากข้อ 1 เสียงคนคุยโทรศัพท์ 3. เสียงคนคุยกัน (เกี่ยวกับหนังที่กำลังดู ดูเองดูเป็นรอบที่สอง ชิ่งเล่าฉากไคลแม็กซ์ก่อนซะลั่นโรง) 4. เด็ก !! 3 ข้อแรก หลัง ๆ เริ่มพบน้อยถึงน้อยมากกระทั่งน้อยที่สุด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสังคมโดยมากรังเกียจและประณามบุคคลเหล่านี้อย่างออกนอกหน้า บางคนทนไม่ได้ถึงขนาดร้องเรียนไปถึงมูลนิธีปวีณา ร้องเรียนนายก และยังขู่สำทับอีกว่า หากยังไม่ดำเนินการ จะร้องเรียนพันธมิตร!! ด้วยประการดังนี้ บุคคล 3 ประเภทข้างต้น จึงค่อยๆหายไป ยังความปลาบปลื้มใจแก่ประดานักดูหนังยิ่งนัก จะเหลือก็แต่บุคคลประเภทสุดท้าย เด็ก หนังบางเรื่องไม่เหมาะกับเด็กเลย แต่อีแม่ที่ไร้จิตสำนึกฝ่ายดีอยากดูมาก ก็จึงต้องลากลูกให้เข้าไปดูเป็นเพื่อน โดยไม่คำนึงสักนิ๊ดว่า ภาพและเนื้อหาในจอภาพยนตร์นั้นกำลังทำร้ายลูกตัวเองโดยตรง  บางเด็กดูแล้วก็ดูอย่างตั้งใจ บางเด็กร้องไห้ บางเด็กหิว บางเด็กอยากเข้าห้องน้ำ บางเด็กง่วงนอน งอแง .. ฯลฯ จะโทษเด็กคงไม่ได้แล้ว ต้องโทษพ่อแม่มัน ทำไมไม่เอาลูกฝากไว้กับที่ฝากของหน้าโรงหนัง !! ถ้าหนังเรื่องไหนมีเนื้อหาเหมาะสำหรับเด็ก ไม่โหดร้าย หยาบคาย(เยี่ยงหนังไทยในปัจจุบัน) หรือเป็นหนังแอนิเมชั่น อันนี้ต้องยกให้เด็ก ผู้ใหญ่จะเข้าไปดู ก็พึงสำเนียกด้วยว่าเราไปขอเด็กดู ไม่ใช่เด็กมาขอเราดู และเมื่อย่างกรายเข้าโรงหนังเด็กแล้ว หากจะพบว่ามีแต่เด็กเกือบทุกที่นั่ง ก็ไม่ต้องตกใจและไม่ต้องทำหน้าตาเซ็ง อย่าลืม เรามาขอดูหนังเด็ก เด็กจะหัวเราะ พูดคุย งอแง ในโรงหนังของเด็ก สามารถทำได้ครับ ผู้ใหญ่ไม่ควรโกรธ หรือผูกอาฆาตกระทั่งหาทางข่มขืนเด็ก พูดมาตั้งนานนั้น เพื่อจะวกเข้าเรื่องตัวเองที่เกี่ยวข้องครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไปขอดูหนังเด็กมา เรื่อง “UP ปู่ซ่าบ้าพลัง” เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสัญชาติอเมริกัน สร้างโดยพิกซาร์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์ และจัดจำหน่ายโดยวอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ ผมทำใจตั้งแต่ซื้อตั๋วแล้วละครับ ว่าจะเจอมวลเด็กในโรงหนัง ด้วยเราไปอาศัยดูหนังเขา และก็ไม่ผิดหวัง เด็กรายล้อมซ้ายขวา หน้าหลัง มีตั้งแต่ขวบครึ่งถึงเก้าขวบ ความกลัวว่าเด็กจะงอแง เสียงดังนั้นมีอยู่เต็มอก แต่ตั้งใจแล้วก็เลยดั้นด้นด้วยอยากดูหนังเรื่องนี้อยู่เหลือกำลัง เด็กเยอะเต็มโรงนั่นจริงแล้วครับ แต่ปัญหาที่ผมกลัวนานาประดามีนั้น หาได้มีจริงเลย เด็กก็มีพูดคุย งอแงบ้าง…

คิดดี..พูดดี..ทำดี..ปีใหม่

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 6 January 2010

ก้าวเข้าสู่ปีใหม่เกือบจะอาทิตย์แล้ว แต่กิจกรรมหลายๆอย่างในทางแย่ๆของผมยังคงเป็นปกติ เช่น.. – นอนดูทีวีไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย – ไม่จัด, กวาด, ถูห้อง – ไม่อ่านหนังสือ – ไม่นั่งสมาธิ (โอ้..ว้าว ตั้งใจจะทำเหรอนั่น) – ตื่นสาย – และอื่นๆอีก(ยังคิดไม่ออกในตอนนี้) แต่จะว่าไปแล้ว สิ่งที่เริ่มจะทำในปีใหม่นี้ก็มีนะ เช่น.. – ออกกำลังกาย (เริ่มเมื่อวานเป็นวันแรก) – ไม่กินข้าวเย็น กินแต่ผักผลไม้แทน – ไม่กินน้ำอัดลม – (ได้แค่นี้เองเหรอ) ถ้าไม่เริ่มมันก็จะไม่เกิด ..แล้วไปนั่งเสียใจและบ่นเพ้อตอนกลางๆปี จนถึงท้ายปี ปีนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด เย็นเมื่อวานเริ่มต้นไปออกกำลังกายเป็นวันแรก ก็ไม่เลวนัก สำหรับผู้ที่ร้างสนามไปตั้งเกือบปีอย่างผม วิ่ง หอบ ก็หยุดพัก วิ่งว่าเหนื่อยแล้ว ตอนเดินกลับจากสนามวิ่งมาที่บ้านยิ่งเหนื่อยกว่าอีก เกือบอดใจไม่ไหว โบกรถเมล์ตั้งหลายครั้ง แต่ทนเวทนาตัวเองไม่ได้ ไปออกกำลังกาย แต่นั่งรถเมล์ (เพื่ออะไรว่ะ) กิจกรรมอีกอย่างที่ว่าจะเพลาๆลง นั่นคือ การดูทีวี บางคนบอกก็เลือกดูแต่ข่าวสารสิ ข่าวสารตามทีวีมันได้เนื้อหาน้อยมาก เนื่องด้วยเวลาในจอทีวีมันแพงมาก ดังนั้นข่าวจึงถูกหั่นจนสั้นกุด และในข่าวที่สั้นนั้น ยังถูกเบียดบัง บิดเบือนหรือแทรกด้วยความเห็นของผู้วิจารณ์ข่าวจนเราคล้อยตาม อ.วีระ บอกว่า ทีวียิ่งดูยิ่งโง่ ถ้าอยากอ่านข่าว ให้หาอ่านตามหนังสือพิมพ์ สนใจข่าวไหนก็เจาะลึกข่าวนั้นเป็นเรื่องๆ ทีวีดูได้ แต่ไม่ควรเกินวันละ 1 ชม. ไม่เช่นนั้นวิถีชีวิต วิธีคิด วิธีใช้ชีวิตของเรา จะเป็นไปตามทีวีโดยไม่รู้ตัว วันนี้..เราเป็น เราพูด เราคิด และทำตามแบบของเราเองดีที่สุด

อ่านต่อ

อิ่มท้อง อิ่มบรรยากาศ ณ เรือนรับรอง

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 31 July 200829 June 2016

ที่จริงจะเล่าหลายครั้งแล้ว ปรากฏว่าภาพประกอบอยู่ใน memory card แล้วเจ้าตัว card reader ดันเสีย ก็เลยไม่สามารถเอารูปในมือถือมาประกอบการเล่าได้ (ถ้าไม่มีภาพแล้ว ดูขาดความน่าเชื่อถือยังไงพิกล) เรื่องที่จะเล่า ก็คือ อยากจะแนะนำอาหารให้ไปชิมกันซะหน่อยครับ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดผมนี่แหละ อยากจะได้บรรยากาศดีๆ ไม่เอิกเกริก ก็จึงได้สถานที่แห่งหนึ่งครับ ตั้งอยู่ บนดาดฟ้าชั้น 12 พิศวิทย์ทาวเวอร์ ซ.พหลโยธิน 24 จากปากซอยพหลโยธิน 24 (ใกล้แดนเนรมิต) จะมีป้ายบอกทางมาเป็นระยะๆ ขับรถตามป้ายเข้ามาเรื่อยๆ พอถึงพิศวิทย์ทาวเวอร์ก็ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 12 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าเลย ร้านนี้ชื่อร้านเรือนรับรอง บรรยากาศที่มองจากชั้นบนดาดฟ้า ตรงกลางมีสระน้ำ รอบๆมีต้นไม้ และโต๊ะอาหาร (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป) อีกมุมหนึ่ง ดูภาพวิวรอบๆ พอแล้ว ทีนี้มาดูอาหารซึ่งเป็นไฮไลต์กัน วันนั้นสั่งไปหลายอย่างทีเดียว  แต่ละอย่างผมจำชื่อไม่ได้ แต่ที่จำได้คือรสชาติ รสชาติเยี่ยมเลยครับ ที่เห็นเป็นรูปลูกมะพร้าว นั่นคือห่อหมกยอดมะพร้าว ภาพล่างขวาปลาหมึกคลุกด้วยไข่เค็มทอด บนขวาไก่ทอด ที่นี่ทอดได้กำลังดีทีเดียว เนื้อนุ่ม ไม่แข็งไป ~ รวมๆแล้ว ถือว่าไม่เลวทีเดียว จากคะแนนเต็ม 10  บรรยากาศร้านให้ 7  รสชาติอาหารให้ 8 บรรยากาศบนดาดฟ้าดีทีเดียวครับ เป็นโอเพ่นแอร์ ~ ว่างๆลองไปชิมดูครับ

เรือนรับรอง

ของขวัญจากพระเจ้า!

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 26 May 201128 October 2015

กำลังอ่านหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ ทุ่งหญ้าแห่งความรู้และความสุข” เขียนโดยคุณประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ แนวคิดในการทำธุรกิจ ในการมองโลก มีมุมที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สมกับที่เรียกตัวเองว่าเป็น “แกะดำ” แกะดำไม่ใช่แกะที่มีความผิดปกติ หรือมีความแปลกประหลากแตกต่างจากคนอื่น หากแต่ว่าเป็นแกะที่เลือกทำในสิ่งที่ดีกว่า แตกต่าง และให้ผลดีกว่า เลือกที่จะเลี้ยวขวา ขณะที่ทุกคนเลี้ยวซ้าย เลือกที่วิ่งในขณะที่ทุกคนเดิน เลือกที่สุขในขณะที่ทุกคนทุกข์ และอีกมากมาย.. อ่านได้ครึ่งเล่มขณะรถติด ได้ความคิดใหม่ว่าขณะรถติดคนส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมส์บนมือถือ เล่นเฟสบุค ทวิตเตอร์ บีบี ดูหนัง ฟังเพลง ล้วนแต่เป็นสิ่งสร้างความบันเทิงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำไมเราไม่อ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ขณะรถติดที่มากกว่านั้น ไม่เสียเงิน แถมได้ประโยชน์มหาศาล ..เลยตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือทุกครั้งที่รถติด!!! จะดูสิว่า เดือนหนึ่งจะอ่านได้กี่เล่ม.. ชอบใจประโยคเด็ดในหนังสือแกะดำฯ ที่คุณประเสริฐ ได้นำคำของ CEO หญิงของ HP มาเขียนไว้อีกที.. ใจความว่า “การที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่า่จะสูงต่ำดำขาว คือสิ่งวิเศษที่พระเจ้ามอบให้เรา ส่วนเราจะประพฤติตนอย่างไร คือสิ่งวิเศษที่เป็นของขวัญที่เราจะมอบแด่พระเจ้า” * อยากรู้จักแกะดำมากขึ้นคลิกไปที่ http://www.blacksheep.co.th/

ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ พระเจ้า แกะดำ

ผู้ชนะสิบทิศ

เรื่องทั่วไป 26 May 2009

ช่วงนี้ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย จริงๆมีแผนจะไปเที่ยวสัตหีบกับเพื่อนๆที่ทำงานในวันเสาร์ที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่มีเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเดินทางไปกับเพื่อนๆได้ ฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ไม่อยากคิดถึงการเดินทาง การเที่ยว คิดถึงสภาพท้องถนนที่คลาคลำด้วยรถ ถนนลื่น อุบัติก็เกิดขึ้นง่าย ทะเลคงไม่สวยนัก หากท้องฟ้าไม่สดใส น้ำตกเองคงขุ่นคลั่กหากมีฝน ภูเขาหินผาก็ลื่นเกิดอุบัติเหตุได้ในหน้าฝน หน้าฝนจึงเป็นฤดูที่ไม่เหมาะแก่การเที่ยวเท่าไรนัก แล้วเหมาะแก่อะไรละ?? อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ผมเลือกของแรกเป็นหลัก ผสมด้วยข้อสอง และไม่ละข้อสาม!   เหตุที่ผมไม่สามารถไปเที่ยวกับเพื่อนๆได้ นั่น เพราะติดงานศพครับ ผู้วายชนม์เป็นอดีตข้าราชการทหารผู้ยิ่งใหญ่ ทำคุณประโยชน์แก่สยามประเทศเป็นอเนกอนันต์ ในอดีตท่านเคยออกรบในสงครามเวียดนามในนาม “จงอางศึก” และทำคุณประโยชน์ในฐานะชายชาติทหารแก่ประเทศชาติอย่างมากมาย ด้วยคุณงามความดีนี่เอง ในงานศพถึงคลาคลำด้วยแขกมากหน้าหลายตา และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อพระองค์ท่านทราบข่าวก็เสียชีวิต ก็ทรงประทานพวงหรีด เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัว ผมได้มีโอกาสไปที่บ้านของอดีตนายทหารผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้พบเบื้องหลังแห่งความยิ่งใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพความยิ่งใหญ่, บันทึกต่างๆที่ท่านเขียนบันทึกไว้ตลอด(ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทุกคนรักการอ่านและการบันทึก ข้อนี้ผมได้ยินมาจากหลายๆท่าน) รวมถึงหนังสือหลากหลาย และหนังสือกองหนึ่งที่สะดุดตาผมยิ่งนัก นั่นคือ หนังสือนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” โดยยาขอบ แต่ละเล่มมีความหนากว่า 500 หน้า พิมพ์แบบเก่า หนังสือมีความเก่าแก่หน้ากระดาษออกสีเหลืองจนซีด รวมทั้งหมด 10 เล่ม ผมลองหยิบเล่มหนึ่งมาอ่านคำนำที่ยาวเกือบ 5 หน้า เป็นหนังสือที่มีคำนำจากผู้เขียนยาวมาก จึงพบว่า คำนำนี้มิใช่คำนำอย่างหนังสือทั่วๆไป แต่เป็นคำนำที่ผู้เขียนได้กล่าวแก้ต่างจากมีผู้โจมดีในสมัยนั้น เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านเขียน โดยถูกกล่าวหาว่าไปลอกคนอื่นบ้าง ไม่ได้คิดเองบ้าง ต่างๆนานาๆ ก็ไม่แปลกใจใครที่ดัง มีชื่อขึ้นมา มักจะเจอข้อกล่าวหาทั้งสิ้น อาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะการกล่าวอ้าง นอกจากนี้ท่านยังได้กล่าวขอบคุณ กล่าวถึงความยากลำบากในการประพันธ์ รวมถึงการกล่าวฝากฝังหนังสือยิ่งใหญ่ไว้ในแผ่นดิน   พออ่านคำนำจบ ก็ให้เกิดความกระหายอยากอ่านเนื้อหา ก็เลยอ่าน ตั้งใจว่าจะอ่านฆ่าเวลา อ่านผ่านไปบทแรก บทสอง บทสาม ก็เกิดความติดใจในรสประพันธ์ประหนึ่งกวางติดใจในรสหญ้าอ่อน ศัพท์สำนวนล้วนเป็นภาษาเก่า ต้องทำความเข้าใจ แต่กระนั้นก็หาใช่อุปสรรคไม่ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุก ยิ่งอ่านก็ยิ่งวางไม่ลง ใครที่เคยอ่านแฮรี่พ็อตเตอร์แล้วติดงอมแงมวางไม่ลง ก็คงจะเข้าใจอาการนี้ของผมได้อย่างดี วางไม่ลง พอหลับตาลงก็ฝันถึง..   ผู้ชนะสิบทิศ เคยเป็นละครที่ยิ่งใหญ่ในอดีต…

อ่านต่อ

เที่ยว ‘สุพรรณฯ’ วันเดียว

ท่องเที่ยว 29 April 20167 June 2019

Recon on Tour ทริปนี้เป็นทริปที่ 3 หลังจากครั้งแรกไปนครนายก ครั้งที่สองไปเพชรบุรี(แก่งกระจาน) ครั้งนี้มีภารกิจคือ ไปทำบุญวัดป่าเลย์ไลก์ โดยได้รับการสบทบทำบุญจากหลายๆท่านทั้งที่มาด้วยกัน และไม่ได้

สุพรรณบุรี
อ่านต่อ

3 วัน 2 คืน เที่ยวอินทนนท์..กางเต๊นท์นอนกับอากาศ 3 องศา

ท่องเที่ยว 8 December 201917 March 2020

เที่ยวอินทนนท์มาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้อยากสัมผัสกับบรรยากาศหนาวจริงๆของอินทนนท์สักครั้งหนึ่ง จึงเป็นที่มาของทริป “3 วัน 2 คืน เที่ยวอินทนนท์..กางเต๊นท์นอน” ขอรวบรัดตัดความข้ามเรื่องการเดินทาง วาปทีเดียวมาโผล่ที่อินทนนท์เลยละกันนะครับ ฉากแรกของทริปนี้คือที่นี่ครับ โดยไม่ได้วางแผนมาก่อน คิดแค่ว่าขนเต๊นท์ขึ้นบนรถแล้วไปหาที่กางเอาดาบหน้าที่อินนทนนท์ เปิดกูเกิ้ลเห็นแว่บๆว่ามีที่กางเต๊นท์ชื่อชลธารวิว แต่พอไปถึงสถานที่จริง รู้สึกว่าไม่เหมือนที่คิดไว้สักเท่าไร ขณะขับออกมาจากตรงนั้นนิดหนึงก็พบที่แห่งนี้ครับ ค่ำคืนแรกในเต๊นท์บนอินทนนท์ หนาวสะใจมากครับ ..พอพระอาทิตย์ตกดินอากาศลดลงเหลือ 3 องศา หนาวจนหมูกระทะที่สั่งมากินหน้าเต๊นท์ไม่สามารถปิ้งย่างได้ ต้องรีบหลบเข้าเต๊นท์ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความหนาวลดลง หลังจากค่ำคืนที่หนาวเหน็บผ่านพ้นไป เช้ารุ่งขึ้นก็ยังอุตส่าแหกขี้หูขี้ตาขึ้นไปบนยอดดอยอินทนนท์อีกนะ เราว่าเราไปเช้าแล้วคือออกไปตอนตี 5 ครึ่ง ปรากฏว่ามีคนไปเช้ากว่าเราอีก คนบนนั้นเยอะจนรถติด สุดท้ายจึงลงมาหาข้าวกินข้างล่าง คืนที่สอง “ลานกางเต๊นท์ต้นสน อุทยานแห่งชาติอินทนนท์” อุทยานแห่งชาติอินทนนท์มีจุดกางเต๊นท์ที่เป็นของอุทยานและมีค่าบริการถูกมากครับเพียงคืนละ 50 บาท ที่นี่จึงเป็นที่พักสำหรับคืนที่สองของทริปนี้ และเช่นเคยครับ “นอนเต๊นท์” ข้อดีของคืนที่สอง คือ ที่นี่ความหนาวลดลง หรืออุ่นขึ้นนั่นเอง ที่นี่อากาศอยู่ที่ประมาณ 10 องศา (แต่ก็ยังหนาวอยู่ดีสำหรับผม) ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือเดินไปไม่ไกลจากจุดกางเต๊นท์ที่เป็นป่าสนนี้ ก็จะมีร้านอาหารให้บริการอย่างหนาตา คืนที่สองนี้รู้สึกไม่โดดเดี่ยวเท่าคืนแรก มีนักท่องเที่ยวที่ชอบนอนเต๊นท์มากันอย่างหนาตา แต่ก็ไม่หนาแน่นจนอึกกระทึก เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเก็บเต๊นท์รอจนน้ำค้างที่เกาะเต๊นท์แห้งดีแล้ว ก็เก็บข้าวของกลับบ้าน. ทริปนี้อยากสัมผัสความหนาวบนอินทนนท์ ก็ถือว่าได้ดั่งใจ ทริปหน้าไปไหนเดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง

อินทนนท์
อ่านต่อ

หมู่บ้านแม่กำปอง

ท่องเที่ยว 25 March 202025 March 2020

หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก อยู่บนเนินเขาท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ ลำธาร และน้ำตกอยู่ในตัวหมู่บ้าน ที่นี่ก่อตั้งเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้ว ประชากรส่วนใหญ่ อพยพมาจาก อ.ดอยสะเก็ด เพื่อเข้ามาทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพ และตั้งบ้านเรือนบริเวณใกล้แม่น้ำลำธาร สมัยก่อนมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะดอกสีเหลืองแดง ขึ้นอยู่ตามริมลำธาร เรียกว่า ดอกกำปอง จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามชื่อของ ดอกไม้รวม กับแม่น้ำ เป็นบ้านแม่กำปอง นั่นเอง เดินชมหมู่บ้านแม่กำปองกันครับ บรรยากาศยามค่ำคืน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เที่ยวก็จึงมีไม่มากนัก เที่ยว 1 วัน 1 คืนก็น่าจะทั่วหมู่บ้านละ จริงๆน้ำตกแม่กำปองให้เที่ยวด้วย แต่ทริปนี้ขออนุญาตผ่านก่อนเพราะชุดไม่พร้อมเดิน การเดินทาง รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้น 1141 ข้ามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง และ ภนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จากนั้นตรงต่อไปยังเส้น 1317 และต่อด้วย 3005 แล้ววิ่งขึ้นไปทางตำบลห้วยแก้ว ทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ระยะทางรวมประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ หรือถ้าออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทางฝั่งช้างเผือกและตลาดวโรรส ให้ออกเส้น 118 ถนนเชียงใหม่ – ดอยสะก็ด แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้น 3005

เชียงใหม่ แม่กำปอง
อ่านต่อ

ทริปลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ (ตอนที่ ๒)

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 16 February 201616 February 2016
พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน

โชคดีที่เป็นหมา

ไดอารี่ 25 June 2011

จะดีก็ดี จะไม่ว่าไม่ดีก็ไม่รู้จะใช่หรือเปล่านะครับ ‘จิ๊กกี๋’ ยามสุภาพสตรีสีดำประจำบ้านที่ผมได้แนะนำให้รู้จักในบล็อกก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอซึมๆไป ผมได้พาไปให้หมอเจาะตรวจเลือด..ปรากฏผลออกมาว่า เธอเป็นโรค ‘ไต’ ระยะที่ 3  (โรคไตมี 4ระยะ) ระยะที่สามถือว่าเป็นระยะที่อันตรายพอสมควร จึงไม่แปลกใจที่เธอมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด หมามันพูดไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง มันรู้แต่ว่าเมื่อไม่สบายตัว มันก็จะไม่สนุกสนาน ไม่เล่น ไม่ร่าเริง ซึ่งจากอาการเหล่านี้ถ้าคนที่สนใจหมาสักนิ๊ดก็จะรู้ทันทีว่ามัน “ไม่ปกติ” จากการสันนิษฐาน จิ๊กกี๋เป็นโรคไตเพราะ 2 สาเหตุหลัก คือ 1. อาหาร อาหารที่มีรสจัดมาก ถูกปากหมาแต่ไม่ถูกต่อโรค 2. อั้นฉี่ น่าจะเป็นสาเหตุหลัก จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในรั้วบ้าน และนั่นหมายความว่ามันจะมีโอกาสได้อึฉี่วันละสองครั้งเท่านั้น คือ เช้ากะเย็น ก่อนผมออกไปทำงานและหลังผมเลิกงาน ยิ่งกว่านั้นจิ๊กกี๋เคยอั้นฉี่นานสุด 3 วัน!!! หลังจากนี้ก็เข้าสู่การรักษาตัว หมอบอกว่ามีโอกาสที่หายได้ แต่ต้องมีวินัยในการกินอาหาร กินยาอย่างสม่ำเสมอ และ..ต้องให้น้ำเกลือทุกวันๆละ 300 ซีซี เรื่องอาหารและยาไม่ยากเท่าไร ถึงแม้มันจะเคยบ้วนยาทิ้งก็ตาม แต่ก็สามารถบังคับขืนใจให้มันกินไปจนได้ แต่การให้น้ำเกลือถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม หมอได้ทำตัวอย่างให้ดู ก็เห็นว่าไม่ยาก เพราะแค่เจาะเข็มให้เข้าสู่ผิวหนัง หมาไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดขืนแต่อย่างใด ..ดังนั้น ผมคิดว่าผมทำได้ เมื่อวานลองทำเป็นครั้งแรก..อืมมม ก็ไม่ยากเท่าไร ได้อยู่ จิ๊กกี๋เป็นโรคไตระยะที่สาม ถ้าเป็นคนก็คงจะเครียดพอสมควร แต่นี่เป็นหมา ข้อดีของการเป็นหมาคือมันไม่ต้องรับรู้หรอกว่ามันเป็นโรคอะไร เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ต้องเครียด ซึ่งการไม่เครียดนี่เองมีผลดีต่อตัวหมามาก จะเห็นได้ว่าหลายๆคนพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคโน่นโรคนี่ อาการของโรคยังไม่ได้กำเริบเท่าไร แต่อาการเครียดจิตจับจดอยู่กับโรคจนอาการทรุดกว่าที่ควร พอมานั่งคิดข้อนี้ก็จึงมานั่งคิดว่า.. “อืมม เป็นหมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ”

จิ๊กกี๋ ไต

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (57)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (69)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH