Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

วิ่ง

อ่านต่อ

21 กิโลเมตรแรกในรอบ 3 ปี

วิ่ง, สุขกะภาพ 17 July 202221 July 2022

อย่างที่ทราบกันดีว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาโลกของเราประสบกับปัญหาเดียวกัน นั่นคือ “โควิด” ทุกกิจกรรมที่ทำนอกบ้านต้องหยุดและเปลี่ยนมาทำในบ้านแทน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอน การทำงาน หรือแม้แต่การออกกำลังกาย อย่างอื่นพอทำในบ้านได้ครับ แต่สำหรับผมการออกกำลังกายต้องทำนอกบ้านเท่านั้น เพราะการออกกำลังกายของผมนั่นคือ “วิ่ง” นั่นเองถึงทำให้ผมมีข้ออ้างสำหรับการไม่ออกกำลังกายแบบต่อเนื่องตั้ง 3 ปี!! สำหรับคนที่วิ่งบ่อยๆ จะรู้เลยว่า ถ้าหยุดวิ่งนานๆ การกลับมาวิ่งใหม่มันเท่ากับการเริ่มนับหนึ่งใหม่ ความฟิตของร่างกายแทบไม่มี ความสนุกในการวิ่งที่เคยสัมผัสจะหายไป เราต้องเริ่มหัดวิ่งใหม่ตั้งแต่ระยะ 5 กิโลเมตร 10 กิโลเมตร และจะผ่าน 10 กิโลเมตรแบบยากลำบากมาก การจะวิ่งด้วยตัวเองในระยะ 21 กิโลเมตรนั้นคงทำไม่ได้แน่ คิดได้ดังนั้นจึงเริ่มหางานวิ่งที่กำลังเริ่มกลับมาคึกคักใหม่..ผมไปเจองาน UTMUthaiThaniMarathon หลังจากสมัครก็เริ่มซ้อมวิ่งครับ เหมือนเริ่มวิ่งใหม่ ครั้งแรกได้ 5 กิโลเมตร วิ่งด้วยระยะนี้ 2-3 วันก่อนแล้วค่อยขยับไปกิโลเมตรที่ 10 เริ่มวิ่ง 10 กิโลเมตรแบบสบายๆได้ แต่แล้ว..ดันไปติดโควิด ทำให้การซ้อมที่กำลังต่อเนื่องต้องหยุดไปถึง 10 วัน หลังจากหายโควิดมีเวลาซ้อมแค่ 10 วันอีกต่างหาก งานนี้จึงซ้อมได้แค่ 10 กิโลเมตรก่อนงานวิ่งแค่ 5 วัน วันงาน งานนี้ฉายเดี่ยวอีกเช่นเคยครับ ผมจองห้องพักไว้ใกล้จุดสตาร์ทซึ่งก็คือสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ห่างแค่ 3 กิโลเมตร หลังจากไปรับบิบเสร็จเรียบร้อยก็เช็คอินเข้าที่พัก งานนี้ปล่อยตัวตอนตี 4.30 ดังนั้นเราต้องไปให้ถึงจุดปล่อยตัวในเวลาตี 4 หลังจากอาบน้ำ รับประทานอาหารเย็น เตรียมเสื้อผ้ารองเท้าสำหรับพรุ่งนี้ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 3.40 เสร็จแล้วเข้านอน ค่ำคืนนี้ฝนตกหนักมาก ถึงจะหลับๆตื่นๆ และฝันว่าตัวเองออกไปวิ่งแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้หลับบ้าง ก่อนนาฬิกาจะปลุก 5 นาที ผมลุกจากที่นอนเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาทำธุระส่วนตัวไม่นานก็พาตัวเองออกจากห้องพักไปยังจุดสตาร์ท ปล่อยตัว ตี 4.30 เมื่อสิ้นสุดสัญญาณปล่อยตัว นักวิ่งพันกว่าคนรวมระยะ 21 และ 42 ก็ทะยานออกจากเส้นสตาร์ท ขาแรงที่อยู่แนวหน้าทั้งหลายตะบึ่งวิ่งด้วยพลังทั้งหมดที่มีราวกับว่าจะวิ่งแค่ 400 เมตร แน่นอนสำหรับนักวิ่งขาแรงแล้ว 21 หรือ…

วิ่ง อุทัยธานีมาราธอน
อ่านต่อ

นาวิกมาราธอน 2562 กับ มาราธอนครั้งที่ 5 ในชีวิต

วิ่ง 7 July 201910 July 2019

มาราธอนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 กับการเตรียมตัวเพียง 2 เดือน แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้าง ว่ากันตามจริง 2 เดือนนี่ก็ถือว่ามากพอสำหรับคนที่เคยผ่านมาราธอนมาแล้วตั้ง 4 ครั้ง!!! นาวิกมาราธอน เป็นสนามมาราธอนที่บรรดานักวิ่งยกให้เป็นสนามโหดอันดับที่ 2 รองจากเขาค้อ เนื่องจากเป็นทางวิ่งที่มีเนินเขาค่อนข้างเยอะ เป็นของแสลงสำหรับนักวิ่งอ่อนซ้อมอย่างผม ผมหมายหมั้นปั้นมือตั้งแต่ปีที่แล้วว่าอยากมาวิ่งงานนี้ให้จงได้ แต่เนื่องจากระบบการสมัครวิ่งที่อ่อนไหวต่อจำนวนคนมากมาย ทำให้ล่มแล้วล่มอีก จนไม่สามารถสมัครได้ ปีที่แล้วจึงพลาดการมาร่วมงาน ปีนี้จึงเอาใหม่ ทางทีมงานนาวิกมาราธอน เปลี่ยนการสมัครมาใช้ runlah.com จึงทำให้การสมัครวิ่งง่ายขึ้นเยอะ  การซ้อม อย่างที่บอก ผมมีเวลาซ้อม 2 เดือนหลังจากจบงานจอมบึงมาราธอนเมื่อต้นปี ก็หยุดวิ่งยาวจนเหลือเวลา 2 เดือนเพื่อไปนาวิกมาราธอน ดังนั้น 2 เดือนที่เหลือของผมจึงจำเป็นต้องซ้อมอย่างเข้มข้น!  แต่เอาเข้าจริง มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น.. ตั้งใจว่าการไปมาราธอนต้องซ้อมระยะอย่างน้อย 30 กิโลเมตร แต่ที่สุดก็ทำได้แค่ 25 กิโลเมตร แถม 2 อาทิตย์สุดท้ายฝนตกแทบทุกวันจนไม่มีโอกาสได้ซ้อม มันก็แค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจ! มาราธอนต้องมีวินัย โดยไม่มีข้ออ้าง  ผลจากการหยุดไปนาน เมื่อเริ่มต้นวิ่งใหม่ ทำให้เหมือนแทบเริ่มใหม่หมดเลย .. เหนื่อยง่าย วิ่งไม่ทน และวิ่งช้า ผมโทษรองเท้า!!  ซื้อรองเท้าใหม่ Altra kayenta เบา สบายเท้า เพราะหน้ากว้างและพื้นเป็น Zero drop  แต่เมื่อมาใส่ซ้อมวิ่งแล้ว พบว่าความเร็วเท่าเดิม วิ่งช้า และเหนื่อยง่าย อีกครั้งที่ผมโทษรองเท้า  ซื้อรองเท้าใหม่ คราวนี้เอาแบบมีพื้นหนา ดีด เด้ง ได้รองเท้า on cloudtec มา เหยียบเมฆเลยมั้ยละมึง! ซ้อมวิ่งไป 100 KM ไม่เห็นความเร็วจะดีขึ้นเลย ไม่เกี่ยวกับรองเท้าละ เกี่ยวกับตัวเองนี่แหละ คือ ตัวเองอ่อนซ้อม!! ตารางซ้อมคือ วันธรรมดาวิ่ง 5-6 km 2-3 วัน วันเสาร์วิ่ง 10-12 km วันอาทิตย์วิ่ง…

นาวิกมาราธอน มาราธอน วิ่ง
อ่านต่อ

City run วิ่งชมเมือง สาทร – วงเวียนใหญ่

วิ่ง, สุขกะภาพ 24 April 201924 March 2020

City Run คือการวิ่งออกกำลังกายนอกสถานที่ครับ วิ่งไปตามตรอกซอกซอย หรือเส้นทางที่คับแคบไม่มีรถและคนจอแจ กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีตรอกซอกซอยจุดเล็กจุดน้อยเยอะมาก ถึงจะอยู่กรุงเทพเป็นสิบๆปีแต่รับรองเลยว่ามีอีกหลายที่ๆเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยไปถึง การวิ่ง city run จะทำให้เข้าถึงสถานที่เหล่านั้นได้ การวิ่ง city run ครั้งนี้เส้นทางเน้นเลียบไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เริ่มต้นที่สะพานสาทร ลัดเลาะไปตามแม่น้ำจนถึงวัดอรุณและไปจบที่วงเวียนใหญ่ อนุสาวรีย์ชัยพระเจ้าตากสิน สำหรับท่านที่ไม่เคยไปกราบสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินที่วงเวียนใหญ่นะครับ วิธีเข้าไปข้างในต้องลอดใต้อุโมงค์ อุโมงค์อยู่ขวามือถ้าไปจากสะพานพุทธ ครั้งหน้าไปวิ่ง cityrun ที่ไหนค่อยว่ากันครับ

cityrun วิ่ง
อ่านต่อ

News Run Thailand 2018 ณ สวนนงนุช พัทยา

วิ่ง 27 July 201813 June 2019

งานนี้น่าจะเรียกว่า “งานเทรล” มากกว่า นอกจากขึ้นเขาแล้ว ถนนกว่า 70% เป็นลูกรัง!

run สวนนงนุช
อ่านต่อ

จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 33, กับมาราธอนครั้งที่ 2 ในชีวิต

วิ่ง 21 January 20186 February 2018

ตั้งแต่ไปร่วมงานจอมบึงมาราธอนเมื่อปีที่แล้ว เห็นบรรยากาศและสนามวิ่งแล้ว ก็ปฏิญาณกับตัวเองว่าครั้งหน้าจะต้องมาในนามของมาราธอนใ

จอมบึงมาราธอน มาราธอน
อ่านต่อ

บ้านแพ้ว ฮาล์ฟมาราธอน 2018 สุนทรียะของการวิ่ง

วิ่ง 15 January 201815 January 2018

การวิ่งถ้าเปรียบกับควารัก มันไม่ใช่รักแรกพบ แต่เป็นรักที่มีแต่ความปรารถนาดีต่อกัน รักที่มีแต่ให้ และรักที่จะอยู่ด้วยกันจนวันตาย

บ้านแพ้ว วิ่ง
อ่านต่อ

ประสบการณ์มาราธอนแรก บางแสน42

วิ่ง 20 November 201722 November 2017

มาราธอนแรกมีแค่ครั้งเดียว และมาราธอนแรกของผม ผมเลือกที่บางแสน42 มาราธอนแห่งความสาหัส

บางแสน42 มาราธอน วิ่ง
ซ้อมวิ่งยาว 35 กิโลเมตร อ่านต่อ

ซ้อมวิ่งยาว 35 กิโลเมตร

วิ่ง 7 November 201710 September 2022

ตารางซ้อมมาราธอน จะมีวันวิ่งยาวใน 1 สัปดาห์ หรือสัปดาห์ละครั้ง เป็นการซ้อมที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ที่จะวิ่งมาราธอน เพราะจะเป็นการอัพสกิลหรือเพิ่มความอึดในการวิ่งยาว ระหว่างสัปดาห์อาจมีซ้อมวิ่งเร็ว Interval บ้าง วิ่ง Rocovery บ้าง ห้าโลสิบโลก็ว่ากันไปตามความเหมาะสม แต่ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ต้องมีวันวิ่งยาว และครั้งนี้น่าจะเป็นการวิ่งยาวครั้งสุดท้ายของผมก่อนถึงวันวิ่งจริงในมาราธอนแรกที่บางแสน สนามซ้อมที่ใกล้ที่สุดคือกระทรวงสาธารณสุข จริงๆมีใกล้กว่านั้นคือวิ่งในหมู่บ้าน แต่เคยพยายามแล้วรู้สึกสนามไม่อำนวยต่อความสุนทรีย์ในการวิ่งสักเท่าไร ทั้งรถราที่มีวิ่งเป็นระยะ(แม้จะเป็นเวลาตี 4 ก็ตาม) และที่สำคัญกว่านั้นเนื่องจากใกล้บ้านมาก ความขี้เกียจจะถามหาทุกทีที่วิ่งผ่านหน้าบ้านตัวเอง มันจะคอยบอกว่า พอเถอะ พอเถอะ เลี้ยวเข้าบ้านเลย ๆ ..จนสุดท้ายเราก็จะพ่ายแพ้ต่อมัน. กระทรวงสาธารณสุขจึงเป็นสนามซ้อมที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเป็นสนามวิ่งที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีปั้มปตท.ที่มีทั้งห้องน้ำสะอาดและเซเว่น และมีรอบวิ่งที่รอบละประมาณ 2.3 กิโลเมตร เช้าวันเสาร์ ผมตั้งนาฬิกาปลุกที่เวลา ตี 3.15 นาที ผมตื่นตามเวลาที่ตั้งไว้ ทำกิจธุระส่วนตัว พยายามถ่ายให้ได้ แต่เนื่องจากผิดเวลามันจะออกมาแค่นิดเดียว กินขนมปัง 1 ก้อน แล้วขับรถบึ่งไปกระทรวงสาธารณสุข ถึงกระทรวงฯในเวลา ตี 3.50 นาที จอดรถในปั้มปตท. ปั้มยังไม่เปิดบริการแต่เซเว่นเปิด ผมต้องไปเซเว่นเพื่อซื้อกล้วยตากกินระหว่างวิ่ง ประตูเซเว่นไม่เปิดอัตโนมัติ ต้องเคาะประตูถึงมีพนักงานมาเปิดให้ สอบถามได้ความว่า แถวนี้ตกดึกจะเปลี่ยวมาก เกรงจะมีโจร และพนักงานก็มีเพียงผู้หญิงคนเดียวด้วย จึงต้องล็อกประตู ผมใช้กล้วยตากขนาดเล็กราคา 10 บาทสำหรับการวิ่งในครั้งนี้ โดยวางแผนวิ่งว่า จะหยุดกินน้ำและกล้วยตากที่กิโลเมตรที่ 10, 15, 20, 25, 30, 32 และ 35 เริ่มวิ่งตอนเวลาตี 4 กระทรวงสาธารณสุข ณ เวลาตีสี่มีความวังเวง ลมหนาวพัดมาเป็นระยะ ใบไม้ที่เกลื่อนตามถนนเสียงดังกร็อกแกร็กตามแรงลมราวกับมีชีวิต หมาที่อาศัยอยู่ในกระทรวงตื่นตกใจที่มีคนวิ่งในยามวิกาลทั้งเห่าและหอนรับ แต่จะเห่าแค่รอบแรก พอวิ่งในรอบต่อๆไปก็เริ่มคุ้นเคย จึงหยุดเห่า กิโลเมตรแรก อาจจะเพราะความกลัวหรือยังกะความเร็วตัวเองไม่ได้ ความเร็วพุ่งไปที่ 6.36 นาที ผิดที่ตั้งใจไว้ว่าจะวิ่งที่ 6.45 – 6.50 พอจับจังหวะตัวเองได้ ก็เริ่มผ่อนความเร็วมาวิ่งในจังหวะที่ตัวเองถนัดจนครบ…

บางแสน42 มาราธอน
อ่านต่อ

ครั้งแรกในการวิ่ง Half Marathon ณ อยุธยา

วิ่ง, สุขกะภาพ 30 August 20172 November 2017

นับตั้งแต่เข้าสู่วงการ “วิ่ง” การไปร่วมวิ่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่าเป็นการวิ่งที่ตื่นเต้นที่สุด ทั้งเส้นทางวิ่งที่รายล้อมด้วยวัดวาอารามที่ดูขลัง และสำคัญที่สุดการเดินทางเพื่อไปร่วมวิ่ง

half marathon พระนครศรีอยุธยา วิ่ง
1 2 3
อ่านต่อ

ฝากรอยเท้า ​ณ ปราณบุรี

ท่องเที่ยว, วิ่ง, สุขกะภาพ 26 June 20163 November 2017

เป็นทริปที่ 4 ของ Recon tour ทริปนี้มุ่งหน้าหาทะเลของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั่นคือ ปราณบุรี เป็นทริปเลี้ยงส่งโค๊ชอาร์ม โค๊ชประจำทีมและถือเป็นการท่องเที่ยวของทีมอีกครั้งอีกด้วย งานนี้มีเยอะคนที่สุดเท่าที่เคยจัดไปเที่ยวมา นั่นคือ มากันถึง 17 คน กับรถ 4 คันๆละ 4 มี 1 คันที่นั่งกันถึง 5

recon tour run ปราณบุรี วิ่ง

'สาระแนสิบล้อ' ติดอันดับหนังเสียดายตังค์แห่งปี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 April 2010

พอดีไปอ่านบทวิจารณ์หนังเรื่อง “สาระแนสิบล้อ” มา  ก็เลยรู้สึกเห็นด้วย เพราะพึ่งไปดูมาเหมือนกัน !! เขาวิจารณ์ประมาณนี้อ่ะครับ “..ที่หนังโปรโมตตัวเองว่า “มีบท” นั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จริงจังอะไร คือโดยตัวหนัง มันก็มีหัวมีท้าย แบบว่าจะเริ่มเรื่องยังไงและจะไปจบตรงไหนยังไง พูดง่ายๆ ก็คือหนังเขียนบทไว้แบบหลวมๆ เพื่อจะอัดสถานการณ์พิลึกพิลั่นลงไป เปรียบเทียบกัน มันก็คงคล้ายๆ กับหนังของของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก อย่าง “วงษ์คำเหลา” ที่คิดพล็อตคร่าวๆ ให้มันมีตอนต้นตอนท้าย แล้วในระหว่างทางก็ “ตบมุก” ไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น ผมว่า บางที ทีมสาระแนอาจจะแจ่มแจ้งแก่ตัวเองดีว่าไม่มี “ความสนใจ” มากพอที่จะสร้างสรรค์หนังที่ดีๆ เนียนๆ ได้ ก็เลย “หาทางออก” ด้วยการเลือกที่จะทำมันออกมาในลักษณะแบบบ้าๆ บวมๆ และมั่วแหลกกันไปเลย และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความหลุดโลกสุดเพี้ยน เพี้ยนตั้งแต่เนื้อหาที่พ่วงมากับวิธีคิดแบบทื่อๆ ตื้นๆ อย่างเช่น การจะเป็นลูกผู้ชายได้ต้องใช้ชีวิตหยาบๆ เถื่อนๆ อย่างการไปเที่ยวซ่อง หรือใช้กำลังตัดสิน (กระทืบคนแก่!!) เพี้ยนทั้งตัวละครและสิ่งของ ที่มีตั้งแต่ “แฝดนรกหัวติดกัน” (เสนาหอย, โก๊ะตี๋ อารามบอย) หรือแม้แต่รถสิบล้อที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์คนเหล็ก (ยืมวิชามาจาก Transformers แบบเต็มๆ) และเพี้ยนแม้กระทั่งสถานการณ์ในเรื่อง อย่างเช่น มีดกระเด็นไปเฉาะปากของน้าเชจนฟันหน้าหลุดหลอ, มีดเล่มเดิมนั้นผ่าลงหัวของคู่แฝดทำให้ทั้งคู่หลุดออกเป็นอิสระจากกัน และที่ต้องบอกว่า “บ้า” อย่างสุดกู่ ก็คือผีสาวเข้าสิงรถสิบล้อแล้วทำให้รถสิบล้อพูดได้แถมร้องไห้ซิกๆ นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด กว่าจะได้ไอเดียนี้มา (อันนี้ไม่ได้แขวะนะครับ แต่ทึ่งจริงๆ ว่าคิดได้ไง)..” สรุปง่ายๆว่า..เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกสึกเสียดายตังค์มากกกกๆๆ ..และตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ดูหนังของค่าย Luck film อีกแล้ว

22.05.57

ไดอารี่ 23 May 201422 March 2020

บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ซะหน่อยเถอะ__ หลังจากเมื่อปี 2549 ที่บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุณยรัตน์กลินได้ยึดอำนาจจากทักษิณ ชินวัตร ครั้งนั้นเรียกเต็มปากว่า “ปฏิวัติ” แต่ครั้งนี้ยึดอำนาจโดยบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  แต่เรียกว่า “รัฐประหาร” แทน ปฏิวัติ (revoluton) หมายถึง การเปลี่ยนรูปแบบหรือระบอบการปกครองประเทศ จากรูปแบบหนึ่ง ไปสู่อีกรูปแบบหนึ่ง อย่างสิ้นเชิง เช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส (เปลี่ยนจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ)หรือ ในประเทศไทย ก็คือสมัย ร๗ ที่เปลี่ยนจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราช ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ) ส่วน รัฐประหาร(coup de ta) หมายถึง การใช้กำลัง เพื่อเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล โดยระบอบการปกครองยังคงเดิม เช่น การรัฐประหารสมัยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม หรือ สมัย พลเอก ชาติชาย ชุณหวัณ ซึ่งจะเห็นว่า เปลี่ยนแปลงเฉพาะคณะรัฐบาลเท่านั้น โดยที่ประเทศไทยยังคงระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเช่นเดิม เมื่อสองขั้วทางการเมือง คือ กปปส.(ประชาธิปัตย์) และ นปช. (เพื่อไทย) ต่างไม่ยอมกัน มุ่งจะห่ำหั่นให้ได้ซึ่งชัย โดยไม่คิดลดลาวาศอก หรือพบกันครึ่งทาง และหาข้อตกลงกันไม่ได้ ยิ่งยืดเยื้อยิ่งยากจะยุติ ประเทศชาติบอบช้ำครั้งแล้วครั้งเล่าจนยากจะเยียวยา  ทหารจึงออกมาทำหน้าที่อีกครั้ง โดยทหารเริ่มจากประกาศกฏอัยการศึก เพื่อเตือนทุกฝ่ายให้ยุติ แต่ดูเหมือนไม่มีใครเชื่่อในกฏนั้น และแล้วในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผอ.รส. กล่าวเสียงเข้มในที่ประชุมว่า คงปล่อยให้เกิดความขัดแย้งยืดเยื้อต่อไปโดยไม่มีทางออก จึงพร้อมทำทุกอย่างร่วมกับทุกเหล่าให้เกิดสันติสุขโดยเร็ว หวังว่าทุกท่านจะให้เกียรติกองทัพ และอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำทุกอย่างให้ดีขึ้น “สำหรับการประกาศกฎอัยการศึก เชื่อว่าขณะนี้คงเกิดข้อขัดแย้งในใจหลายฝ่าย แต่ขอให้เชื่อว่าผมได้ทำทุกอย่าง พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความสงบสุข ไม่ต้องคิดหรือกังวลแทนผม เพราะผมพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะถูกหรือผิด แต่ขอให้รู้ว่าที่ผมทำผมรับผิดชอบทุกประการ” ที่ผมทำเพราะผมเป็น คนที่เกิดในแผ่นดินนี้ และเป็นหนี้ในแผ่นดินนี้ ที่ผมจำเป็นต้องมามีส่วนร่วม เพราะผมรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก แต่ทว่ามันเกี่ยวข้องในหลายมิติ หากก้าวล่วงใคร ผมก็ขออภัยมา ใน โอกาสนี้ด้วย…

ปฏิวัติ รัฐประหาร
อ่านต่อ

ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่

ไดอารี่ 11 July 201611 July 2016

ถึงวันนี้(11/07/59) ผมก้าวเข้าสู่การวิ่งมาแล้ว 5 เดือน วิ่งต่อเนื่องทุกอาทิตย์ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 20 กิโลเมตร หากยังวิ่งแบบเดิมๆ ฝึกแบบเดิมๆ ก็จะได้ผลเท่าเดิม คือ วิ่งต่อเนื่องได้แค่ 10 กิโล มาถึงเดือนนี้ (กรกฏาคม) ซึ่งเป็นเดือนเกิดของผมเอง ตั้งใจว่าจะฝึกวิ่งทุกวัน อาจจะไม่ได้ถึง 10 กิโล แต่อยากให้ได้ความต่อเนื่อง เพื่อฝึกกำลังขา แต่พอเข้าเดือนกรกฏา ฝนก็ตกเกือบทุกวัน มีผลให้ความตั้งใจต้องล้มไม่เป็นท่า ถึงอย่างไร เมื่อมีโอกาสต้องรีบเข้าสู่โหมดความตั้งใจเดิมให้ได้ “ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปวิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข และนี่คือเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมา เราต้องดีขึ้นเรื่อยๆ

run วิ่ง ออกกำลังกาย

ทำบุญกันเถอะ

ไดอารี่ 29 June 2008

จำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้ไปทำบุญที่เป็นรูปเป็นร่าง เป็นจรืงเป็นจัง เคยแต่ทำบุญเล็กๆน้อยๆ โดยบังเอิญ เช่น มีซองผ้าป่ามาแจกในที่ทำงาน , ร่วมสมทบทุนสร้างห้องสมุด, สร้างโบสถ์ ฯลฯ ซึ่งนั่นเป็นบุญที่ผ่านเข้ามาโดยบังเอิญ อานิสงส์ของบุญที่ผ่านเข้ามาโดยบังเอิญนี้ ก็ใช่ว่าจะไ่ม่มี มีครับ แต่อาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยดีนัก เพราะบุญที่จะส่งผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั้น พระพุทธศาสนาสอนว่า ต้องประกอบด้วยเจตนาทั้ง ๓ คือ ๑. ปุพพเจตนา คือ เจตนาการแต่การทำบุญ มีความตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะทำบุญ ตั้งใจอย่างแน่วแน่ มีความสุขในเจตนาที่ริเริ่มจะทำบุญนั้น ๒. มุญจนเจตนา คือ เจตนาในขณะที่ทำบุญ มีความปีติ อิ่มเอมใจในการทำบุญ ไม่มีความตระหนี่ถี่เหนียว หรือทำโดยไม่เต็มใจ แต่ทำด้วยความรู้สึกดี ๓. อปราปรเจตนา คือเจตนาหลังจากทำบุญแล้ว หมายความว่าหลังจากที่ได้ทำบุญ ก็มีใจแช่มชื่น คิดถึงทีไรก็มีความสุขใจ เกิดศรัทธาเลื่อมใสในบุญอยู่ไม่หาย อุตส่าห์กล่าวอ้างเรื่องบุญมาในตอนตั้นมานั้น ก็เพื่อจะบอกว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมไปทำบุญมาครับ ไปทำบุญที่รพ.สงฆ์ รพ.สงฆ์เป็นรพ.ที่รักษาพระที่อาพาธครับ (อาพาธ แปลว่า ป่วย, ไม่สบาย) ถึงแม้การไปทำบุญครั้งนี้ เราไม่ได้เตรียมของไปเยอะแยะมากมาย แต่เจตนาที่่จะไปทำบุญครั้งนี้ เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่เมื่อวาน นั่นหมายความว่า เรามีปุพพเจตนาครับ ของที่ไปทำบุญนั้น ก็มีนม กับขนมปัง ไปถวายขณะที่พระท่านกำลังฉันเพล (ฉันเพล คือ การรับประทานอาหารมื้อกลางวันของพระ ซึ่งจะมีในเวลา ๑๑.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. เลยเวลานี้ไปห้ามรับประทานของขบเคี้ยว) เสร็จสรรพถวายไป ๒๑ รูป หลังจากถวายของเสร็จก็เดินเล่นรอบๆบริเวณรพ.นิดหน่อย มีข้อมูลหนึ่งน่าสนใจสำหรับหลายๆคนที่คิดจะแต่งงานครับ หลายคู่สมรสใช้รพ.สงฆ์เป็นที่แต่งงาน เพราะที่นี่มีแพกเก็จจัดงานแต่งให้ มีสถานที่อย่างดี พร้อมกันนั้นยังได้จัดพระสงฆ์มาร่วมพิธีทำบุญในงานแต่งด้วย สำหรับใครที่อยากแต่งงาน พร้อมทำบุญไปด้วย สถานที่นี่ก็น่าสนใจครับ ก่อนกลับแวะไปร่วมทำบุญกับเจ้าหน้าที่ด้วย งานนี้ได้บุญกันอื้อครับ ขอบุญรักษาทั่วหน้ากัน ~

ได้เวลา..เอาเลือดบ้าออก

ไดอารี่ 12 January 2010

หยุดเสาร์-อาทิตย์ กิจกรรมออกกำลังกายและงดมื้อเย็นของผมก็มีอันต้องหยุดไปด้วย ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าวันอาทิตย์นี้ จะไปบริจาคเลือดให้ได้ หลังจากปีที่แล้ว ไปแค่ครั้งเดียว และครั้งเดียวนั้นก็ถูกปฏิเสธจากสภากาชาดด้วยข้อหา “เลือดลอย”  ก่อนบริจาคเลือดจะมีกระบวนการวัดความดัน และเจาะเลือดตรวจก่อน หลังจากสูบเลือดจากปลายนิ้วเสร็จแล้ว เขาจะหยดแหมะลงในน้ำยาสีฟ้า ถ้าเลือดปกติมันจะดิ่งลงก้นขวดในทันที ถ้าเลือดจาง มันจะค่อยๆจม หรือไม่จมเลย ที่เราเรียกว่า “เลือดลอย” นั่นแหละครับ สาเหตุมาจาก นอนดึก พักผ่อนน้อย หรือเคยบริจาคเลือด แต่ไม่กินยาบำรุงเลือด ผมอยู่ในจำพวก ไม่กินยาบำรุงเลือดที่เขาาให้มา สาเหตุคือ ผมแพ้ยาวิตามินเม็ดสีแดงมันๆ หวานๆ นั่นอย่างรุนแรง ร่างกายจะสร้างปฏิกิริยาต่อต้น พะอืดพะอมจนจะอาเจียนพู่งปรี๊ดกลับมาทางเดิมให้ได้ ..อาการแพ้มันเกิดขึ้นเพราะผมอุตริเอง เมื่อสมัยบริจาคเลือดยุคแรกๆเมื่ออายุ 17-18 พอได้ยาบำรุงเลือดมา ก็กระดกหมดทั้งถุง ตั้งแต่บัดนั้นละครับ ผมเกลียดยานี้อย่างรุนแรง อย่าว่าแต่กินเลย เห็นหน้ายาก็เกิดอาการแล้วละ วันนี้ตั้งใจว่าจะบริจาคจริงๆ เย็นวันก่อนไปบริจาคเลยปฏิเสธแอลกอฮอลล์จากเพื่อนๆในงานแต่งจนสิ้น ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการบริจาคเลือดครับ ก่อนจะบริจาคเลือด นอกจากต้องนอนให้พอ กินอาหารให้อิ่ม ไม่กินยาพารา ยาแก้อักเสบแล้ว ภายในวันนั้นก่อนบริจาคเลือด ต้องอย่ากินอาหารมันๆ เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ฯลฯ วันนี้คนมาบริจาคเยอะพอสมควร เวลาบ่าย 2 โมงแล้ว คิวยังยาวเฟื้อย มีเทคนิคนิดหนึ่งสำหรับคนที่ไปบริจาคแล้ว พบว่ามีคิวยาวมาก แนะนำให้ว่า ก่อนกรอกรายละเอียดในการบริจาคเลือดให้ไปกดบัตรคิวก่อน กดบัตรคิวทั้งข้างบนและข้างล่าง คิวข้างล่างเพื่อเจาะตรวจเลือดวัดความดัน ส่วนคิวด้านบนเพื่อเจาะเก็บเืลือด เอาคิวทั้งสองที่มาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการบริจาค อาจจะช่วยให้เร็วขึ้นอีกนิดนึง เลือดผมค่อนข้างดี เร็ว และแรง อาจเพราะอั้นมาทั้งปี หลังจากไปนอนกำแบๆ แป๊บเดียว ก็เต็มกระปุกแล้ว เต็มก่อนคนที่เข้าไปก่อนซะอีก  วันนี้เจอพวกแปลกๆมาบริจาคเลือด แบกกล้องตัวใหญ่มาด้วย แล้วก็เที่ยวถ่ายทุกช็อตตั้งแต่ทางเดิน จนกระทั่งบันไดเลื่อน ถ่ายๆ พอตัวเองต้องนอนให้เลือด ก็ยังอุตส่าห์หยิบกล้องตัวใหญ่กระเตงถ่ายแขนตัวเองที่มีเข็มปักอยู่อย่างยากลำบาก.. ไม่รู้ถ่ายไปอวดใคร แต่เอาเถอะ..ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังได้บุญด้วย ผมก็ขออนุโมทนาด้วยคนน่ะ หลังจากบริจาคเลือดแล้วว่าจะเข้าไปกราบพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรฯ แต่วน 2 รอบ ยังหาที่จอดไม่ได้เลย แดดก็ร้อน รถก็เยอะ คนก็แยะ เลยถอดใจ วันหลังค่อยมาใหม่ละกัน…..

น้องหมา..ผู้น่ารัก

เรื่องทั่วไป 12 May 2010

สมัยเด็กๆ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของผม คือ หมา น้องหมาสมัยเด็กของผม ก็เป็นหมาบ้านธรรมดาทั่วไป ข้างบ้าน หรือเพื่อนมีลูกหมาคอกใหม่ก็ขอเขามาเลี้ยงตั้งแต่มันยังเด็กเล็ก เลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน ทำบ้านเป็นกล่องกระดาษให้มันนอน พอรุ่งเช้าชีวิตเด็กบ้านนอกที่มีสัตว์เลี้ยงวิ่งตามอย่างซื่อสัตย์ช่างเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ด้วยพื้นที่เลี้ยงก็กว้าง ที่วิ่งเล่นก็เยอะแยะมากมาย  มีข้อห้ามเพียงนิดเดียวสำหรับคนเลี้ยงหมา คือ ห้ามเลี้ยงหมาให้ดุกัดคนอื่น หรือกัดสัตว์เลี้ยงอย่างเป็ด หรือไม่ มิฉะนั้น น้องหมาผู้น่ารักจะถูกวิสามัญ และผู้เลี้ยงอาจถูกปรับ หากมันไปกัดเป็ด ไก่ หรือกัดใครเข้า ตั้งแต่เลี้ยงมา น้องหมาของผมก็ไม่เคยเกเร กัดเป็ด กัดไก่ หรือกัดใครให้เจ้าของเดือดร้อน มันทำหน้าที่เฝ้าบ้านอย่างดี และคอยไปไหนมาไหนกับเราด้วยอย่างซื่อสัตย์ .. วันเวลาผ่านไป ผมได้ย้ายถิ่นฐาน  ปัจจุบันมาใช้ชีวิตอยู่กลางเมืองหลวง  ก็ให้หวนรำลึกถึงเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ในวัยเด็ก ผมอยากเลี้ยงหมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะเลี้ยงหมาอย่างเมื่อในอดีตไม่ได้อีกแล้ว เพราะพื้นที่และภูมิประเทศไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อตะก่อนตอนเด็ก ..แน่นอน คนกรุงเทพฯนิยมเลี้ยงหมานอก อย่างชิสุ พุดเดิ้ล ปอมฯ ชิวาวา ฯลฯ ซึ่งหมานอกเหล่านี้ก็แพงแสนแพง ซื้อมาแพงไม่พอ อาหารการกินของมันก็แพงกว่าอีก ..จากที่เคยคิดอยากจะเลี้ยงก็ต้องมาคิดหนัก แต่จะอย่างไร ก็คิดๆอยากเลี้ยงไว้สักตัวเหมือนกัน …มองน้องชิสุ น้องปอม  หรือไม่ก็น้องชิวาวาไว้  กำลังมองที่ถูกใจ และถูกราคาอยู่ หากใครมีช่วยแนะนำสักตัวด้วยนะครับ ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง จะดูแลและรักมันอย่างดีครับ ไว้ถ้ามีน้องหมาจริงๆ จะเอามาแนะนำให้รู้จักกันอย่างทั่วหน้า..นะ วันนี้เอาน้องหมาเทศมาให้ดู เพื่อเรียกน้ำย่อยความน่ารักซะก่อน

สุนัข หมา

หลุด4เหี้ย

เรื่องทั่วไป 26 June 2011

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม.. หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง” หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย

หลุด4หลุด
อ่านต่อ

KMUTNB Run Walk 2017

วิ่ง, สุขกะภาพ 21 August 20172 November 2017

เป็นรายการวิ่งที่พลาดเมื่อปีที่แล้ว เพราะตรงกับรายการวิ่งบนทางด่วนศรีรัช ปีนี้เลยบอกน้องที่หมู่บ้านไปว่า ถ้าหาเบอร์วิ่งได้หาให้ด้วย และเมื่อถึงวันวิ่งน้องก็หามาให้จนได้สมใจ

อ่านต่อ

เที่ยวน้ำตกโกรกอีดก

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 October 202213 October 2022

นอนเต๊นท์เล่นน้ำตก

กางเต๊นท์ น้ำตกโกรกอีดก โป่งก้อนเส้า

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH