Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

Month: June 2011

สาย อ่านต่อ

สาย

บ่น 27 June 2011

เช้าวันจันทร์..ไม่เข้าใจว่าทำไมรถต้องติดเฉพาะวันจันทร์ ติดมากด้วย.. วันนี้รถติดจนปวดหัว..เผลอหลับบนรถยังฝันร้ายอีก..สะดุ้งตื่นขึ้นมามองไปข้างหน้า รถยังติดแน่นเหมือนเดิม อยากจะบ้าตาย!!

หลุด4เหี้ย อ่านต่อ

หลุด4เหี้ย

เรื่องทั่วไป 26 June 2011

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม.. หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง” หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย

หลุด4หลุด
อ่านต่อ

ทุ่งหญ้า..ป่าเขียว

บ่น 25 June 2011

ป่า เขา ทุ่งหญ้า ต้นไม้ ไม่ว่าจะที่ไหนก็น่าดูชมและสวยเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องปรับแต่ง ธรรมะก็คือธรรมชาติ พยายามเข้าใจธรรมชาติก็เท่ากับพยายามเรียนรู้ธรรมะ

ลั่นทม..หลังบ้าน อ่านต่อ

ลั่นทม..หลังบ้าน

บ้านบ้าน 25 June 2011

เห็นว่าวันนี้อากาศดี เลยจะพาไปนั่งเล่นที่ระแนงหลังบ้านซะหน่อย.. บ้านทาวน์โฮมทั่วไปเกือบทุกหลังจะตีหลังบ้านทึบทำเป็นครัว เพราะบ้านมีพื้นที่น้อย แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น รู้สึกมันอึดอัดเกินถ้าจะปิดหลังบ้านทึบ เลยตีพื้นระแนงด้วยไม้สมาร์ทวูด และตีระแนงที่กำแพงให้สูงขึ้นอีกหนึ่งเมตร เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆน้อยๆ ..ต้นลีลาวดีหรือชื่อเก่า “ลั่นทม” สองต้นซ้ายและขวานั้นได้อานิสงส์จากบ้านคุณเกลือ เห็นว่าเป็นพันธ์สามกษัตริย์คือมีดอกสามสี..ไม่พอเท่านั้นครับ หลังบ้านจะจืดไป จัดการละเลงสีเข้าไปตามใจชอบ อยากได้สีอะไรก็เทกันเข้าไป ตั้งใจว่าถ้าสีเก่าลอก จะทาสีใหม่ให้แซ่บกว่านี้ ถ้าเบื่อหน้าบ้านที่เป็นสวนสาธารณะก็จะแอบมานั่งในพื้นที่ส่วนตัวหลังบ้านได้ ‘ว่างๆก็เชิญนะครับ’

บ้าน ระแนง
โชคดีที่เป็นหมา อ่านต่อ

โชคดีที่เป็นหมา

ไดอารี่ 25 June 2011

จะดีก็ดี จะไม่ว่าไม่ดีก็ไม่รู้จะใช่หรือเปล่านะครับ ‘จิ๊กกี๋’ ยามสุภาพสตรีสีดำประจำบ้านที่ผมได้แนะนำให้รู้จักในบล็อกก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอซึมๆไป ผมได้พาไปให้หมอเจาะตรวจเลือด..ปรากฏผลออกมาว่า เธอเป็นโรค ‘ไต’ ระยะที่ 3  (โรคไตมี 4ระยะ) ระยะที่สามถือว่าเป็นระยะที่อันตรายพอสมควร จึงไม่แปลกใจที่เธอมีอาการซึมอย่างเห็นได้ชัด หมามันพูดไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง มันรู้แต่ว่าเมื่อไม่สบายตัว มันก็จะไม่สนุกสนาน ไม่เล่น ไม่ร่าเริง ซึ่งจากอาการเหล่านี้ถ้าคนที่สนใจหมาสักนิ๊ดก็จะรู้ทันทีว่ามัน “ไม่ปกติ” จากการสันนิษฐาน จิ๊กกี๋เป็นโรคไตเพราะ 2 สาเหตุหลัก คือ 1. อาหาร อาหารที่มีรสจัดมาก ถูกปากหมาแต่ไม่ถูกต่อโรค 2. อั้นฉี่ น่าจะเป็นสาเหตุหลัก จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในรั้วบ้าน และนั่นหมายความว่ามันจะมีโอกาสได้อึฉี่วันละสองครั้งเท่านั้น คือ เช้ากะเย็น ก่อนผมออกไปทำงานและหลังผมเลิกงาน ยิ่งกว่านั้นจิ๊กกี๋เคยอั้นฉี่นานสุด 3 วัน!!! หลังจากนี้ก็เข้าสู่การรักษาตัว หมอบอกว่ามีโอกาสที่หายได้ แต่ต้องมีวินัยในการกินอาหาร กินยาอย่างสม่ำเสมอ และ..ต้องให้น้ำเกลือทุกวันๆละ 300 ซีซี เรื่องอาหารและยาไม่ยากเท่าไร ถึงแม้มันจะเคยบ้วนยาทิ้งก็ตาม แต่ก็สามารถบังคับขืนใจให้มันกินไปจนได้ แต่การให้น้ำเกลือถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม หมอได้ทำตัวอย่างให้ดู ก็เห็นว่าไม่ยาก เพราะแค่เจาะเข็มให้เข้าสู่ผิวหนัง หมาไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดขืนแต่อย่างใด ..ดังนั้น ผมคิดว่าผมทำได้ เมื่อวานลองทำเป็นครั้งแรก..อืมมม ก็ไม่ยากเท่าไร ได้อยู่ จิ๊กกี๋เป็นโรคไตระยะที่สาม ถ้าเป็นคนก็คงจะเครียดพอสมควร แต่นี่เป็นหมา ข้อดีของการเป็นหมาคือมันไม่ต้องรับรู้หรอกว่ามันเป็นโรคอะไร เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ต้องเครียด ซึ่งการไม่เครียดนี่เองมีผลดีต่อตัวหมามาก จะเห็นได้ว่าหลายๆคนพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคโน่นโรคนี่ อาการของโรคยังไม่ได้กำเริบเท่าไร แต่อาการเครียดจิตจับจดอยู่กับโรคจนอาการทรุดกว่าที่ควร พอมานั่งคิดข้อนี้ก็จึงมานั่งคิดว่า.. “อืมม เป็นหมานี่ก็ดีเหมือนกันนะ”

จิ๊กกี๋ ไต
อ่านต่อ

ฉึก ฉัก

บ่น 22 June 2011

ฉึก ฉัก ฉึก ฉัก อยากนึกทักรถไฟ
กี่ปีผ่านล่วงไป รถไฟ..ยังคงเหมือนเดิม เก่า แก่ คร่ำคร่า เวลาไม่ตรง..

รถไฟ
เธอชื่อ "จิ๊กกี๋" อ่านต่อ

เธอชื่อ "จิ๊กกี๋"

ไดอารี่ 21 June 2011

ถูกเอ่ยชื่อถึงในบล็อกก่อนหน้านี้ วันนี้เลยพามาแนะนำให้รู้จักซะหน่อย เธอชื่อจิกกี๋ ดูจากสารรูปภายนอก หลายคนนึกว่าเป็นเพศชายครับ แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นสุภาพสตรี ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน จิ๊กกี๋เกิดในตระกูลหมาข้างถนน แม่จิ๊กกี๋เป็นหมาจรจัดหาเช้ากินค่ำข้างถนน ส่วนพ่อไม่ปรากฏนาม ถามแม่จิ๊กกี๋ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เธอเอาแต่ร้องไห้ ดูท่าว่าถ้าปล่อยจิ๊กกี๋ไว้กับแม่ อนาคตคงไม่สดใสนัก นกจึงรับมาอุปการะไว้ และนับตั้งแต่นั้นจิ๊กกี๋ก็มีปลอกคอ มีชาติตระกูล มีบ้านให้หวง และมีเจ้าของให้รัก เมื่อครั้งที่นกต้องย้ายจากบ้านเดิม คือประชาชื่น 44 จิ๊กกี๋ไร้คนดูแลถูกปล่อยอย่างอดๆยากๆ ครั้งหนึ่งมันเคยหลงทางออกจากบ้าน 3 วัน ทุกคนนึกว่ามันคงถูกรถชนหรือไม่ก็อดอาหารตายไปแล้ว แต่แล้วเช้าวันหนึ่งขณะที่รถติดเป็นแถวยาวตรงสี่แยกงามวงศ์วาน จิ๊กกี๋วิ่งตุปัดตุเป๋ข้างถนน นกเห็นดังนั้น จึงรีบเปิดประตูรถวิ่งไล่จับจิ๊กกี๋ท่ามกลางความแปลกใจของคนในสี่แยก วันนี้จิ๊กกี๋ได้ย้ายมาอยู่บ้านใหม่กับเรา ณ พฤกษาทาวน์ ราชพฤกษ์ มันใช้เวลาเกือบเดือนเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ และเพื่อนใหม่ๆ บ้านใหม่แห่งนี้ดีกว่าบ้านเดิมเพราะมีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น แม้จะวิ่งเล่นได้เพียงวันละ 2 ครั้งก็ตาม จิ๊กกี๋ไม่อึ ไม่ฉี่ในบ้าน ครั้งหนึ่งที่เราไปต่างจังหวัด 3 วันและผูกจิ๊กกี๋ไว้ในบ้าน จิ๊กกี๋ไม่ยอมอึหรือฉี่เลย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเธอ คือ กลัวฟ้าร้อง ฟ้าแล่บและฝนตกมาก ถ้าแม้มีฟ้าแล่บหรือฝนตกแต่เพียงนิดเดียวมันก็จะทุบประตูเพื่อขอเข้ามาหลบฝนในบ้าน ทั้งๆที่ในโรงรถก็หลบฝนได้ จะทุบจะตียังไงจิ๊กกี๋ก็ยอม เพื่อแลกกับการได้เข้าในบ้าน จิ๊กกี๋ผ่าใบหูสองครั้ง และนี่เป็นครั้งที่สองที่หูอักเสบเกิดจากการสะบัดหูจนเส้นเลือดฝอยแตก ทำให้เลือดคั่ง ครั้งนี้จิ๊กกี๋มีอาการผิดปกติ ซึมจนเราตกใจ ได้แต่หวังว่าสักวันจิ๊กกี๋จะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม.. เราไม่สามารถตัดสินใจคนจากภายนอกได้ แต่สามารถตัดสินจิ๊กกี๋จากแววตามันได้ เมื่อคืนเห็นแววตาใสซื่อและน่าสงสารของมัน แสดงว่ามันรักคุณเข้าแล้ว  

จิ๊กกี๋
แผลงกิ้ง อ่านต่อ

แผลงกิ้ง

บ่น 19 June 2011

แพลงกิ้งคือการถ่ายรูปในท่าโคตรอัปปมงคลคือนอนคว่ำหน้า ตาและตัวแข็งราวคนตายแล้ว จะให้ดีต้องถ่ายในที่ต่างๆยิ่งที่ประหลาดแค่ไหนยิ่งดี ดูๆแล้วมันก็ไม่น่ามีอะไรแปลกใหม่ ก็แค่ถ่ายรูปแล้วมาโพสต์โชว์กัน ซึ่งเราทำกันมาแล้วตั้งแต่ยุคแรกๆที่อินเทอร์เนตเข้าสู่บ้านเรา ยังจำกันได้ไหม? เว็บเจาะแจะ, เว็บสนุก, เว็บหรรษา หรือเว็บเอ็มไทย ฯลฯ ที่ให้เอารูปไปลงแล้วให้โหวตกัน มันมีมานานแล้วนะ นานมาก ยุคนี้พ.ศ.นี้ เราไม่โหวตรูปกันแล้ว เขากำลังเห่อ “แพลงกิ้ง” .. [อ่านต่อ(ถ้าอยากอ่าน)]

พระ แพลงกิ้ง
ทองขาว อ่านต่อ

ทองขาว

ไดอารี่ 18 June 2011

หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่คือ “พฤกษาทาวน์” อยู่ถนนราชพฤกษ์และเป็นโครงการของพฤกษา บริษัทที่สร้างบ้านเยอะที่สุดและมีเรื่องให้พูดถึงในแง่ลบเยอะที่สุดเช่นกัน บ้านผมเป็นทาวน์โฮมครับ ถ้านึกภาพไม่ออกว่าทาวน์โฮมเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงทาวน์เฮาทส์ ต่างแต่ว่าทาวน์โฮมสร้างไว้สำหรับอยู่อาศัยเป็นหลัก แต่ทาวน์เฮ้าสท์สร้างไว้ขายของและนิยมปลูกริมถนนใหญ่ แน่นอนทาวน์โฮมก็มีบ้านติดๆกันใช้กำแพงและฝาบ้านร่วมกัน ข้างบ้านผมเป็นคุณลุงคุณป้าวัยเกษียณใจดีทั้งคู่เอ็นดูเราเป็นลูกเป็นหลาน บ้านเราเลี้ยงหมาไทย แต่ชื่อฝรั่งชื่อจิกกี๋ ตัวสีดำ ส่วนลุงกะป้าเลี้ยงหมาบางแก้ว ชื่อไทยๆว่า “ทองขาว” แน่นอนตัวขาวอวบ ทั้งสองไม่ใช่เพื่อนรักกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียดกันมีคำรามใส่กันบ้างบางครั้ง ทองขาวอายุมากกว่าจิ๊กกี๋ 2  ปี ทั้งสองตัวแม้จะมีสีต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันมากนั่นคือ ความหวงบ้านและรักเจ้าของ ทุกครั้งที่มีใครมา ไม่ว่าจะเป็นหมาด้วยกันหรือคนแปลกหน้าผ่านมาหน้าบ้าน ทั้งสองจะกระโจนเห่าแสดงท่าทีดุร้ายใส่ทันที ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงต้องถูกล่ามไว้ในยามเจ้าของไม่อยู่ ทองขาวกับจิ๊กกี๋พึ่งย้ายมาอยู่บ้านนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสองไม่ได้โตที่นี่ แต่ก็รักและหวงแหนที่นี่มาก ก่อนหน้านี้หน้าบ้านลุงกะป้าเป็นพื้นดิน ทองขาวจึงมาอาศัยอยู่หน้าบ้านได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าบ้านได้ถูกปรับปรุงเป็นพื้นระแนง ทองขาวจึงถูกจำกัดพี้นที่ให้อยู่จำเพาะข้างบ้าน และนับตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอและไม่ค่อยได้ยินเสียงทองขาวอีกเลย ใครจะรู้เล่าว่าเราไม่มีโอกาสได้ยินเสียงมันอีกแล้วตลอดไป ทองขาวมีโรคแทรกซ้อนประกอบกับกำลังก้าวสู่วัยชรา เมื่อคืนนี้หลังจากลุงกับป้ากลับจากทำธุระนอกบ้าน พบว่าทองขาวได้นอนสิ้นใจแล้ว นับจากนี้หน้าที่ดูแลบ้านทั้งสองหลังคงมอบหมายภาระหน้าที่ให้แก่จิกกี๋แต่เพียงผู้เดียว ปล.ภาพประกอบจากFlickr

จิ๊กกี๋ ทองขาว
1 2
อ่านต่อ

6 ปี ทีวีบูรพา

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 13 July 200823 June 2019

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปร่วมงานของทีวีบูรพา 6 ปีทีวีบูรผา ผู้เริ่มจุดต่าง ผู้สร้างจุดเปลี่ยน เดินทางจากคลองตัน เป้าหมายงานอยู่ที่ JJMal ไม่เคยไปเหมือนกัน แต่อยู่แถวๆจตุจักร ก็ไม่น่าจะยาก ผมนั่งเรือจากคลองตัน ไปขึ้นที่ท่าเรืออโศก แล้วลงใต้ดินนั่งMRT สถานีเพชรบุรีโผล่ที่สถานีกำแพงเพชร กำแพงเพชรมี 3 ทางออกนะครับ 1. ทางออกไปอตก.3 2.ทางออกถนนกำแพงเพชร 3.ทางออกสวนจตุจักร ถ้าออกถนนนกำแพงเพชร จะมีมอไซต์รับจ้างพาไปเจเจมอลล์ 20 บาท หรือจะเดินไปเองก็ไม่ไกล ประมาณ 2 ป้ายรถเมล์ ถ้าโผล่สวนจตุจักรก็เดินไปได้ใกล้กว่าหน่อย แต่หาทางเดินไปยาก อาจหลงอยู่ในเจเจทั้งวันได้ ผมเลือกออกทางถนนกำแพงเพชร และเดินไปแทนที่จะนั่งมอไซต์รับจ้าง แม้จะเป็นครั้งแรกที่มาเจเจมอลล์ แต่ก็ไม่ได้ยากอะไรสำหรับการเดินขึ้นห้างไปในงาน งานเขามีอยู่ที่ชั้น 6-7 ครับ เดินหาบันไดเลื่อนยากหน่อย เพราะบันไดเลื่อนอยู่ด้านนอกห้าง อยู่ฝั่งที่จอดรถ และพอโผล่ไปในชั้นที่ 6 ก็จะพบกับงาน.. มีหลายซุ้ม บนเวทีก็มีการแสดงของบรรดาผู้ที่เคยออกรายการฅนค้นฅน ในภาพล่างขวาสุด คือ วงนกแล เล่นดนตรีสนุก น่ารักมากครับ วันนี้นกแลต้นฉบับ คือ นกแลรุ่นแรกๆ ไอ้หนุ่มดอยเต่า มาด้วยครับ มีบอร์ดชื่อเก๋ไก๋ ฅนคอเดียวกัน สำหรับแสดงความคิดเห็น ความรัก ที่มีต่อ TVB จำลุงคนนี้ได้ไหมครับ (คนเสื้อขาว ก้มหน้าหน้าสุดนะครับ ไม่ใช่ไอ้หัวฟูหลังโน่น) แกชื่อลุงเสรี ออกอากาศเมื่อต้นๆปี ออก 3 ตอนรวด เรื่องราวของแกน่าสนใจมากครับ ถ้าใครได้ดู จริงๆวันนี้คนที่เคยออกในรายการ ฅนค้นฅนมาเยอะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาทุกคน ซาไกก็มานะ แต่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป และคนที่จะไม่ถ่ายไม่ได้เลย พี่เช็ค เจ้าของโปรเจ็คทั้งหลายทั้งปวง ที่เห็นเบลอด้านหลังทั้งซ้ายขวานั่น ไม่ใช่วิญญาณนะครับ เนื่องจากพี่เช็คฮ็อตมาก มีคนมาประกบถ่ายคู่ตลอด ผมก็จนใจที่จะรอให้พี่แกยืนว่างๆคนเดียว จำเป็นต้องถ่ายมาด้วย เป็นใครไม่รู้.. เดินงานนี้ได้เสื้อ กบนอกกะลาสีชมพูมาตัวเดียว งานจัดได้น่ารักดี มีชีวิตชีวา และสนุกดีครับ

ทีวีบูรพา

ไม้ม้วน ไม้มลาย

เรื่องทั่วไป 4 August 2008

วันก่อนมีปัญหาถกกันในแผนก เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย เพื่อนคนหนึ่งใช้ภาษาไทยคำว่า “ไว้” ใช้เป็น “ใว้” ตลอด (ไม้มลาย เป็นไม้ม้วน) และยืนยันว่าตัวเองถูก ผมจึงแนะนำไปว่า “ไม้ม้วนนะ มีแค่ 20 คำ ท่องผู้ใหญ่หาผ้าใหม่..ได้มั้ย ถ้าท่องได้ ท่องให้จบ นั่นคือไม้ม้วนทั้งหมดที่มีใช้ ถ้านอกเหนือจากนั้น ถือเป็นไม้มลาย” มันก็อุตส่าทบทวน แล้วมาคัดค้านกับผมใหม่ว่า คำว่าไว้น่าจะเป็นไม้ม้วนนะ เพราะมันมีในบทผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ด้วย.. ผมก็ เฮ้ย..มันมีด้วยเหรอ ท่องมาแต่เด็ก ไม่ยักจะเคยได้ยิน ไหนลองว่าให้ฟังสิ มันก็เริ่มเลยครับ.. “ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ใว้ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ..นี่แหละๆๆ ตรงหาผ้าใหม่ใว้นี่แหละ เห็นมั้ยๆ มันมีจริงๆด้วย” มันหน้ามึนมาก ท่องมาได้ ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ไว้ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ..วันนี้ก็เลยหาหาบทดังกล่าวมาอ้างอิง เดี๋ยวนี้ใช้ผิดกันเยอะครับ ภาษาไทย เขียน/ใช้ให้ถูก จะได้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอีกนานเท่านาน.. ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่  ให้สะใภ้ใช้คล้องคอใฝ่ใจเอาใส่ห่อ  มิหลงใหลใครขอดูจะใคร่ลงเรือใบ  ดูน้ำใสและปลาปูสิ่งใดอยู่ในตู้  มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียงบ้าใบ้ถือใยบัว  หูตามัวมาใกล้เคียงเล่าท่องอย่าละเลี่ยง  ยี่สิบม้วนจำจงดี   วันเดียวกัน อีกคนถามผมเกี่ยวกับภาษาไทย (อย่างกับผมเป็นอาจารย์ภาษาไทยอย่างนั้นแหละ ไม่ใช่นะครับ แต่ตอบได้เท่าที่รู้) ถามมาว่า “คำว่าสังเกตเนี่ย สระอุ ไว้ใต้ ต.เต่า หรือ ก.ไก่ ดี” ใครรู้ช่วยตอบผมทีครับ ถ้าถามว่า คำว่าสังเกต มีสระอุ หรือไม่มี ยังจะพอแก้ไขได้ ถามมาแบบนี้ อาการหนักครับ

สุดเขต..สเลดเป็ด

บ้านบ้าน, เรื่องทั่วไป 23 January 201128 October 2015

ไม่ได้ดูหนังในโรงนานพอสมควร 1.ไม่มีเวลา 2. ไม่มีเงิน 1. ไม่มีเวลา ก็น่าจะจริง การดูหนังมันต้องเข้าไปดูในโรง นั่งรถไป รถก็ติด..เสียเวลา ไปถึงห้างจองตั๋วดูหนัง ใช่ว่าถึงปุ๊บ จะได้ดูหนังปั๊บ ต้องรออย่างน้อยๆ 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วระหว่างนั้นทำอะไรละ เดินดูของ กินข้าว เสียเวลาและเสียตังค์ ในห้างมีของวางเรียงรายล่อกิเลสเรามากมาย ไม่ควักตังค์ซื้อบ้างถือเก่งโคตร 2.ไม่มีเงิน เงินสำหรับดูหนังนะมี แต่ไม่มีเงินสำหรับกิจกรรมระหว่างรอดูหนังและค่าโดยสารสำหรับไปดูหนัง!! ที่ผ่านมาก็เลยอาศัยดูหนังแผ่นจากร้านเช่า ถูกดีแผ่นละ 20 แต่ต้องรีบไปคืนภายใน 1 วัน!! ก่อนหน้าจะดูหนังในโรงครั้งล่าสุดนี้ ดูหนังแผ่นเรื่อง “กวน มึน โฮ” เป็นหนังไทยจากค่าย GTH ที่อยากดูตั้งแต่เข้าโรง แต่ติดปัญหาจาก 2 ข้อข้างต้น พึ่งได้ดูแผ่นก็ชอบ สนุก จนอยากจะดูซ้ำ แต่ยังไม่ได้ดู เพราะเช่ามาวันเดียว ดูได้รอบเดียวก็ต้องรีบเอาไปคืน เดี๋ยวเขาปรับ!! ล่าสุดดูหนังในโรงเรื่อง สนุกแบบไม่หยาบคาย ไม่ตลกพร่ำเพรื่อ แอบมีแง่คิดเล็กๆ ไม่ต้องมาก คนดูไม่ชอบหนังที่ต้องขบคิดเยอะชีวิตมันเครียดพอแล้ว ถ้าเข้าไปดูหนังแล้วต้องนั่งคิดตีโจทย์เหมือนหนังเรื่อง inception ก็ไม่ไหว เครียด ปวดหัว งง เหี้ย ห่าอะไรไม่รู้ ดูจบแล้วต้องมานั่งคิดต่อ แต่ก็ยังไม่หายงง หลายซีนในหนังเรื่องนี้มีแอบจิก กัดแบบน่ารักๆ การจิกกัดทำนองนี้เมื่่อก่อนเป็นแนวถนัดของยุทธเลิศ แต่ตอนหลังๆเฮียแกทิ้งไป หนังของแกแต่ละเรื่องเลยดูไม่จืด ไม่สนุก และไม่ใช่(สำหรับผม)อีกต่อไป ความเห็นสำหรับ..หนังเรื่องนี้ – ไหนว่าเป็นผู้ชายนับ 3 เจอนางเอกมากกว่า 3 ครั้ง แต่ยังพูดมาเต็มปากกว่า 3 ครั้ง – การจีบหญิงแบบพระเอก ก็แนวดีอยู่หรอก แต่ใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ – คนหน้าตาเหี้ยๆ ถึงไปบอกหญิงว่าใจโคตรหล่อ เขาก็ไม่เชื่อหรอก จริงๆ – ชอบที่นางเอกบอกว่าไม่ชอบดูหนังภาคต่อ แต่ชอบดูเรื่องใหม่ (ความคิดนี้ใช้ได้กับเรื่องคนเหล็ก 3 ภาคต่อทำได้ห่วยแตก…

ซ่อมคอม

เรื่องทั่วไป 28 April 2011

ป้าข้างบ้าน : เจตป้าอยากให้ช่วยซ่อมคอมฯให้หน่อย พอซ่อมได้ไหม ผม : ต้องดูก่อนครับ ว่ามันเป็นอะไรมากมั้ย? ป้าข้างบ้าน : ไม่ได้เปิดใช้นานแล้ว เห็นว่าตั้งอยู่เฉยๆ ช่วยดูให้หน่อยนะ ผม : ได้ครับ แต่คอมฯมันเป็นอะไรเหรอครับ ป้าข้างบ้าน : มันไม่มีจอ ผม : ..

ขำขำ ซ่อมคอม
อ่านต่อ

จิ๊กกี๋ในวัย 70 กะรัต

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 23 September 20163 November 2017

เข้าสู่วัย 10 ขวบแล้วสำหรับจิ๊กกี๋ ถ้าเป็นคนก็เริ่มเข้าสู่วัย 70 นิสัยเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขี้อ้อน ขี้กลัว กลัวฝนกลัวฟ้าร้องกลัวฝนตก สายตาเริ่มพร่ามัว มองไกลๆไม่ค่อยเห็นตามประสาหมาสูงอายุ แต่ยังเป็นหมาที่กินยาก ฉี่ยาก อึยากเช่นเคย เอาภาพมาอัพเดตไว้เท่านี้แหละ

จิ๊กกี๋

เมืองต้องคำสาป

เรื่องทั่วไป 8 March 2010

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ..ร้อนขนาดอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันเช็ดตัว ตัวก็เกือบแห้งแล้ว แอร์คอนดิชั่นแต่ละบ้านทำงานหนักเป็นพิเศษ ทำความเย็นให้บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ขณะเดียวกันมันก็ระบายความร้อนให้โลก คนกลุ่มเล็กๆเย็นสบายนอนห่มผ้าหนาๆหลับฝันดี ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ร้อน โลกก็ร้อน!! ไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยแล้วนะครับ สำหรับเรื่องโลกร้อน หลายคนพยายามผูกให้เข้ากับคำทำนาย(ของใครไม่รู้) ที่บอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 มีภาพยนตร์หลายเรื่องทำออกมาเขย่าขวัญกันอีก เพิ่มความน่าเชื่อถือของคำทำนายดังกล่าวมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอ ขณะนี้ทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์แปลกประหลาดของธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เริ่มตั้งแต่.. แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่เฮติ.. แผ่นดินไหวที่ชิลี.. แผ่นดินไหวที่ตุรกี.. น้ำท่วมที่อเมริกา.. โคลนถล่มในอีกหลายประเทศแถบตะวันออกกลาง.. ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย.. ซึนามิถล่มที่อินโดนีเซีย.. น้ำในแม่น้ำโขงแห้งที่สุดในรอบ 30 ปี.. …ฯลฯ….. ตอนนี้นานาประเทศกำลังตกใจต่อวิกฤตการณ์เหล่านี้มาก ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนอีก  หลายๆประเทศตกอกตกใจและเริ่มคิดถึงแนวทางแก้ไข รวมถึงการป้องกันและการเตรียตัวรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้.. เวลาเดียวกันกับที่นานาประเทศกำลังเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตการณ์นี้ ประเทศไทยก็เตรียรับมือเหมือนกัน แต่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือวิกฤตการณ์ธรรมชาติอะไรหรอกนะครับ..เตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์คนไทยด้วยกันนี่แหละ…เห็นชาติโน้นชาตินี้เขาประสบปัญหากลัวจะน้อยหน้า ก็เลยสร้างปัญหาขึ้นซะเองเลย.. แม้ตอนนี้นักเรียนจะปิดเทอมแล้ว  แต่เราก็มีกีฬาสีให้ชม..มหกรรมกีฬาสีทำลายชาติกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วในไม่กี่วันข้างหน้า ชาวประชาตื่นเต้นจนตัวสั่น ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้เป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยง พี่ป้าน้าอาพ่อเฒ่าแม่เฒ่าในชุดสีแดงต่างไม่หวั่นไหวต่อความร้อนแรงแห่งแดด แดดจะร้อนเท่าไรหากเทียบกับใจที่ร้อนแทบระเบิดเมื่อนายใหญ่ถูกยึดทรัพย์ไปกว่าครึ่ง ..แค้นครั้งนี้ต้องมาชุมนุม เมื่อครั้งในอดีตชาวบ้านบางระจันรวมกันด้วยพี่ป้าน้าอาทั้งหญิงชาย รวมผนึกกำลังเพื่อป้องกันดินแดนเกิดจากอริศัตรูคือพม่ารามัญ ครั้งนั้นชาวบ้านบางระจันไม่อาลัยในชีวิตหากเทียบกับผืนแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ ยามสละเลือดแลชีวิตเพื่อต้านพม่า วีรกรรมครั้งนั้น ทำให้อนุชนรุ่นหลังรำลึกถึงและกล่าวขวัญกันสืบมาจนปัจจุบัน.. หวนกลับมาถึงพี่ป้าน้าอาในชุดสีแดงในปัจจุบัน… ชาวบ้านบางระจันหันหน้าออกนอกประเทศ หันหลังให้แผ่นดินมาตุภูมิ เตรียมประจัญกับข้าศึก.. กลุ่มเสื้อแดงหันหลังออกนอกประเทศ หันหน้ามาสู่แผ่นดินเกิด..เตรียมประจัญหน้ากับคนไทยด้วยกันเอง.. เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเขมรแบ่งกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ฆ่าฟันกันเอง มีคนตายเป็นล้าน เรามองเพื่อนบ้านแล้วพูดว่า “ประเทศเขมรเหมือนถูกสาป คนในชาติต้องมาฆ่ากันเอง” มาวันนี้..เรายังจะกล้าพูดประโยคเดิมได้อีกหรือไม่นะ ฤๅคำสาปมันเดินได้  ..มันกำลังเดินมายังประเทศไทยแล้ว

อ่านต่อ

โดดเดี่ยว..เที่ยวภูเขาทอง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 November 200823 September 2016

ตั้งใจมาหลายวันแล้วว่าวันนี้ จะไปบริจาคเลือด !! นับเป็นครั้งที่  35 แล้ว ภูมิใจเล็กน้อย เมื่อกล่าวถึงจำนวนครั้ง บริจาคครั้งละ 400 ซีซี ถึงวันนี้ผมบริจาคเลือดไปแล้ว 14,000 ซีซี น่าจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไม่น้อย แม้ไม่รู้ว่าใครได้เลือดผมไป แต่ทุกครั้งที่มีคนได้เลือดผม นั่นคือชีวิตของเขา และบุญของผม การให้โดยไม่หวังคืนเช่นการบริจาคเลือดนี้ เปรียบเหมือนแม่ที่ให้ทุกอย่างแก่ลูก โดยไม่หวังสิ่งใดๆจากลูกเลย เราไม่รู้เลยว่าใครได้เลือดเราไป เช่นเดียวกัน พ่อแม่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อลูกโตแล้ว จะให้อะไรแก่พ่อแม่บ้าง วกมาถึงการเดินทางไปบริจาคเลือดในวันนี้ การเดินทางต้องมีการวางแผนครับ เพื่อประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ผมจะไปโดยเรือ ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองตัน โผล่ที่ท่าเรืองอโศกเพชรบุรี แล้วขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ไปโผล่ที่สามย่านฝั่งตรงข้ามกับวัดหัวลำโพง หรือฝั่งจามจุรีสแควที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เดินตรงขึ้นไปก็จะถึงสถานเสาวภาหรือสวนงู หลังสวนงู คือสภากาชาด คาดว่าใช้เวลาไม่น่าจะถึงชั่วโมง (ปกติไปรถเมล์สาย 113 ใช้เวลาชม.กว่า) หลังจากบริจาคเลือดตั้งใจจะไปเดินเล่นที่วัดสระเกศ หรือวัดภูเขาทอง เวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาทีผมไปนั่งรอเรือที่ท่าเรือ วันนี้เรือมาช้ากว่าปกติ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการครับ ผมขึ้นจากเรือโผล่ที่เพชรบุรีต่อรถไฟ มาโผล่ที่สามย่าน ตรงหน้าจามจุรีสแควนี่เอง มีเรื่องให้พิจารณานิดหนึ่ง ขณะผมเดินด้านหน้าห้างนั่นเอง มีรถซีวิคฮอนด้านสีบรอนด์ ไม่ทราบเลขทะเบียน เพราะไม่สนใจ จอดริมฟุตบาทด้านหน้าผมไม่ถึงสิบเมตร พอรถจอด ก็มีชายคนหนึ่งรีบลงจากรถพร้อมด้วยถือสิ่งหนึ่งมาด้วย วางลงข้างฟุตบาทหน้าห้าง แล้วรีบขึ้นรถออกไป เมื่อผมเพ่งมองที่วัตถุที่ชายนิรนามนำมาวาง ปรากฏว่าเป็นสิ่งมีชีวิตครับ เป็นลูกแมวสีเทาตัวเล็กๆ ท่าทางอ่อนแรง และงงๆ กับชะตาชีวิต ร้องเหมียวๆท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า ผมจำใจเดินผ่านไป โดยไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแมวนั่น ขณะที่เจ้าของที่ทิ้งก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลเพราะรถติดอยุ่ ผมพยายามมองทะลุกระจกเข้าไปในรถ อยากจะดูว่าหน้าตาไอ้คนใจดำระยำห่านั่น หน้าตามันเป็นอย่างไร มากันกี่คน น่าเสียดายกระจกมืดดำ เลยอดเห็น ผมเองก็รู้สึกตัวเองผิดที่ไม่ได้ดูดำดูดีกับลูกแมวตัวนั้น ไม่ได้ทำอะไรที่ดีกว่านี้เลย ถึงสภากาชาดในเวลาบ่ายสองห้าสิบ วันเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตตฤกษ์ ที่นี่จะปิดให้บริการเร็วคือจะปิดในเวลา 15.30 น. ดังนั้น ผมมีเวลาไม่่มาก เวลาขนาดนี้คนจะไม่เยอะเท่าไรแล้ว ไม่เหมือนตอนเช้าที่คนเนืองแน่นจนหน้ามืด ใช้เวลาในการบริจาคไม่ถึงสามสิบนาทีครับ (บริจาคจริงๆแค่สิบนาที ที่เหลือคือการรอคิว คิวตรวจเลือด คิวบริจาค) ออกจากสภากาชาด ตามแผนอย่างต่อเนื่องเลยครับ จับรถแท็กซี่ไปวัดสระเกศในทันที ด้วยราคามิเตอร์ 70 บาท ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็ได้…

ภูเขาทอง

เป็นเหี้ย

ไดอารี่ 3 May 2011

หยุด 3 วันมีโอกาสอยู่บ้านแบบเต็มๆ จึงจัดชุดใหญ่ ‘บิ๊กคลีนนิ่งเดย์’ เริ่มจากหอมผ้าไปลงถัง, ถูกบ้าน และ.. ใส่ปุ่ยให้ต้นไม้ ตอนนี้ต้นลีลาวดีที่อยู่หลังบ้านกำลังหัดออกดอก หลังจากผลิตแต่ใบมากว่า 3 เดือนแล้ว ผมจึงหมั่นไปดูแลทุกค่ำเช้าราวกับพ่อที่รอลูกคนแรกคลอด ต้นองุ่นที่หน้าบ้านก็เบ่งบานเต็มที่ หลังจากได้น้ำฝนบวกกับปุ่ยชีวภาพตอนนี้กำลังเลื้อยขึ้นระแนง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีกประมาณ 8 เดือนนับจากนี้องุ่นจะมีลูกมาให้เราเชยชม ชวนชมที่ชวนกันมาจากคอนโดหลังถูกทิ้งตากแดดตัวเหี่ยว ตอนนี้มีใบสดชื่น แข่งกันออกดอกอย่างสนุกสนานเช่นเดียวกับอมรเบิกฟ้าที่พามาจากคอนโดตอนนี้ดอกสีขาวเบ่งบานและร่วงหลายครั้งแล้ว ขณะที่่ดอกสีชมพูมีเพียงใบให้ดูต่างหน้า คนขายบอกว่าสีชมพูออกดอกน้อย ต้อนม่วงมณีดอกสีม่วงเต็มต้นกำลังเป็นพุ่มสวย แต่ด้วยใบที่มีรสกรอบอร่อยจึงเชื้อเชิญบุ้งมากัดกินซะแหว่งหวิ่นเช่นเดียวกับส้มจี้ดถูกทั้งบุ้งและหนอนกัดกินกันอร่อย ต้นคล้ากับต้นกกได้น้ำไม่เคยขาด จึงเบ่งบานสวยสด มีอีกหลายต้นที่จำชื่อไม่ได้ เลยมิได้เอ่ยชื่อไว้ในที่นี้ ต้องกราบขออภัย ขณะตัดแต่งใส่ปุ่ยให้ต้นไม้นั่งเชยชมกับธรรมชาติอยู่นั้น แขกผู้มิได้รับเชิญก็แอบคลืบคลานเข้ามาในรั้วบ้าน!! ตัวไม่ใหญ่ขนาดเท่านิ้วโป้งผู้ใหญ่ วิ่งปรูดเข้ามาในซอกต้นไม้ในบ้าน ผมรีบวิ่งไล่เพื่อขับออกจากบ้านทันที พอเข้าไปใกล้ถึงได้รู้ว่ามันคือ “เหี้ย” ตัวน้อย น้องเหี้ยมาจากไหนไม่รู้วิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาในรั้วบ้าน จิ๊กกี๋หมาที่เห่าดุเหลือเกินกับทุกสิ่งที่อาจหาญละเมิดอาณาเขตเข้ามาแม้กระทั่งผีเสื้อที่เผลอบินเข้ามามันยังกระโดดงับจนปีกขาด!! แต่ครั้งนี้มันปล่อยน้องเหี้ยน้อยวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างหน้าตาเฉย ผมพยายามชี้ให้จิ๊กกี๋ดูให้มันไปช่วยจับ นอกจากไม่มาแล้วมันยังมองไปทางอื่นทำท่าไม่สนใจ เป็นหน้าที่เจ้าบ้านอย่างผม ต้องไล่จับอย่างทุลักทุเลได้รับความช่วยเหลือจากป้าข้างบ้านช่วยอีกแรงนึงทำให้จับได้เร็วขึ้น ผมนำมันไปปล่อยข้างนอกกำแพงหมู่บ้าน ..ให้มันไปสู่ที่ชอบๆ ไปในที่ๆมันชอบ อย่าชอบบ้านผมเลย ก็ไม่รู้ว่าเหี้ยมันเลวยังไงนะ ใครทำตัวไม่ดีถึงถูกด่าว่า “เหี้ย” ผมว่าถูกด่าว่า “ไอ้เหี้ย” ยังรู้สึกแย่น้อยกว่าถูกด่าว่า “ไอ้นักการเมือง” ผมจะโกรธมาก โกรธจริงๆ แค่คิดก็ขยะแขยง สะอิดสะเอียนเวียนหัวแล้ว

เหี้ย

รำลึกถึงครู..วันครูแห่งชาติ..๒๕๕๓

เรื่องทั่วไป 16 January 2010

วันนี้เป็นครูแห่งชาติ (เสาร์ที่ 3 ของเดือนมกรา) ผมประเภทบล็อกกึ่งไดอารี่ ต้องไหลไปตามวันสำคัญของปฏิทิน ดังนั้น จะละเลยไม่กล่าวถึงความสำคัญของครูไม่ได้ ในอดีตกาล พระเถระที่ได้ชื่อว่ามีความกตัญญูจนได้รับการกล่าวขวัญคงไม่เกินพระติสสะเถระ หรือที่เรารู้จักกันในนามพระสารีบุตรนั่นเอง ครูที่สอนศิลปวิทยาคนแรกของท่านคือท่านสญชัย แต่ครูคนแรกที่สอนทางธรรมของท่านคือพระอัสสชิเถระ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ ขณะนั้นพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเที่ยวแสวงหาโมกขธรรมอยู่ จนที่สุดก็ได้พบกับพระอัสสชิเถระกำลังเดินบิณฑบาต ท่านก็มิได้แสดงปาฏิหาริย์หรือความอัศจรรย์ใดๆ หากแต่กิริยาที่ก้าวย่างอย่างสำรวมของท่าน ทำให้พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเกิดศรัทธา จนต้องเดินตาม และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ได้บวชในพระพุทธศาสนา ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้บรรลุธรรมชั้นสูงในที่สุด ตั้งแต่วันนั้นท่านก็นับถือพระอัสสชิตลอดมา แม้เดินทางไปในที่ไหน หาทราบว่าพระอัสสชิอยู่ทางทิศไหน ก็จะนอนหันศีรษะไปทางทิศนั้น สำหรับครูคนแรกของผมนั้น มีหลายท่านเหลือเกินครับ แต่ที่จำแม่นๆ คือ ครูศิริพร ครูสักการินทร์ ครูระเบียบ และครูบำเพ็ญ นาดี (ครูคนหลังนี่จำนามสกุลได้ เพราะพึ่งไปพบท่านเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง) ทั้ง 3 ท่าน น่าจะเกษียรแล้วในปีนี้นี่เอง ครูศิริพร เป็นครูคนเก่ง เก่งเชียร์กีฬา เก่งพละ เก่งเล่านิทาน  เรื่องเก่งเล่านิทานนี่เป็นที่ยอมรับของนักเรียนและครูด้วยกัน ผมจำได้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักเรียนมาสายบ่อยๆ ครูใหญ่จึงมีนโยบายให้ครูศิริพรมาเล่านิทานใส่ไมโครโฟนให้ดังไปทั่วโรงเรียนแต่เช้า เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนรีบมาโรงเรียนเพื่อมาฟังนิทานของแก ก็ได้ผลอยู่นะครับ แต่โครงการนี้มีได้ไม่นานก็ยุติ ไม่ใช่ล้มเหลวหรือนักเรียนมาสายกว่าเดิม แต่ครูศิริพรแกไม่ไหวเอง เพราะต้องมาเช้ามาก โตขึ้นมาหน่อย(ป.1-ป.3)  ผมก็มารู้จักกับคุณครูระเบียบ และคุณครูบำเพ็ญ ทั้งสองท่าน เป็นครูที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของครูที่ดุร้าย น่ากลัว ให้เป็นครูใจดีที่นักเรียนสามารถจับต้อง พูดคุย และปรึกษาได้ ครูระเบียบนับว่าใจดีที่สุด ไม่เคยตีนักเรียน ทำผิดให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลอย่างเดียว ส่วนครูบำเพ็ญ แกสามารถใจดีและใจร้ายอย่างมีเหตุมีผล ถ้านักเรียนทำตัวน่าัรักแกจะใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะเดียวกันหากนักเรียนทำตัวไม่น่ารัก แกพร้อมจะเป็นนางยักษ์ใจร้า้ยได้ทันที .. ในชีวิตของคนๆหนึ่งต้องพึ่งครูมากมายครับ ในศาสตร์แต่ละวิชาแต่ละแขนงล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยครูเป็นคนช่วยชี้แนะก่อน หากใครจะบอกว่าเก่งหรือเรียนด้วยตนเอง อย่างน้อยที่สุดก่อนจะเก่งหรือเรียนนั้น ย่อมต้องได้รับการชี้แนะหรือแรงบันดาลใจจากใครสักคน วันสำคัญเช่นนี้เหล่าศิษย์ควรมีจิตคารวะรำลึกถึงบุญคุณของท่าน ท่านมิใช่แค่เรือจ้าง หากแต่เป็นผู้เสกสรรค์ปลุกปั้นสร้างแรงบันดาลใจ ชี้ทางศิษย์ไปสู่ความสำเร็จ รำลึกถึงบุญคุณของคุณครูทุกท่านเสมอครับ

ครู
อ่านต่อ

KMUTNB Run Walk 2017

วิ่ง, สุขกะภาพ 21 August 20172 November 2017

เป็นรายการวิ่งที่พลาดเมื่อปีที่แล้ว เพราะตรงกับรายการวิ่งบนทางด่วนศรีรัช ปีนี้เลยบอกน้องที่หมู่บ้านไปว่า ถ้าหาเบอร์วิ่งได้หาให้ด้วย และเมื่อถึงวันวิ่งน้องก็หามาให้จนได้สมใจ

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH