Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

หยุนไหล

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปาย-หยุนไหล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 December 202024 September 2021

หลังจากออกจากห้วยน้ำดัง จุดหมายที่ตั้งใจไว้คืออำเภอปาย เราไม่ได้จองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์และอุปกรณ์ปิ้งย่าง ดังนั้นจุดที่เรากำลังมองหาคือจุด กางเต๊นท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่มาเที่ยวปายครั้งแรก ผมประทับใจจุดกางเต๊นท์ตรงโป่งน้ำร้อนท่าปายมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง และน่าจะมีเพื่อนกางเต๊นท์เยอะไม่เหงาไม่น่ากลัว คิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทางมีป้ายเล็กๆข้างถนนก่อนถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” แวะไปห้อยขาซะหน่อย.. หลังจากอิ่มท้องก็ออกจากร้านและมุ่งหน้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย..รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย (จริงๆก็ผิดหวังมากเลยละ) ความเป็นธรรมชาติแบบเมื่อก่อนหายไปหมดละ โป่งน้ำร้อนได้รับการทำให้เป็นกิจจะลักษณะด้วยการก่อปูนทุกบ่อ ดูเหมือนจะเจริญขึ้น แต่ทำไมผมไม่รู้สึกประทับใจ บรรยากาศโดยรวมดูเงียบเหงา อาจจะเพราะโควิดด้วยส่วนหนึ่ง พื้นที่ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าจะกางเต๊นท์นอนที่นี่คืนนี้คงมีแต่เต๊นท์เราหลังเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ เมื่อภาพในหัวไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงต้องรีบหาที่พักใหม่ก่อนจะมืดค่ำ เราต้องการที่พักแบบกางเต๊นท์ จนในที่สุดก็มาสะดุดกับคำว่า “หยุนไหลทะเลหมอก” คำว่า “หยุนไหล” ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับภาพประกอบ ภาพที่มีจุดกางเต๊นท์อยู่บนพื้นที่สูงวิวแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นอำเภอปายทั้งอำเภอ ไม่รอช้า..มุ่งหน้าไปทันที ขับออกจากอำเภอปายมาทางหมู่บ้านสันติชลประมาณ 30 นาที ทะลุผ่านหมู่บ้านสันติชลเข้าไปอีกครับ จะมีทางเข้าที่ต้องขับผ่านหมู่บ้านเป็นถนนเล็กๆ และเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะเห็นป้ายคำว่า “หยุนไหล” อยู่บนเนินเขาเล็กๆ หยุนไหล..จุดชมวิวทะเลหมอก และจุดกางเต๊นท์ ที่นี่มีบริการทั้งเต๊นท์ให้เช่าและเต๊นท์นำมากางเองครับ ถ้านำเต๊นท์มาเองอย่างผมค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องน้ำ จุดล้างภาชนะ รวมถึงปลั้กไฟให้ใช้ ส่วนวิวรับรองว่าคุ้มค่ามาก.. เช้าวันรุ่งขึ้นผมตั้งใจจะวิ่งซิตี้รัน เพื่อชมวิถีชาวบ้านแถวนี้สักหน่อย ประมาณ 6 โมงเช้าฟ้าเริ่มสาง ผมก็เริ่มวิ่งจากเขาลงมา และภาพต่อไปนี้คือภาพที่ได้จากการวิ่งซิตี้รันประมาณ 6 กิโลเมตร กลับจากวิ่งประมาณ 9 โมงแล้ว แดดเริ่มมาต้องรีบเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าจุดมุ่งหมายของเราต่อไป นั่นคือ “ปางอุ๋ง” ออกจากหยุนไหลละครับ ใครชอบกางเต๊นท์ที่นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ช่วงนี้ไปยังไม่หนาวมากนักตกกลางคืนแค่ 15 องศา ชาวบ้านบอกว่าช่วงหนาวมากๆ มีต่ำกว่า 10 องศาแนะ โพสต์หน้าเจอกันที่ “ปางอุ๋ง”

ปาย หยุนไหล แม่ฮ่องสอน

'องค์บาก 3' ปฐมบทขององค์บาก

เรื่องทั่วไป 6 May 2010

ชอบในฝีไม้ลายมือการแสดงของจา พนม ยีรัมย์ แต่ที่ผ่านมาเหมือนกับว่าผู้กำกับหนังของจา ไม่มีบทหนังที่ดีพอ ที่จะทำให้หนังของจาสนุกและน่าสนใจเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็น องค์บาก หรือต้มยำกุ้งที่กำกับโดยผู้กำกับคนเดียวกัน นั่นคือ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ฉากต่อสู้สนุก ตื่นเต้น มันส์ สะใจ แต่ทว่าบทอ่อนปวกเปียก อืดชืด และบางทีก็ไร้เหตุผลที่มาที่ไป ทำให้หนังถูกพูดถึงน้อยกว่าตัวแสดงอย่างจา สองเรื่องหลัง (องค์บาก 2-3) จา เลยขอกำกับเอง !!! ผลจึงออกมาอย่างที่เราเห็นๆ ย้ำว่าผมชอบที่ฝีไม้ลายมือการแสดง การต่อสู้ที่สวยสดงดงาม แต่ฝีมือในการกำกับหนังรวมถึงการเขียนบท ไม่ประทับใจเลย เมื่อวานพึ่งไปดูมา คนดูไม่มากอย่างที่คิดทั้งๆที่เป็นวันหยุด ภาค 3 เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากภาค 2 แต่หนังพยายามโยงให้ต่อเนื่องกับภาคแรก โดยอาศัยพระองค์บาก ภาค 2-3 ก็คือภาคปฐมบทขององค์บาก ก่อนจะมีองค์บากที่ชาวบ้านศรัทธาและบูชากันจนถูกโจรตัดเศียรไป ให้จาวิ่งไล่ล่าในภาคแรก ภาค 3 นี้มีการเล่าเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย มีหลายฉากที่เด็กๆ (หรือหญิงมีครรภ์)ดูไม่ได้เลย โหดร้าย หวาดเสียว เลือดท่วมจอ มีการเล่าเรื่องที่ทำให้งง บางฉากดูแล้วตลกๆ เช่นฉากที่จาฝึกวิทยายุทธ์ที่น้ำตกจนมีหนวดมีเครายาวเฟื้อย พลอยทำให้คิดไปถึงหนังจีนกำลังภายในอย่างเรื่อง กระบี่ไร้เทียมทาน ฉากการต่อสู้ที่ถือเป็นตัวชูโรง กลับไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าภาคก่อนหน้าเท่าไร ผมว่าจา ต้องกลับไปเป็นผู้เล่นอย่างเดียวก่อน ก่อนที่จะเป็นผู้กำกับ เพราะการกำกับหนังมันมีอะไรมากกว่านี้ มุมกล้อง การเล่าเรื่อง การตัดต่อ ฯลฯ ยังชื่นชอบในมีไม้ลายมือ หนังเรื่องหน้าที่จาเล่น ไม่ว่าใครจะกำกับ ผมก็จะดูครับ !!

แต่งงานกันอีกแล้ววว..ว

เรื่องทั่วไป 11 January 2010

วันเสาร์ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ เป็นวันแต่งงานของเทพรัตน์ โสภาค หรือไอ้เทพ เทพรัตน์เป็นเพื่อนสมัยอยู่พระบาทเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้น  หลังจากแยกย้ายตามวิถีของแต่ละคน ก็มีอันต้องพลัดพรากจากกัน แต่ก็ได้ยินข่าวคราวและข่าวคาวของมันเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้มีโอกาสได้ปะหน้ากันจริงๆจังๆสักที จนเมื่อกลางปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปงานแต่งของมิสเตอร์สิงห์ จึงได้พบหน้าค่าตากันในตอนนั้น เจ้าสาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนมิสเตอร์สิงห์ ทราบจากมิสเตอร์สิงห์ว่า เทพรัตน์จีบเจ้าสาวอยู่ก่อนแล้ว แต่เวลาเข้าไปหา จะไปคนเดียวก็เขินอาย เลยชวนมิสเตอร์สิงห์ไปด้วย แต่ครั้นจะชวนมิสเตอร์สิงห์ไปบ่อยๆ ก็จะเกรงใจ จึงใช้อุบายให้มิสเตอร์สิงห์รักกับคนพี่ซะ ทีนี้จะได้มีแรงจูงใจที่จะไปด้วยกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ทุกอย่างก็ลงเอยอย่างที่ควรจะเป็น มิสเตอร์สิงห์ชิ่งแต่งงานก่อนเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจึงถึงคิวของเทพรัตน์ นักรักจอมวางแผน (555+) งานแต่งเขามีแห่ขันหมากในตอนเช้า และเลี้ยงฉลองในตอนเย็น ตอนเช้าผมไม่ว่าง ก็เลยถือโอกาสไปตอนเย็นแทน งานเลี้ยงจัดที่สมาคมศิษย์เก่าอำนวยศิลป์ ข้างๆโรงเรียนเพชรัตน์ ประชาชื่น เป็นอาคารอเนกประสงค์เก่าๆ ข้างในจัดเป็นโต๊ะจีนประมาณ 50 โต๊ะ แขกเรื่อคับคั่งดี แต่ผมข้องใจธีมของงาน หน้างานจัดซุ้มดอกไม้ให้คู่บ่าวสาวได้ถ่ายรูปกับแขก มีภาพบ่าวสาวถ่ายคู่กัน น่ารักน่าชัง หวานแหวว สดใส กุ๊กกิ๊ก  แต่พอก้าวขาเข้าไปข้างใน นึกว่ามางานหมอลำซิ่งพาเพลิน มีเพลงหมอลำ สลับเพลงลูกทุ่งโจ๊ะๆ พอพิธีบนเวทีเริ่ม พิธีกรมาในชุดสีดำ!! โอ่ะ..นี่กูมางานศพเหรอเนี่ยะ ตะกี้ยังเป็นงานหมอลำพาเพลินอยู่เลยนะ ทั้งนักร้องบนเวที ทั้งพิธีกรชวนกันแต่งชุดดำมาซะอย่างนั้น นี่ถ้าผมเป็นเจ้าของงาน คงโดดตีลังกา 2 รอบ ก่อนจะเสยหน้าทั้งคู่ด้วยปลายรองเท้า ช่างให้เกียรติกับงานแต่งอันเป็นมงคลซะเหลือเกิน หลังพิธีบนเวทีเสร็จ ผมก็ถือโอกาสลาเพื่อนๆกลับก่อน คืนนี้ไม่กล้าแตะแอลกอฮอลล์ เพราะวันอาทิตย์ตั้งใจจะไปบริจาคเลือด งานนี้ไม่ได้แอ้มเค้กแต่งงานเลย ดูท่าแล้วคงไม่เหลือถึงเราแน่ๆ ผมไม่ชินการร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้า และไม่ชอบการรับประทานอาหารแบบค่อยๆทยอยมาทีละจานๆ เลยขอตัวกลับก่อนแบบเกรงใจๆ ผมได้เขียนอวยพรคู่บ่าวสาวในสมุดแล้ว และปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้คำอวยพรนั้นสัมฤทธิ์ผล ผมอวยพรสั้นๆไปว่า “ขอให้รัก อยู่คู่กับทั้งคู่ตลอดไป”

แต่งงาน

EMOTIONAL BANK ACCOUNT

เรื่องทั่วไป 2 February 2010

อาทิตย์นี้ได้หนังสือมาสองเล่ม รู้สึก ว่าตัวเองอ่านหนังสือน้อยลง กลัวจะถูกจัดอยู่ในพวกปีหนึ่งอ่านหนังสือ 8 บรรทัด เลยต้องหาขวนขวายมาอ่านซะหน่อย เล่มแรก เป็นหนังสือของนักเขียนรางวัลซีไรต์อย่างคุณวินทร์ เหลียววารินทร์ที่ผมเป็นแฟนอยู่  ชื่อ หนังสือ “ฝนตกขึ้นฟ้า นวนิยาย ฟิล์มนัวร์” อีกเล่มสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เนต ชื่อหนังสือ Zig Zag เมื่อแกะดำทำธุรกิจ ของคุณประเสริญ เอี่ยมรุ่งโรจน์ ที่ผมรู้จักท่านจากรายการคม ชัด ลึก เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในสองเล่มนั้น ของคุณวินทร์หนากว่า ดังนั้น จึงถูกวางไว้ก่อน แกะดำทำธุรกิจบางกว่า จึงถูกหยิบจับมาเปิดอ่านก่อน ผมพอเข้าใจแนวคิดของคุณประเสริฐมาบ้างจากรายการ คม ชัด ลึก  เป็นแนวคิดของการทำธุรกิจแบบแกะดำ กล่าวคือ ไม่เดินตามรอยคนอื่น ไม่เลี้ยวขวาไปตามทางที่คนหมู่มากเลี้ยวไป  สอนให้รู้จักคิดอย่างมีระบบ มีเหตุผล สอนวิธีคิดที่คุณประเสริฐเน้นว่าสำคัญที่สุดกว่าองค์ความรู้  ใชสมองทังสองด้านทำงาน โดยให้สมองซีกขวานำและตามด้วยสมองซีกซ้าย จากเนื้อหา 130 หน้า  31 บท แต่ละบทมีแนวคิด คำคม และปรัชญาการทำธุรกิจแบบแกะดำ มีกรณีศึกษาจากบริษัทใหญ่ๆทั่วโลก บอกตามตรงบางบริษัทที่คุณประเสริฐยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟัง ผมไม่รู้จักมาก่อนเลย  แต่ก็ ไม่ได้ทำให้อรรถรสในเนื้อหาด้อยลงนะครับ ด้วยลีลาการเขียนที่คุณประเสริฐแกออกตัวว่า แกคิดช้า เขียนช้า บทหนึ่งๆแกใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง จึงเป็นเนื้อหาที่ประกอบด้วยสาระ ได้เห็นความตั้งใจที่คุณประเสริฐพยายามอัดใส่ทุกบท ใช่แต่แกจะพูดถึงการทำธุรกิจอย่างเดียว การใช้ชีวิต การคิดและการตัดสินใจ คุณประเสริฐก็เขียนไว้อย่างน่าอ่าน ผมชอบเรื่อง EMOTIONAL BANK  ACCOUNT กล่าวถึงการฝากความรู้สึกดีๆไว้กับ คนอื่น โดยอาศัยแนวคิดจากการฝากเงินไว้ในธนาคาร เงินในธนาคารยิ่งฝากมากยิ่งมีเก็บมาก ความรู้สึกดีก็เช่นกัน ยิ่งฝากไว้กับคนอื่นไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร ฝากมากๆ เราก็ย่อมมีมาก เมื่อใดที่ชีวิตเราพบอุปสรรค อาจจะมีวันที่ความรู้สึกระหว่างเรากับคนรอบข้างอาจจะขุ่นมัว สิ่งที่เราฝากและสะสมบน Emotional Bank Account จะเป็นตัวช่ว่ย คุณประเสริฐ อธิบายการออมความรู้สึกดีๆ ว่า การฝาก คือ การที่เราเป็นคนมีน้ำใจ เปนคนรักษาคำมั่นสัญญา ดำรงตนเป็นคนน่าเชื่อถือ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยที่คนอื่นไหว้วานก็ทำให้ การถอน…

แกะดำ

Thank You

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 7 August 2008

ได้หนังซีรีส์เกาหลี เรื่อง Thank You (ชื่อไทยไม่รู้ชื่ออะไร)มาจากที่ทำงาน เป็นแผ่นดีวีดี 5 แผ่นๆ หนึ่ง ประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ   ตั้งใจจะลองดูสักแผ่น อยากรู้ว่าละครเกาหลี แตกต่างจากละครไทยเรามากมั้ย เบื่อละครไทยเต็มที เน่าจนไม่รู้จะเน่าอย่างไร ทำซ้ำไปซ้ำมา ก็อปปี้บท ก็อปปี้เนื้อหา จนเอียนจนเลี่ยน จนไม่อยากจะดูละครไทยอีกแล้ว :p   เอาละ..บ่นละครไทยเป็นหอมปาก วกกลับมาที่ละครเกาหลีใหม่..   เรื่อง Thank You เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงบ้านนอกวัย 6 ขวบคนหนึ่ง เธอเป็นเด็กธรรมดา แต่อยู่มาวันหนึ่งมีเรื่องราวที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว.. เธอประสบอุบัติเหตุ ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยความผิดพลาดของหมอ ทำให้เธอได้รับเชื้อเอดส์มา !!   เด็กหญิงซื่อๆ น่ารักๆ ช่างพูดจา เป็นที่รักของแม่ และทุกคนในหมู่บ้าน ได้รับเชื้อเอดส์โดยไม่รู้ตัว แต่แม่ของเธอทราบจากหมอ หัวใจแทบสลาย แต่ก็พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้ลูกน้อยได้อยู่ในโลกนี้นานที่สุด และมีความสุขที่สุด   เธอเลือกที่จะไม่บอกใคร แม้แต่ลูกเอง ไม่บอกคนในหมู่บ้าน แต่ก็สอนลูกว่า ถ้ามีอุบัติที่โรงเรียนถึงขั้นเลือกออก ห้ามขอความช่วยเหลือจากใคร ห้ามให้ใครเห็นเลือดเด็ดขาด โดยโกหกว่า เธอเป็นนางฟ้าจากสวรรค์มาจุติ ไม่สามารถให้คนธรรมดาเห็นเลือดได้ และเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกใครเด็ดขาด   เด็กหญิงก็เชื่ออย่างนั้นตามประสาเด็ก..   เด็กคนนี้เป็นเด็กที่โชคร้าย เพราะนอกจากได้รับเชื้อ เอซ ไอ วี มาแล้ว พ่อของเธอก็ยังไม่ปรากฏว่าเป็นใคร คือ เป็นเด็กที่ท้องไม่มีพ่อ ต้องอยู่กับแม่ แม่ต้องส่งเสียน้องชายเรียน และเลียงดูตาที่ความจำเสื่อม แถมต้องดูแลลูกที่มีเชื้อเอซ ไอ วี อีกด้วย..   อีกด้านหนึ่ง หมอ(เป็นผู้หญิง) ที่ทำผิดพลาดให้เด็กหญิงต้องได้รับเชื้อเอดส์นั้น รู้สึกผิดมาโดยตลอด อยากจะเข้าไปขอโทษ อยากจะอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ แต่เธอไม่สามารถทำได้ เมื่อตรวจพบว่าตัวเธอเองเป็นมะเร็งในตับอ่อน จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน แต่ก่อนเธอจะสิ้นใจนั้น เธอได้ฝากบอกแฟนของเธอ ให้ช่วยสานฝันของเธอ ช่วยไปสารภาพผิดต่อเด็กหญิงผู้โชคร้ายคนนั้น..   เรื่องราวต่างๆก็เกิดขึ้นจากจุดนี้ครับ…..

อ่านต่อ

หนีความวุ่นวาย..ไปบ้านไร่โอโซน

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 8 September 200914 May 2016

หลังสงกรานต์มา นอกจากทริปสั้นๆ แบบไปเช้าเย็นกลับแล้ว ผมยังไม่มีทริปไปเที่ยวแบบพักยาวๆ หรืออย่างน้อยได้ค้างสักคืนเลย อาทิตย์นี้เลยเข้าสู่ห้องBlueplanet แหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่และได้ประสิทธิภาพที่สุดในโลกไซเบอร์ ได้ความมาว่า หน้านี้ต้องไป ภูเขา ลำเนาไพร เพราะกำลังเขียวชะอุ่มได้ที่..ผมคิดถึงสวนผึ้ง ราชบุรี ป่าเขียวขจี รีสอร์ทแบบบูติก น่ารักๆ มีแกะกระโดดข้ามรั้วฯลฯ หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาทันที !! รีสอร์ทดีๆ เด็ดๆของสวนผึ้งถูกจับจองไปหมดแล้ว บางแห่ง เช่นเซนเนอรี่ , อ้อมกอดขุนเขา หรือ นากาย่า ถูกจองข้ามปีไปถึงปีหน้าโน่นแล้ว แอบเสียใจเล็กๆ แต่ไม่สิ้นหวัง สถานที่ๆให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน แต่อยู่กันคนละที่ นั่นคือ เขาใหญ่ ~ เนื่องจากเขาใหญ่ไปบ่อยแล้ว งานนี้เลยแฉล่บจากเขาใหญ่ไปหน่อย ผมจะไปวังน้ำเขียว !!!!!!!! วังน้ำเขียวมีอาณาเขตติดกันกับเขาใหญ่ ดังนั้น บรรยากาศจึงไม่แตกต่างกันเลย เพียงแต่ว่า เราไม่ต้องขึ้นไปบนเขาใหญ่ เราจะอยู่ริมเขา ลัดเลาะเลี้ยวสู่เขาเขียวในทันใด การเดินทางไปวังน้ำเขียว ก็ไปทางเดียวกับเขาใหญ่นั่นแหละครับ แต่ก่อนจะถึงด่านเก็บตั๋วขึ้นเขาใหญ่ เราแฉล่บไปทางซ้ายแทน มีป้ายบอกชัดเจน ไปวังน้ำเขียว บรรยากาศข้างทางสวยมากครับ เขียว สดชื่น ก่อนจะไปวังน้ำเขียวก็เป็นธรรมดา(ไปแล้ว) ของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย ว่าต้องแวะถ่ายรูปกันที่นี่ซะก่อน ร้านกาแฟ และขนมชื่อดังของเขาใหญ่เขาละ Primo Posto ระหว่างทางบรรยากาศดีมากครับ แว่บไปเห็นยอดเจดีย์กลางหุบเขา เลยหาทางเข้าไปจนเจอ พบว่าเป็นวัดสร้างใหม่ครับ เจดีย์ตั้งตระหง่านมาก ในอนาคตอันใกล้แสนใกล้นี้ น่าจะเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่คนต้องแวะไปกราบไหว้ (ขออภัย ผมจำชื่อวัดไม่ได้ ดูภาพแทนละกันนะครับ) ขณะที่ไปถึง ฟ้ากำลังปั่นป่วนครับ เริ่มจะเปลี่ยนจากฟ้าใสเป็นฟ้าสีดำ ท่าทางฝนจะตก ออกจากวัดดังกล่าว ก็ตรงดิ่งไปยังวังน้ำเขียวอันเป็นเป้าหมายสักที.. ~ ผมจะไปพักที่รีสอร์ท บ้านไร่โอโซน เป็นรีสอร์ทที่อยู่ไกลที่สุดของบรรดารีสอร์ทในวังน้ำเขียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว งานนี้ผิดพลาดไปนิ๊ดนึงตรงที่ว่า วังน้ำเขียว ถ้าอยู่ทางฝั่งของเขาใหญ่ ถนนหนทางจะดีเลิศประเสริฐศรีมากครับ แต่ถ้าหากข้ามถนนอีกฟากไปยังหมู่บ้านไทยสามัคคีที่ผมกำลังจะไปนี้ ถนนหนทาง นรกมากครับ เป็นหลุมเป็นบ่อเรากับอยู่บนดวงจันทร์ งานนี้่ต้องขับรถราวกับเต่าคลาน ขับรถไปก็สงสารรถไป ด้วยรถเป็นแจ๊สสีชมพูหวานแหวว (เกิดมามันคงพึ่งเคยเจอกับสภาพที่เลวร้ายขนาดนี้ -_-“) แต่บรรยากาศรีสอร์ทก็ทำให้หายเหนื่อยได้ครับ เป็นส่วนตัว สงบ…

วังน้ำเขียว

อุบัติเหตุอารมณ์

เรื่องทั่วไป 5 July 2008

หลายครั้งที่เห็นภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ถึงอุบัติเหตุ รถชน รถคว่ำ คนนอนเจ็บ คนตายกลางถนน เห็นจนชาชิน เห็นทุกวันในหนังสือพิมพ์หรือในทีวี จนหลังๆ เกิดอาการเฉยๆเมื่อเห็นภาพดังกว่า ไม่หวาดเสียว หรือตกใจเท่าเมื่อก่อนเท่าไรนัก กระทั่งเย็นวานนี้ได้เจออุบัติเหตุสดๆ จริงๆ  แม้ไม่หนักหนาเท่าภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ แต่ก็น่าหวาดเสียวไม่น้อย เหตุการณ์มันเกิดขึ้นที่ตีนสะพานคลองตัน หลังจากเลิกงาน ผมก็เดินต๊อกแต๊กๆ มาเรื่อยจนถึงจุดเกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่เห็นกลุ่มคนยืนมุงสองฝั่งถนน อุบัติเหตุเกิดตรงตีนสะพานกลางถนน เป็นสะพานที่ข้ามคลองแสนแสบ ดูจากรูปการณ์โดยที่ไม่ได้ถามใครเลย น่าจะเกิดจากรถแท็กซี่วิ่งจากเลนส์ซ้ายจะขึ้นสะพาน เจ้ามอไซต์ก็จะขึ้นเหมือนกัน แท็กซี่ถูกมอไซต์ปาดหน้าเพื่อขึ้นสะพาน หน้ารถเลยทิ่มตูดมอเตอร์ไซค์เข้าเต็มเปา มอเตอร์ไซค์เลยทิ่มไปที่ขอบสะพาน สภาพที่เห็นน่ากลัวมากครับ มอเตอร์ไซต์คว่ำล้อชี้ฟ้า ส่วนคนนอนคว่ำหัวแตกคอขยับไม่ได้ ส่วนแท็กซี่กันชนหน้าพัง มันก็แค่อุบัติเหตุธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาตรงที่ว่า แท็กซี่ที่ขับรถไปชนตูดมอเตอร์ไซต์ที่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์นอนไม่ได้สติอยู่นั้น แกไม่รับว่าแกผิด ด่าเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยที่มาบอกให้แกขยับรถออกข้างทาง เพื่อไม่ให้รถติด ด้วยถ้อยคำหยาบคาย  อุบัติเหตุมันก็แย่อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วเหตุการณ์ที่แย่ยิ่งกว่าอุบัติเหตุคือ คนนี่แหละ ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดบ้าง ไม่พอใจบ้าง ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวอย่างชัดเจน ไม่ค่อยยอมรับ และชอบมีอารมณ์ ที่จริงมันก็แย่ด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะผิด แต่ทำยังไงให้มันดีที่สุด ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก เรื่องก็จบง่าย รถก็จะไม่ติด คนจะไม่หงุดหงิด ชีวิตก็จะไม่บัดซบ! ตัวอย่างอุบัติเหตุมีเยอะแยะแล้ว เห็นตัวอย่างแล้วก็เอามาเป็นอุทาหรณ์ด้วยนะครับ อย่าประมาท ระมัดระวัง มีสติ ที่สำคัญ ขับรถ ไม่โทรศัพท์นะครับบบบ..ไม่อย่างนั้นแล้ว นอกจากจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ยังถูกตำรวจจับด้วยนะครับ เจ้านายยยยย …ย         

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปาย-หยุนไหล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 December 202024 September 2021

หลังจากออกจากห้วยน้ำดัง จุดหมายที่ตั้งใจไว้คืออำเภอปาย เราไม่ได้จองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์และอุปกรณ์ปิ้งย่าง ดังนั้นจุดที่เรากำลังมองหาคือจุด กางเต๊นท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่มาเที่ยวปายครั้งแรก ผมประทับใจจุดกางเต๊นท์ตรงโป่งน้ำร้อนท่าปายมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง และน่าจะมีเพื่อนกางเต๊นท์เยอะไม่เหงาไม่น่ากลัว คิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทางมีป้ายเล็กๆข้างถนนก่อนถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” แวะไปห้อยขาซะหน่อย.. หลังจากอิ่มท้องก็ออกจากร้านและมุ่งหน้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย..รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย (จริงๆก็ผิดหวังมากเลยละ) ความเป็นธรรมชาติแบบเมื่อก่อนหายไปหมดละ โป่งน้ำร้อนได้รับการทำให้เป็นกิจจะลักษณะด้วยการก่อปูนทุกบ่อ ดูเหมือนจะเจริญขึ้น แต่ทำไมผมไม่รู้สึกประทับใจ บรรยากาศโดยรวมดูเงียบเหงา อาจจะเพราะโควิดด้วยส่วนหนึ่ง พื้นที่ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าจะกางเต๊นท์นอนที่นี่คืนนี้คงมีแต่เต๊นท์เราหลังเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ เมื่อภาพในหัวไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงต้องรีบหาที่พักใหม่ก่อนจะมืดค่ำ เราต้องการที่พักแบบกางเต๊นท์ จนในที่สุดก็มาสะดุดกับคำว่า “หยุนไหลทะเลหมอก” คำว่า “หยุนไหล” ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับภาพประกอบ ภาพที่มีจุดกางเต๊นท์อยู่บนพื้นที่สูงวิวแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นอำเภอปายทั้งอำเภอ ไม่รอช้า..มุ่งหน้าไปทันที ขับออกจากอำเภอปายมาทางหมู่บ้านสันติชลประมาณ 30 นาที ทะลุผ่านหมู่บ้านสันติชลเข้าไปอีกครับ จะมีทางเข้าที่ต้องขับผ่านหมู่บ้านเป็นถนนเล็กๆ และเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะเห็นป้ายคำว่า “หยุนไหล” อยู่บนเนินเขาเล็กๆ หยุนไหล..จุดชมวิวทะเลหมอก และจุดกางเต๊นท์ ที่นี่มีบริการทั้งเต๊นท์ให้เช่าและเต๊นท์นำมากางเองครับ ถ้านำเต๊นท์มาเองอย่างผมค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องน้ำ จุดล้างภาชนะ รวมถึงปลั้กไฟให้ใช้ ส่วนวิวรับรองว่าคุ้มค่ามาก.. เช้าวันรุ่งขึ้นผมตั้งใจจะวิ่งซิตี้รัน เพื่อชมวิถีชาวบ้านแถวนี้สักหน่อย ประมาณ 6 โมงเช้าฟ้าเริ่มสาง ผมก็เริ่มวิ่งจากเขาลงมา และภาพต่อไปนี้คือภาพที่ได้จากการวิ่งซิตี้รันประมาณ 6 กิโลเมตร กลับจากวิ่งประมาณ 9 โมงแล้ว แดดเริ่มมาต้องรีบเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าจุดมุ่งหมายของเราต่อไป นั่นคือ “ปางอุ๋ง” ออกจากหยุนไหลละครับ ใครชอบกางเต๊นท์ที่นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ช่วงนี้ไปยังไม่หนาวมากนักตกกลางคืนแค่ 15 องศา ชาวบ้านบอกว่าช่วงหนาวมากๆ มีต่ำกว่า 10 องศาแนะ โพสต์หน้าเจอกันที่ “ปางอุ๋ง”

ปาย หยุนไหล แม่ฮ่องสอน

สาระแน..อำเป้ง

เรื่องทั่วไป 2 May 2009

เข้าเรื่องแบบไม่ต้องอ้อมเลยละกัน วานนี้ผมไปดูหนัง สาระแนห้าวเป้งมา!! โดยส่วนตัวชื่นชอบรายการนี้ในจอทีวีมานานมแล้ว ตั้งแต่อยู่ช่องสามวันเสาร์แล้วระเห็ดไปอยู่ช่อง ไอทีวี เปลี่ยนชื่อเป็นสาระแนจังดึก อยู่ไอทีวีก็ไม่นิ่งสักที เดี๋ยวโผล่วันอังคาร เดี๋ยวโผล่วันพุธ เดี๋ยว 4 ทุ่ม เดี๋ยว 5 ทุ่ม จนไอทีวีมีอันต้องจบลง ก็เร่ร่อนมาอยู่ช่อง 5 ในเวลาเกือบเที่ยงคืน และล่าสุดก็ได้กลับบ้านเก่าช่อง 3 ในเวลากลางวันของวันอาทิตย์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนของสาระแนคงหายไปเยอะเหมือนกัน จากการร่อนเร่อยู่ที่จุติไม่ได้เช่นนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็สามารถติดตามชมได้เป็นระยะๆ  แต่ก็ยังชื่นชอบรายการนี้เหมือนกับที่ชื่นชอบรายการชิงร้อยชิงล้าน!! ณ วันนี้สาระแนกลายเป็นหนังจอใหญ่แล้ว มีหรือที่ผมจะพลาด!! เย็นของวันแรงงานแห่งชาติ ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ คนเยอะมากกกกกก แต่เหมือนมีบุญเก่ามาเกื้อหนุน เข้าไปจองตั๋วปุ๊บได้รอบที่ไม่ต้องนั่งรอเวลา และได้ที่นั่งแถว D แถวค่อนข้างดี ในขณะที่แถวอื่นๆ นับตั้งแต่สองแถวแรกจากหน้าจอเต็มหมด ด้วยความแปลกใจว่าทำไมที่นั่งตรงนี้ถึงว่าง มีผีสิง วิญญาณอาฆาตที่นั่งนั่นอยู่หรือเปล่า จึงถามคนขาย เจ้าหล่อนบอกว่า มีคนโทรมาจองล่วงหน้า แต่ไม่มา..โอ้ ~ แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ข้างๆที่ผมนั่ง มีผู้หญิงคนนึ่งมาดูหนังคนเดียว นั่งเงียบๆ เจียมๆอยู่ ผมก็เข้าใจนะ ความรู้สึกของคนมาดูหนังคนเดียว ต้องเจียมๆ เงียบๆหน่อย ถึงหนังจะสนุกสักปานใดก็ตาม แต่ที่ผมเข้าใจมาทั้งหมดนั้น ผิดถนัด ตลอดระยะเวลาที่ดูหนัง คุณหล่อนรับโทรศัพท์ 2 ครั้ง!! ดังด้วย แค่นั้นยังไม่พอ เสียงหัวเราะของคุณเธอ โคตรทุเรศศศศศศศศศศ…ไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่ไหนหัวเราะได้ทุเรศปานนี้ และที่สำคัญคุณเธอมักจะหัวเราะในมุกที่คนอื่นไม่หัวเราะ ตอนที่ชาวบ้านชาวช่องเขาขำกันทั้งโรง คุณเธอนั่งเงียบ แต่พอมุกเสี่ยวๆ มุกที่ไม่ควร, ไม่น่า, ไม่ต้อง และไม่จำเป็นต้องขำ เธอขำ~ ย้ำอีกครั้งว่า เสียงหัวเราะเธอ อุบาทว์มากกกกก แต่ที่อุบาทว์กว่าเสียงหัวเราะของเธอคือ การรับโทรศัพท์ในโรงหนัง เธอแย่มากกก ขอประณามเธอเลย ยัยคนที่นั่งแถว D14 เรื่องสาระแนห้าวเป้ง รอบ 17.40 น. วันที่ 1 พ.ค. 2552 นั่งใกล้คนไม่ดี พลอยทำให้บรรยากาศการดูหนังมีประสิทธิภาพลดลง 30 เปอร์เซ็นต์!! บ่นซะจนลืมเลยว่า…

ศรีษะนี้..มอบแด่พระเจ้าแผ่นดิน!!

เรื่องทั่วไป 16 May 2010

พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง พูดในงานนาฏราช..ฟังแล้วขนลุก ดาราหลายคนน้ำตาคลอ มีดาราไม่กี่คนที่กล้าแสดงออกทางความคิดในเรื่องการเมือง ด้วยพวกเขาอยู่ในอาชีพที่ต้องอาศัยแรงศรัทธาจากผู้ชม หากชัดเจนว่าอยู่ฝั่งหนึ่ง แฟนานุแฟนที่อยู่อีกฝั่งคงจะไม่ชอบ ดาราจึงออกมาพูดเรื่องการเมืองน้อย และถึงพูดก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่การพูดของพี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในครั้งนี้ ได้ใจคนทั้งสองฝั่ง

พงษ์พัฒน์
อ่านต่อ

น.ส. จิกกี๋

สุขกะภาพ 29 June 201328 October 2015

สมาชิกในบ้านที่่สร้างความปั่นป่วนได้ตลอดเวลา

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH