เที่ยวเมืองต้าลี่-ลี่เจียง-แชงกรีล่า ตอนที่ 1
ช่วงที่กรุงเทพมหานครถูกรายล้อมด้วยข้าศึกคือน้ำ ผมมีโอกาสได้ละทิ้งความเครียดเรื่องน้ำท่วมมุ่งสู่มหาดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ เมืองจีน !!
Find your Heart, Find the Happiness.
ช่วงที่กรุงเทพมหานครถูกรายล้อมด้วยข้าศึกคือน้ำ ผมมีโอกาสได้ละทิ้งความเครียดเรื่องน้ำท่วมมุ่งสู่มหาดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ เมืองจีน !!
วันอาทิตย์ที่ 13 มิ.ย. งาน ททท.ครบรอบปีที่ 50 งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 และวันนี้เป็นวันสุดท้าย !! จัดที่เมืองทอง งานนี้มีงาน dumping sale ขายสินค้าฉบับโละร้านด้วย คนเลยคับคั่งกว่าปกติ รถแน่นตั้งแต่ฮอลล์ยังไม่เปิดกันเลยทีเดียว ขนาดผมไปตั้งแต่ 9.30 น. รถก็เริ่มแน่นกันแล้ว ว ว ..ว งานนี้จัดได้น่ารักทีเดียวครับ รวมงานโอท็อปมาบวกกับแพกเกจท่องเที่ยว และของกินของเล่นพื้นบ้าน แต่ละภาคมีการจัดกิจกรรมที่เด่นๆ ของภาคตัวเอง ถ่ายภาพมาไม่หมดครับ เพราะคนเยอะใช้ได้เลย นำขบวนมาด้วยรถททท. 50 ปี อันนี้จำลองพาหุหรัดมาเลยทีเดียว การละเล่นพื้นบ้านของทุกภาคถูกรวมมาไว้ในที่เดียวครับ หนังกลางแปลงก็มีนะ วันเดียว เดินทางไปถึงแม่ฮ่องสอนโน่นแนะครับ นี่มาปั้นหุ่นโชว์กันเลยทีเดียว มีอีกเยอะครับ แต่เอามาให้ดูเพียงเท่านี้ก่อน งานนี้ตื่นตาดีทีเดียว ได้กรอบรูปไม้สวยๆมา 3 อัน ในราคาหาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาด และได้เสื้อไหมแท้จากเชียงใหม่มาตัวหนึ่ง งานแบบนี้สนุกดีครับ อยากให้ัจัดบ่อยๆ คนกรุงเทพกับคนต่างจังหวัดจะได้พบปะเจอกันบ่อยๆ ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง หลายๆคนที่มาเปิดบูทเขาทำเองผลิตเองโดยจัดกันเป็นกลุ่มก้อน แบบนี้น่าส่งเสริมมาก ถ้างานหน้ามีอีก ..ก็จะไปอีกครับ ช้อบ ชอบ 🙂
ทริปเล็กๆ ในตอนปีใหม่ ระหว่างเดินทางไปตจว.ก็แวะเที่ยวเป็นระยะ ใครเคยไปคงพอเดาออกว่าที่ไหน ..ถ้าเดาไม่ออกจะเฉลยละกันนะครับ นี่คือ “ปราสาทพนมรุ้ง” ในวิกิพีเดีย กล่าวถึงพนมรุ้งไว้ว่า ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งสูง 1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชื่อพนมรุ้งแปลว่าภูเขาใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18 จารึกต่าง ๆ ที่นักวิชาการได้อ่านและแปลพอจะสรุปได้ว่า พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 3 กษัตริย์แห่งเมืองพระนคร (พ.ศ. 1487-1511) ได้สถาปนาเทวาลัยถวายพระอิศวรที่เขาพนมรุ้ง ซึ่งในสมัยแรก ๆ คงยังไม่ใหญ่โตนัก ต่อมาพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 (พ.ศ. 1511-1544) ได้ทรงอุทิศที่ดินและข้าทาสถวายแด่เทวสถานพนมรุ้ง ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 นเรนทราทิตย์ เจ้านายแห่งราชวงศ์มหิทรปุระที่ปกครองดินแดนแถบนี้ (ซึ่งเป็นต้นตระกูลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างนครวัด) ได้สร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นและได้ทรงบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ ปราสาทพนมรุ้ง จากนั้นที่แวะยอดฮิตครับ วังน้ำเขียว พอดีเย็นมากแล้วยังไม่มีที่พัก ระหว่างทางแอบเห็นป้ายโฆษณารีสอร์ทต่างๆ เลยลองโทรสุ่มดู เผื่อยังมีที่ว่างให้ซุกหัวนอน ที่แรกก็ได้เลยครับ เจ้าของบอกว่า ความจริงไม่ว่าง แต่คนที่จองเขายกเลิก ห้องน้อยเลยตกเป็นของเรา ผมรีบบึ่งเข้าไปทันที .. นี่คือเจ้าของบ้าน เป็นแมวท้องโต เดินตามเราไม่หยุดเลย ถ้าจะถามว่า ปลายภูหมอก โอเคมั้ย เต็ม 10 ผมให้ 3 ครับ ทางเข้าก็แคบ ขรุขระ รถสวนกันไม่ได้เลย ถ้าบังเอิญมาปะกันระหว่างทางจะทำยังไง?? แอร์ไม่มี (แต่ตอนโทรคุยกันบอกมี) ไฟแสบตามาก อันนี้ผมรับไม่ได้สุดๆ พี่แกเน้นไฟสว่างรีสอร์ท รวมถึงตัวห้องแบบประหยัด ใช้ไฟตะเกียบ แบบสว่างจ้า แสบตามาก นอนดูทีวีบนเตียงต้องปิดไฟ จริงๆรีสอร์ทต้องมีไฟสลัวๆ หรี่ๆ แบบนุ่มๆ สบายตา อันนี้รับไม่ได้ๆ…
ต่อจากโพสต์ที่แล้ว (อ่านกินปู กินหมึก ศึกษาธรรมชาติ..ที่หาดปราณบุรี) โพสต์นั่น ทั้งหมดเป็นภาพจากกล้องคอมแพคพานาโซนิค ลูมิก หลังจากโพสต์ไปแล้ว มีหลายคนถามว่า ไม่เห็นมีภาพถ่ายรีสอร์ทที่พักเลย..ก็อย่างที่บอกนะครับ ผมไม่อยากจะโฆษณาให้เขาสักเท่าไร แต่มาคิดอีกที ..เราไม่ได้โฆษณา แต่อันไหนดี ก็น่าเอามาเผยแพร่แบ่งปัน เผื่อคนอืื่นอยากไป จะได้เลือกถูก..คิดได้ดังนั้น ก็เลยเข้าไปเอาภาพของเจ้าวรนัส (เขียนด้วยภาษาอังกฤษว่า voranas อ่านว่า วอ-ระ-นัส (ถ้าเพศเมีย เป็น voranus เพศผู้ จึงเป็น voranas ดังนี้แล)) เพราะจำได้ว่ามันถ่ายรีสอร์ทไว้อยู่หลายภาพ กล้องเขากะกล้องเรานี่มันคนละระดับกันเลยครับพี่น้อง กล้อง nikon d80 พร้อม Accessory เต็มหลังคารถ 6 ล้อ ไหนเลยเราจะเทียบเท่าได้ แต่ตกว่าไปด้วยกัน ..ก็เลยอาศัยเอาภาพมาประกอบบล็อกซะน่อย บรรยากาศในห้องพัก “พูลสวัสดิ์ ปาล์ม รีสอร์ท” ห้องน้ำครับ ..เก่าไปนิดนึง แต่น้ำอุ่นดี ด้านหน้าบ้านมีสระว่ายน้ำ แบ่งเป็นสระเด็ก สระผู้ใหญ่ (และสระคนชรา) อันนี้คือหน้าบ้าน..น่ามองมั้ย? บรรยากาศสระว่ายน้ำในยามค่ำคืน..สามารถเล่นได้ตลอด 24 ชม.ครับ เป็นสระน้ำเค็ม (แต่ยิ่งเค็มกว่าเดิม เมื่อพวกเราลงเล่น(ไม่รู้มีใครแอบฉี่หรือเปล่าในคืนนั้น 555+)) ส่วนอีกที่หนึ่ง กาลาโมน่า ..ไม่มีภาพประกอบครับ แต่อย่างที่เคยแนะนำไปแล้ว (อ่าน) ดังนั้น จะไม่กล่าวซ้ำอีก ก็คงพอได้ไอเดียสำหรับใครที่มีแผนจะไปปราณบุรี .. งานนี้ต้องขอบคุณแพททีเซียทัวร์ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เที่ยวสนุกเหมือนครอบครัว ..กับทัวร์แพททีเซีย” เห็นเจ๊แพททีเซียบ่นอุ๊บว่า หลังจากจบทริปนี้ว่าผิวหมองไปเยอะด้วยกรำแดดกล้า อีกทั้งกล้ามแขน/ขาก็ขึ้นเพราะว่ายน้ำทั้งคืน 555+ ป.ล. ถ้าไป อย่าลืมแวะอาหาร อุดมโภชนา อร่อย บรรยากาศดี ราคาไม่แพงนัก (ไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่อยากบอก)
23 ตุลาคมปีนี้ นอกจากจะตรงกับวันที่รัฐบาลจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทที่หัวหินแล้ว ยังตรงกับวันศุกร์ นั่นหมายความว่า เราจะมีวันหยุดกันถึง 3 วันเลยทีเดียว (ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์) โอ้..เย หลังจากลากปากกา กากบาทบนปฏิทินในวันดังกล่าวไว้ว่า “เที่ยว” แล้ว ก็เปิดเว็บไซต์หาข้อมูลที่เที่ยวทันที!! ได้รับความเห็นพ้องต้องการจากมวลสมาชิกนักเที่ยวว่า .. เราจะไปปราณบุรีกัน หลังจากหาข้อมูลและจองที่พักผ่านเครือข่ายออนไลน์ เราก็ได้ที่พัก 2 คืน 2 ที่ด้วยกัน หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมต้อง 2 ที่ 2 วันด้วย ตอบแบบมีข้ออ้างก็คือ ที่พักที่เราต้องการและอุตส่าต่อราคาเขาเรียบร้อยแล้วนั้น มีที่ว่างให้เราแค่คืนเดียว เราต้องเอาด้วยเกรงใจตามมารยาทอันดีงามของคนไทย และหาที่พักเพิ่มอีกหนึ่งที่ สำหรับอีกหนึ่งคืน ถ้าให้ตอบตามใจผม นั่นคือ ทำไมเราต้องพักในที่เดียวกันตั้ง 2 คืนละ ในเมื่อราคาก็เท่ากัน ไม่ลองไปเสพกลิ่น เสพอาหาร เสพบรรยากาศในบ้านอื่นบ้าง เวลาเรามีแค่ 2 วัน จะมามัวอยู่กับความรู้สึกเดิมๆทำไม จริงม๊ะ? ทริปนี้ผมแทบไม่ได้ถ่ายภาพภายในรีสอร์ทเลย ไม่อยากให้บล็อกเล็กๆแห่งนี้เป็นพื้นที่โฆษณาให้รีสอร์ทเขาสักเท่าไร แต่ก็จะเล่าและบอกข้อดีขอเสียของแต่ละที่ให้ฟังละกันนะ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่จะไปอยู่ คืนแรก เราได้ที่พักที่ กาลาโมน่า รีสอร์ท มีทางเข้าได้ 2 ทาง แต่ผมจำไม่ได้ว่า ทางไหนดี และทางไหนแย่ มันมีอยู่เส้นหนึ่ง(ที่ต้องไปเสี่ยงเอาเอง) ทางค่อนข้างแย่อยู่ประมาณ 500 เมตร นั่งไปกระเทือนไป เป็นหลุมเป็นบ่อพอสมควร กาลาโมน่า เป็นรีสอร์ทที่อยู่ห่างจากคนอื่นพอสมควร ใครที่ต้องการบรรยากาศของความเงียบสงบ ติดชายหาด ก็ต้องที่นี่เลย กลางบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ลึกแค่คอของคนสูง 167 ซม. ข้อดีคือ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว ส่วนข้อเสียคือ บ้านหลังที่ติดกัน (โดยเฉพาะหลังที่ผมพัก) มีฝาบ้านค่อนข้างบาง หรือเพราะอะไรยังไงก็ไม่รู้นะ ทำให้ได้ยินเสียงของห้องข้างๆชัด ห้องข้างๆจะเข้าห้องน้ำ เปิดประตู หรือคุยกัน ยังได้ยินเลย.. (แบบนี้ จะขัดแย้งกับข้อดีที่ว่า สงบ…
หลังสงกรานต์มา นอกจากทริปสั้นๆ แบบไปเช้าเย็นกลับแล้ว ผมยังไม่มีทริปไปเที่ยวแบบพักยาวๆ หรืออย่างน้อยได้ค้างสักคืนเลย อาทิตย์นี้เลยเข้าสู่ห้องBlueplanet แหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่และได้ประสิทธิภาพที่สุดในโลกไซเบอร์ ได้ความมาว่า หน้านี้ต้องไป ภูเขา ลำเนาไพร เพราะกำลังเขียวชะอุ่มได้ที่..ผมคิดถึงสวนผึ้ง ราชบุรี ป่าเขียวขจี รีสอร์ทแบบบูติก น่ารักๆ มีแกะกระโดดข้ามรั้วฯลฯ หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาทันที !! รีสอร์ทดีๆ เด็ดๆของสวนผึ้งถูกจับจองไปหมดแล้ว บางแห่ง เช่นเซนเนอรี่ , อ้อมกอดขุนเขา หรือ นากาย่า ถูกจองข้ามปีไปถึงปีหน้าโน่นแล้ว แอบเสียใจเล็กๆ แต่ไม่สิ้นหวัง สถานที่ๆให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน แต่อยู่กันคนละที่ นั่นคือ เขาใหญ่ ~ เนื่องจากเขาใหญ่ไปบ่อยแล้ว งานนี้เลยแฉล่บจากเขาใหญ่ไปหน่อย ผมจะไปวังน้ำเขียว !!!!!!!! วังน้ำเขียวมีอาณาเขตติดกันกับเขาใหญ่ ดังนั้น บรรยากาศจึงไม่แตกต่างกันเลย เพียงแต่ว่า เราไม่ต้องขึ้นไปบนเขาใหญ่ เราจะอยู่ริมเขา ลัดเลาะเลี้ยวสู่เขาเขียวในทันใด การเดินทางไปวังน้ำเขียว ก็ไปทางเดียวกับเขาใหญ่นั่นแหละครับ แต่ก่อนจะถึงด่านเก็บตั๋วขึ้นเขาใหญ่ เราแฉล่บไปทางซ้ายแทน มีป้ายบอกชัดเจน ไปวังน้ำเขียว บรรยากาศข้างทางสวยมากครับ เขียว สดชื่น ก่อนจะไปวังน้ำเขียวก็เป็นธรรมดา(ไปแล้ว) ของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย ว่าต้องแวะถ่ายรูปกันที่นี่ซะก่อน ร้านกาแฟ และขนมชื่อดังของเขาใหญ่เขาละ Primo Posto ระหว่างทางบรรยากาศดีมากครับ แว่บไปเห็นยอดเจดีย์กลางหุบเขา เลยหาทางเข้าไปจนเจอ พบว่าเป็นวัดสร้างใหม่ครับ เจดีย์ตั้งตระหง่านมาก ในอนาคตอันใกล้แสนใกล้นี้ น่าจะเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่คนต้องแวะไปกราบไหว้ (ขออภัย ผมจำชื่อวัดไม่ได้ ดูภาพแทนละกันนะครับ) ขณะที่ไปถึง ฟ้ากำลังปั่นป่วนครับ เริ่มจะเปลี่ยนจากฟ้าใสเป็นฟ้าสีดำ ท่าทางฝนจะตก ออกจากวัดดังกล่าว ก็ตรงดิ่งไปยังวังน้ำเขียวอันเป็นเป้าหมายสักที.. ~ ผมจะไปพักที่รีสอร์ท บ้านไร่โอโซน เป็นรีสอร์ทที่อยู่ไกลที่สุดของบรรดารีสอร์ทในวังน้ำเขียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว งานนี้ผิดพลาดไปนิ๊ดนึงตรงที่ว่า วังน้ำเขียว ถ้าอยู่ทางฝั่งของเขาใหญ่ ถนนหนทางจะดีเลิศประเสริฐศรีมากครับ แต่ถ้าหากข้ามถนนอีกฟากไปยังหมู่บ้านไทยสามัคคีที่ผมกำลังจะไปนี้ ถนนหนทาง นรกมากครับ เป็นหลุมเป็นบ่อเรากับอยู่บนดวงจันทร์ งานนี้่ต้องขับรถราวกับเต่าคลาน ขับรถไปก็สงสารรถไป ด้วยรถเป็นแจ๊สสีชมพูหวานแหวว (เกิดมามันคงพึ่งเคยเจอกับสภาพที่เลวร้ายขนาดนี้ -_-“) แต่บรรยากาศรีสอร์ทก็ทำให้หายเหนื่อยได้ครับ เป็นส่วนตัว สงบ…
ไม่รู้มาก่อนว่าที่เมืองทองธานี (อาณาจักรใหม่ของไทยชาติ) มีงาน วันนี้(อาทิตย์ 7 มิถุนายน 2552) ตุปัดตุเป่กันไปจึงพบว่า..เขามีงานชนกันตั้ง 3 งานนนนนนนนนนน งานแรกเป็นงานท่องเที่ยวไทย ไทยครึกครื้นเศรษฐกิจคึกคัก ไม่ได้ตั้งใจจะมาหาที่เที่ยว ก็เลยได้แต่เดินดูแพกเกจเที่ยวต่างๆนานาประดามี พบว่ามีหลายที่หลายแห่ง ให้ราคาค่อนข้างถูกมากครับ ใครที่วางแผนเที่ยวตอนปีใหม่ ถ้าได้จองกันตั้งแต่วันนี้เลย จะได้ราคาค่อนข้างดี แต่น้อยคนที่จะวางแผนเที่ยวปีใหม่ตั้งแต่วันนี้..เพราะมันอีกตั้งหลายเดือน กว่าจะถึงวันนั้น ไม่รู้คนร่วมทริปกับเราจะยังอยากจะไปอยู่อีกมั้ย? ทีเด็ดของงานนี้อยู่ที่เขาจำลองสถานที่ท่องเที่ยวและประเพณีของแต่ละภาคมาไว้ มีกันทุกภาคส่วน เห็นแล้วก็คึกคักคึกครื้น อยากเสียเงินเหลือเกิน เดินกันที่นี่พอหอมปากหอมคอ หอบแฮ่กแล้ว ก็ไปอีกงาน งานนี้เรียกตัวเองอย่างเป็นทางการอย่างไร จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นงานสินค้าจากโรงงานลดล้างสต็อก คือเสื้อผ้า ของใช้ ยี่ห้อดังๆ ไม่ว่าจะเป็นไนกี้ คอกโคได ฯลฯ ต่างขนเอาเสื้อผ้ามาลดราคากันแหลก (แต่ลดยังไง ผมก็ว่ายังแพงอยู่ดี) มีอีกเยอะแยะมากมายครับ จำชื่อไม่ได้ มาลดมาขายกัน งานนี้ได้เสื้อให้คุณแม่ 2 ตัว งานนี้คนเยอะกว่าคนท่องเที่ยวอีก เดินกันชนิดหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว อีกงานหนึ่ง เป็นงานเกี่ยวกับเกษตร วิชาการเกษตรปีที่ 39 ประมาณนี้ งานนี้คนจะน้อยกว่าทุกงาน แต่ก็ยังดูเยอะอยู่ดี งานนี้เขาขนเอาต้นไม้มาไว้ซะรกครึ้ม ไม้พืชสวน สารพัดเห็ด ต้นไม้ยืนต้น ต้นทุเรียน ต้นกาแฟ ต้นข้าว ฯลฯ มีพันธ์ไม้ขายด้วย ก็เดินอยู่พักหนึ่ง ได้กาแฟห่อใหญ่กับน้ำองุ่นกลับบ้าน คิดว่าพอละ งานนี้เหนือย แต่ไม่ค่อยน่าเบื่อ ที่เมืองทองสถานที่กว้างขวาง ห้องน้ำเยอะ ถึงคนมากก็ไม่รู้สึกว่าแน่น ไม่เหมือนทีศูนย์ประชุม ช่วงนี้มีงานประเภทนี้บ่อยๆ ทุกภาคส่วนต้องการช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ถ้าไทยซื้อของไทย เที่ยวเมืองไทย ก็เท่ากับช่วยคนไทยช่วยเศรษฐกิจไทย แต่ขณะที่ทุกส่วนต่างช่วยคนไทยด้วยกันอยู่ สอสอผู้มีเกียรติหลายท่าน ก็แอบไปต่างประเทศด้วยข้ออ้างสุดคลาสสิค ไปดูงาน ไปประชุม ประชุมในเมืองไทยแล้ว คิดอะไรไม่ออกรึไง..นิสัย
ตั้งแต่ได้ Macbook มาจนครบปีละ ยังไม่เคยใช้เจ้าโปรแกรมที่แถมมากับเครื่องอย่าง imovie เลย ไม่รู้มันมีคุณสมบัติใดบ้าง วันนี้จึงนั่งมั่วๆดู ปรากฏว่า มันก็คือ โปรแกรมไว้ตัดต่อวีดีโอ ทำสไลด์ แบบง่ายๆ นั่นเอง ทราบดังนั้น เลยตัดต่อเติมแต่งง่ายๆ ด้วยทริปเขาใหญ่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีภาพเคลื่อนไหว เลยหยิบคลิปของ รุจ ที่ถ่ายโดยกล้องของmacbook ใส่ประกอบด้วยซะเลย.. ภาพคลิปอาจคมชัดสู้ไฟล์ต้นฉบับไม่ได้ อันนี้เข้าใจ เพราะเงื่อนไขของขนาด และชนิดของไฟล์ที่ถูกบีบอัดจนร้องโอย.. แต่ถึงจะอย่างไร ให้พอเห็นภาพก็ใช้ได้ละ เขาใหญ่ไปกี่ครั้งก็สนุก.. ว่างๆลองไปเที่ยวกันดู รับรองว่า ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
ปีใหม่แบบไทยๆ สาดน้ำ ปะแป้ง รดน้ำ ดำหัว ยึดรถเมล์ เผารถ ไล่กระทึบ ยิง ฟัน ฆ่า ฯลฯ กลายเป็นวันประวัติศาสตร์ไปอีกวัน นอกจาก 6 ตุลา , 14 ตุลา, พฤษภาทมิฬ , 7 ตุลา และล่าสุดสดๆร้อนๆ 12 เมษา คนไทยแบ่งเป็นฟักฝ่ายโดยแยกตามสี สีใหญ่ๆมี 2 สี แต่ไม่แน่ใจในอนาคตจะมีสีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ สีน้ำเงินที่โผล่มาแค่วันเดียวก็หายไป อาจจะเป็นสีเฉพาะกิจ แต่จะสีไหนก็ตาม เสื้อผ้าทั้งสองสีของผม ถูกพับเก็บไว้ในตู้มิดชิด ไม่ยอมใส่มันอีกต่อไป (ถึงจะชอบแค่ไหนก็ตาม) วกมาเรื่องตัวเองบ้างดีกว่า สงกรานต์ปีนี้ก็เหมือนทุกๆทีครับ ..ไปทะเล ผมไม่ได้ไปเยี่ยมแม่ พี่น้อง หรือญาติผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์นานแล้ว..(จนลืมไปแล้วว่า วันสงกรานต์ต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะถูกต้องตามจารีตประเพณี) จารีตประเพณีที่บังคับให้เราทำอะไรเหมือนๆกันในวันเดียวกันนี่เอง ทำให้เกิดปัญหา~ ปัญหารถติดเพราะต้องออกไปไหว้ผู้ใหญ่ในวันเดียวกัน ปัญหาสถิติคนตาย ปัญหาคนตกรถ อุบัติเหตุ ฯลฯ เราถูกตั้งกฏ(โดยสื่อหรือใครก็ไม่รู้)ให้รักแม่รักพ่อปีละครั้ง รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ปีละ 3 วัน มีการรณรงค์ส่งเสริมให้ไปไหว้พ่อไหว้แม่ในวันดังกล่าว จนคนที่รักพ่อรักแม่อยู่ทุกวัน ไหว้พ่อไหว้แม่อยู่ทุกวัน รู้สึกไม่มั่นใจว่าที่ทำๆทุกวันนั่น ใช่รักพ่อรักแม่รึยัง? ต้องรีบไปไหว้เป็นพิเศษในวันนั้นให้ได้ ส่วนคนอื่นๆที่พ่อแม่อยู่ไกล ก็ต้องรีบออกจากบ้านออกเดินทางพร้อมกันในวันเดียวกัน จะไม่ไปก็ไม่ได้ เปิดทีวีช่องไหน ก็มีแต่ภาพดาราไหว้พ่อไหว้แม่ กอด จูบพ่อแม่อยู่นั่น จนคนดูเริ่มรู้สึก (แรกๆแค่รู้สึกคิดถึงพ่อแม่ แต่หลังๆชักรู้สึกมั่นไส้) ผมก็ไม่ได้แอนตี้ประเพณีแบบนี้กันหรอกนะครับ เพียงแต่ว่า ปีละครั้ง มันพอเหรอ?? รณรงค์ ส่งเสริมกันแค่ปีละครั้งเองเหรอ คนที่รักพ่อแม่จริงๆ ทำได้ทุกวันง่ายๆ ทำตัวให้เป็นคนดี จะทำอะไรไม่ดีก็ขอให้คิดถึงท่านก่อน ก่อนนอนกราบพระและระลึกถึงท่าน อุปัฏฐาก บำรุง ดูแล ตามสมควร ฯลฯ เอาละ พูดมาเยอะแยะนั่นนะ ความรู้สึก ความเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ ไม่ต้องเห็นร่วมก็ได้ เอาภาพที่หนีกรุงเทพฯไปเที่ยวทะเลมาฝาก (ต้องใช้คำว่าหนีจริงๆ เพราะวันที่ไปนั่นนะ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดแล้ว…