Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ปางอุ๋ง

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางอุ๋ง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 20 December 202024 September 2021

ปางอุ๋ง หลังจากออกจากปางมะผ้า ชุมชนหมู่บ้านจ่าโบ่ เราก็มุ่งหน้าสู่ปางอุ๋ง..เส้นทางที่แม้สวยงามเพียงใด แต่เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเส้นทางที่วิ่งไปตามเขา เราจึงขับรถไปด้วยความวิงเวียนพอสมควร ทั้งโค้งขึ้นและโค้งลงเขา จนในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง.. ปางอุ๋ง ปางอุ๋ง หรือชื่อเต็มก็คือ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนพม่ามีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระราชินีนาถจึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้น และพัฒนาความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงแนวชายแดน พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ให้ดีขึ้นและฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ต้องไปปางอุ๋ง ไปเสพธรรมชาติและความงดงามของสายน้ำยามเช้า คอยลุ้นว่าจะมีหมอกบนสายน้ำมั้ย..อากาศที่ปางอุ๋งว่ากันว่าหนาวทั้งปี และครั้งนี้ก็หนาวจริง น้ำนี่เย็นเจี้ยบบบ ผมมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้พูดเต็มปากว่าได้มาแล้ว ที่ใครเคยพูดว่าปางอุ๋งสวย เราก็จะได้มาเห็นด้วยตัวเองว่าจริงมั้ย..ก็สวยจริงนะครับ แต่วันที่ผมมานั้นไม่มีหมอก T_T ข้อเสียอย่างหนึ่งของจุดกางเต๊นท์ที่นี่คือ ทำเลดีๆ สวยๆติดริมน้ำ ถูกเต๊นท์เช่าของเจ้าหน้าที่กางทิ้งไว้หมด จะมีนักท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม เต๊นท์ก็จะกักที่ไว้อย่างนั้น วันที่ผมไปนักท่องเที่ยวไม่ได้เยอะมากนัก แต่เต๊นท์เช่าเหล่านั้นก็ถูกกางกักที่ไว้เช่นนั้น นอกจากจะกักที่ดีๆไว้แล้ว ยังมองดูเกะกะวิวสวยๆไปหมด เป็นไปได้ไหมครับว่าเต๊นท์เช่าเราไม่ต้องกางทิ้งไว้ รอเวลามีคนมาขอเช่าแล้วค่อยไปกางให้เขา ณ ตำแหน่งที่ผู้เช่าอยากให้กาง เต๊นท์เองก็จะไม่โทรมเร็ว และมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นบ้าง ครั้นจะไปกางเต๊นท์ในจุดที่ห่างจากผู้อื่น วิวสวย เงียบๆ แต่ก็จะไกลจากห้องน้ำมาก.. เช้าวันต่อมา หลังจากออกไปวิ่งเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ผมกลับมาอาบน้ำในขณะที่น้ำเย็นมากกกกก ก .. แต่เหงื่อท่วมตัวแบบนี้ไม่อาบไม่ได้ครับ คนอื่นๆที่นั่งหนาวผิงไฟ ออกอากาศตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมอาบน้ำ หลังจากเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าเราก็บอกลาปางอุ๋ง.. ขากลับผมตั้งใจจะยิงยาวจากปางอุ๋ง ไปกรุงเทพเลยโดยไม่วนกลับมาทางเชียงใหม่ และเส้นทางที่เลือกนั่นคือ ไปทางแม่สะเหรี่ยง ถนนดี รถน้อย แต่ไกลกว่าและโค้งเยอะกว่ามากครับ ระหว่างทางก็เลยแวะร้านกาแฟเรื่อยๆ ออกเดินทางต่อเข้าสู่โหมดภูเขาและมหากาพย์โค้ง โค้งจนร้องขอชีวิต ในที่สุดก็มีจุดให้แวะเมื่อเราผ่านไปแล้วกว่าพันโค้ง!! ขับรถมาถึงแม่สอด ก็มืดค่ำพอดี ก็เลยต้องหาที่หลับที่นอนที่แม่สอดและระหว่างทางกว่าจะถึงที่พักนั่นก็ระทึกพอสมควรครับ แม่สอดเป็นอำเภอที่ติดกับชายแดนพม่า ถนนมืดสนิทด้านซ้ายเป็นเหว ด้านขวาเป็นภูเขาและราวกับว่าเราขับรถอยู่คนเดียวในหุบเขา นานๆจะมีรถสวนมาสักคัน..ถ้าใครกลับจากแม่ฮ่องสอนเพื่อเข้ากรุงเทพ ไม่แนะนำเส้นทางนี้นะครับ ~ เปลี่ยวเกิ้น จบละครับทริปแม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว เจอกันใหม่ทริปหน้า.. ปิดท้ายด้วยเส้นทางวิวสวยๆจากแม่สอด.

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน
อ่านต่อ

ฝากรอยเท้า ณ บางแสน

ท่องเที่ยว, วิ่ง 30 August 20163 November 2017

สืบเนื่องจากคุณแฟนไปประชุมที่บางแสน ตั้งแต่วันศุกร์ ก็เลยผุดไอเดียไปเที่ยวบางแสนด้วยซะเลย ระยะทางแค่ 100 กว่ากิโลจากกรุงเทพไม่น่าเป็นปัญหา ออกเดินทางวันเสาร์ งานนี้ได้ชวนป้าและน้องแฟนไปด้วย โดยนัดหมายไปเจอกันที่บางแสนเลยทีเดียว การเดินทางไปบางแสน ถ้าจะให้เร็วก็ต้องใช้ทางด่วนบูรพาวิถี แต่ถ้าจะให้ง่ายก็ใช้มอเตอร์เวย์ยิ่งตรงไปจนถึงถนนข้าวหลาม เห็นถนนข้าวหลามแล้วออกซ้ายเพื่อยูเทิร์นแล้วเลี้ยวซ้ายแรกไปยังหาดบางแสน เดินทางง่าย   งานนี้ผมไม่พลาดที่จะหิ้วชุดและรองเท้าวิ่งไปด้วย กลางคืนวันเสาร์ฝนตกหนักมาก แต่ผมยังหวังว่าเช้าฝนจะหยุด จนกระทั่ง 6 โมงเช้านาฬิกาปลุก ผมแต่งตัวเตรียมออกไปวิ่ง …. แต่เมื่ออกจากตัวตึกกลับพบว่า ฝนยังคงโปรยปรายแม้ไม่หนักมาก แต่ก็ทำให้ไม่สามารถออกไปวิ่งได้แน่นอน กลับเข้ามานอนต่อ จนกระทั่ง 9 โมง จึงหิ้วรองเท้าออกไปใหม่ ฝนหยุดแล้ว และแดดยังไม่มา วิ่งสิครับรออะไร ริมหาดบางแสนแม้จะมีร้านรวงค่อนข้างหนาตา แต่ตรงกลางเขาได้เว้นทางเอาไว้ และปูด้วยหินอ่อน วิ่งไปจนสุดหาดจะมีระยะทางถึง 5-6 กิโลเมตร แม้ทางหินอ่อนจะกว้าง แต่ข้างทางเต็มไปด้วยร้านและผู้คน วิ่งต้องคอยหลบคอยระวังตลอดเวลา หินอ่อนหลังฝนตกก็มีความลื่น ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ งานนี้วิ่ง 10 กิโลเมตรครับ งานหน้าจะไปฝากรอยเท้าไว้ที่ไหน ค่อยว่ากันอีกที

บางแสน วิ่ง

สุดยอดภาพแห่งปี 2008

สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 4 April 2009

ช่วงนี้มีแต่เรื่องเครียดๆ ทั้งการบ้านการเมือง, ผู้ชุมนุม, ปัญหาเศรษฐกิจ ไหนจะปัญหาระหว่างประเทศ (ไทยกะเขมรยิงกันสนั่นเมือง(เมื่อวานนี้)) ข่าวโน่นข่าวนี่ มีแต่ข่าวเครียดๆ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว มาหาอะไรที่มันบันเทิงเริงใจ ดูแล้วทำให้ใจสดชื่น คิดไปในทิศทางบวกดีกว่า เว็บไซต์ต่างประเทศรายหนึ่ง เปิดให้ผู้ชมส่งภาพและโหวตภาพกัน และจากกิจกรรมนี่เองทำให้เราได้ชมภาพ น่ารักๆ ขำๆ จากทั่วโลก ภาพต่อไปนี้ที่ชนะโหวดนะครับ แต่ผมไม่ได้เรียงว่าอันไหนได้ที่ 1 ที่ 2 หรือที่ 3 แต่ละรางวัลเขามีชื่อด้วยนะครับ เช่น รางวัลภาพ  “Specail Animal world” เอามาดูกันเพื่อสร้างรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก .. (ถ้าภาพเล็กกรุณา Refresh หน้านี้ หรือกด F5)     เห็นภาพนี้แล้วคิดถึงภาพยนตร์ไทยเรื่อง “โคลิค เด็กเห็นผี”   จ๊ะ..เอ๋ อิริยาบถของเจ้าป่าอย่างสิงโตแบบนี้ ไม่เคยเห็นกันแน่ๆ   ภาพนี้น่ารักมั่กๆๆ.. ภาพอันสุดท้ายนี่เหลือเกินจริง ๆ แต่คงถูกใจคนที่เกลียดทหาร –_-“

อ่านต่อ

Solo Camping | กางเต็นท์คนเดียว

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 30 January 202213 March 2022

เป็นครั้งแรกของผมสำหรับการออกเที่ยวคนเดียว และโดยเฉพาะการเที่ยวแบบแคมป์หรือกางเต็นท์นอน เป็นความอยากที่เก็บไว้มานานแล้ว เมื่อมีโอกาสจึงขอลองสักครั้ง และครั้งนี้ผมเลือกที่นี่ครับ Lakeview Cafe กาญจนบุรี หลังจากดูรีวิจากที่คนอื่นเขาเคยมาแล้ว ภาพภูเขาที่สะท้อนกับทะเลสาปเหมือนภาพวาดดึงดูดใจราวกับมีเสียงเรียกร้องให้ผมมาเยือนทุกค่ำคืน ในที่สุดผมก็มาตามคำเรียกร้อง และก็ไม่ผิดหวังเลย ภาพในหัวที่คิดกับสถานที่จริงไม่แตกต่างกันเลย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีไม่กี่ครั้งที่ความคาดหวังจะกลายเป็นความผิดหวังเมื่อเจอของจริง ที่เป็นเช่นนั้น เพราะคนส่วนใหญ่นำเสนอแต่มุมที่สวยงามและถ่ายภาพเฉพาะมุมที่สวยที่สุดเท่านั้น แต่ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมรับรองได้ กับราคาค่ากางเต็นท์คืนละ 300 บาท มีจุดให้ต่อไฟ มีห้องน้ำแยกชายหญิง ผมว่าคุ้มค่ามากครับ ทริปนี้ผมใช้เต็นท์ขนาดเล็กที่พกพาง่ายและเบาอย่าง naturehike หลังจากทำอาหารเย็นอย่างง่ายๆ กินเสร็จแล้ว ก็นั่งชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน แม้จะเริ่มย่างเข้าฤดูร้อน แต่พอหลังตะวันตกดินอากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อนเข้านอนในเวลา 5 ทุ่ม ผมเช็คสภาพอากาศอยู่ที่ 18 องศา นอนหลับสบาย การได้ใช้ชีวิตคนเดียวแบบเงียบๆ ทำให้ใจผมสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รอบตัวได้ยินเพียงเสียงสรรพสัตว์ ไม่มีเสียงรถราและผู้คน ค่ำคืนนี้มีแต่เราผู้เดียว ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างช้าช้าโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น ลองไปเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้งนะครับ แล้วจะพบว่าตัวเราที่เรารู้จัก อาจไม่ใช่ตัวเราที่เราเป็นก็ได้.

Lakeview กาญจนบุรี
อ่านต่อ

จิ๊กกี๋ในวัย 70 กะรัต

สุขกะภาพ, ไดอารี่ 23 September 20163 November 2017

เข้าสู่วัย 10 ขวบแล้วสำหรับจิ๊กกี๋ ถ้าเป็นคนก็เริ่มเข้าสู่วัย 70 นิสัยเธอก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขี้อ้อน ขี้กลัว กลัวฝนกลัวฟ้าร้องกลัวฝนตก สายตาเริ่มพร่ามัว มองไกลๆไม่ค่อยเห็นตามประสาหมาสูงอายุ แต่ยังเป็นหมาที่กินยาก ฉี่ยาก อึยากเช่นเคย เอาภาพมาอัพเดตไว้เท่านี้แหละ

จิ๊กกี๋
อ่านต่อ

บาป-บุญ-คุณ-เธอ

สุขกะภาพ 3 April 2014

เมื่อตอนเด็กๆ พอยังจำความได้นิดๆหน่อยๆ แม่จะกระเตงผมไปวัดด้วย ขณะฟังพระท่านให้ศีลให้พรผมก็ปีนป่ายตามตัวแม่ แม่ก็พยายามจับมือผมพนมพร้อมกับดุว่าต่อหน้าพระอย่าซน ผมหยุดซนได้ไม่เกิน 10 วินาที ก็เริ่มซนใหม่ ตามประสาเด็ก   พอโตขึ้นมาหน่อย แม่ก็เริ่มสอนให้รู้จักใส่บาตรตอนเช้า ส่วนหนึ่งคือช่วยเป็นภาระแทนแม่ แม่มือไม่ว่าง ก็ได้ผมช่วยใส่บาตรแทน แม่ก็ได้บุญในฐานะคนจัดหาอาหารมาใส่บาตร ผมก็ได้บุญในฐานะตัวแทนมาทำบุญตักบาตร ความใกล้ชิดกับวัดวา พระสงฆ์องค์เจ้าตั้งแต่เด็กนี่เอง ทำให้เรากลัวในบาปบุญคุณโทษ เชื่อเรื่องกรรม ซึ่งอาจจะตรงข้ามกับคนในยุคปัจจุบันที่มองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องขบขัน และมักมีคำถามแปลกๆ ว่า บาปบุญมีจริงเหรอ? นรกสวรรค์อยู่ตรงไหน? ทำดีได้ดีจริงหรือ? ฯลฯ ผมเองก็คงตอบไม่ได้ต่อคำถามเหล่านี้ เพราะตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นคำถาม เหมือนมันมีคำตอบอยู่แล้วในตัวของมัน มันจะค่อยๆชัดเจนเรื่อยๆ ตามวัย เห็นภาพนี้แล้วก็คิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ ผมคงไม่นั่งเปะเหมือนเด็กในภาพ แต่วัย ณ ขณะนั้นคงไล่เลี่ยกัน คำอธิบายภาพ : ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ iphone 4s หน้าร้านข้าวแกง/อาหารตามสั่ง ติดกับโรงพยาบาลเพชรเวช เสื้อสีม่วงนั่นคือพนักงานของโรงพยาบาลเพชรเวช

พระ ใส่บาตร
อ่านต่อ

ลาก่อนน้องมารชมพู

บ่น, ไดอารี่ 2 April 20178 June 2019

ความผูกพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ที่ หรือสิ่งของ หากเราใช้ชีวิตกับมันนานๆย่อมมีความผูกพันธ์..และครั้งนี้ก็เช่นกัน จำใจจากน้องมารชมพูด้วยความอาลัยรัก

jazz น้องมารชมู

ตัวต่อตัว..ไม่กลัวอยู่แล้ว

ไดอารี่ 28 January 2011

ช่วงนี้แฮงก์บ่อย ไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้เมา แต่คิดมาก ..คิด คิด มาก มาก ตอนเด็กๆ ได้ยินผู้ใหญ่ชอบพูดว่า เป็นเด็กสบายไม่ต้องคิดมาก ก็ไม่เข้าใจว่า ผู้ใหญ่เขาคิดมากเรื่องอะไร? วันนี้เป็นผู้ใหญ่กะเขาบ้างแล้ว ก็เลยเข้าใจว่า ผู้ใหญ่เขาคิดมากเรื่องอะไร? มันบอกเป็นชื่อเรื่องไม่ได้ เพราะไม่รู้จะตั้งชื่อเรื่องอะไร แต่มันสุมๆ กองๆ เยอะๆ วุ่นๆ วายๆ อยู่ในหัว จะจัดการอย่า่งไร? ให้หมดไปคงยาก คงมีวิธีเดียว คือตามรอยพุทธองค์ หยุดใจให้นิ่ง..แยกแยะปัญหาแต่ละเรื่องออกมา เมื่อเรียงปัญหาตามลำดับความสำคัญ 1 2 3 แล้ว ก็กระโจนใส่ทีละปัญหาอย่างบ้าคลัง ดูสิว่า ใครจะแน่กว่ากัน ถ้าตัวต่อตัวรับรองมันสู้เราไม่ได้อยู่แล้ว ที่เราแพ้ เพราะเราเอาตัวคนเดียวสู้กับปัญหาทั้งหมด แต่ถ้าลองแยกปัญหาแต่ละตัวออกจากกัน แล้วลุยตัวต่อตัวทีละปัญหา.. รับรอง ..ชนะชัวร์ ปล. คิดเป็นนี่ ..แต่ทำให้ได้นะโคตรยาก!!

หลุด4เหี้ย

เรื่องทั่วไป 26 June 2011

หลุด 4 หลุด เข้าโรงตั้งแต่เดือนมกราคม วันนี้พึ่งมีโอกาสเข้าร้านวีดีโอจึงเช่ามาเบิ่งชม.. หลุดสี่หลุดเป็นหนังสั้นสี่เรื่องจิตหลุดโดยสี่ผู้กำกับ ผมชอบหนังสั้นเพราะรวบรัดดี ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก ผีจะออกก็ออกตั้งแต่เนิ่น คนจะชั่วก็ชั่วได้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ไม่ต้องปูพื้นมากมายเสียเวลา หลุดแรก “เกรียนล้างโลก” สั้นมาก สั้นจริงๆ มีฉากเดียวคือโต๊ะกลางแจ้ง นั่งคุยกันตามประสาวัยรุ่นที่ต้องเริ่มต้นประโยคด้วยเหี้ย และลงท้ายด้วยสัตว์..เหมือนเป็นโครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ ต้องเปิดประโยคด้วย “เหี้ย” หรือ “ห่า” และปิดประโยคด้วย “สัตว์” หรือ “แม่ง” หลุดแรกทำเอาผู้ชมหวั่นไหวกันเลยทีเดียว หวั่นไปถึงว่าหลุดต่อๆไปจะมาตรฐานเดียวกันหรือเปล่า เพราะมันสั้นและบอกตามตรงยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลย เหมือนหนังทำเล่นๆ หลุดที่สอง “ร้านของขวัญแด่คนที่คุณเกลียด” เรื่องนี้เปิดประเด็นได้น่าสนใจและสยองเล็กๆ แต่มันมีดีแค่นั้นเอง กลางเรื่องจืดชืด นิ่งสนิทจนต้องเผลอหลับ แถมตอนจบมีหักมุมแบบกวนตีน..เหี้ยเอ้ย ผมไม่ได้ด่าหนัง แต่พระเอกเขาพูดประโยคนี้เกือบทุกบทสนทนาอีกเช่นเคย โครงสร้างภาษาไทยแบบใหม่ๆ หลุดที่สาม “คืนจิตหลุด” ได้นักแสดงขั้นเทพอย่างอนันดานับว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย พี่แกเล่นหนังได้เทพจริงๆ บทโรคจิตพี่แกตีบทซะแตกกระจุย เรื่องนี้ถ้าดูในโรง แม่ที่พาลูกเล็กๆเข้าไปดูด้วย สงสัยต้องรีบพากลับบ้าน เพราะมีฉากสยองขวัญสั่นประสาทอย่างฉากตัดนิ้วตัวเองทีละนิ้วๆ ให้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมอย่างเดียวบทอ่อนและการหักมุมแบบไม่น่าหักทำให้หนังสนุกน้อยลง จบแบบ..เหี้ยเอ้ยเช่นกัน และหลุดสุดท้าย “ฮู อา กง” เรื่องนี้อารมณ์เดียวกับบุปผาราตรีภาคแรก ขำก็ขำ พอบทจะน่ากลัวก็โคตรน่ากลัว แต่แล้ว..หนังก็จบแบบปัญญาอ่อนและเหี้ย..อีกเช่นกัน คือ ดูจะเป็นหนังครอบครัวๆ พูดจากันดีมีการศึกษากว่าสามตอนก่อนหน้านี้ แต่แล้วนางเอกที่หมวยใสน่ารักก็พูดคำว่า “เหี้ย” ซะเอง เท่านั้นไม่พอ ผีอากงที่พูดไทยไม่ค่อยชัดเลย แต่พูด “เหี้ย” ชั๊ดชัด ผมว่าทั้งสี่เรื่อง ไม่น่าเรียกตัวเองว่าหลุดสี่หลุด น่าจะเรียกว่า “หลุดสี่เหี้ย” มากกว่า เหี้ยเต็มโรงไปหมด ไม่ได้จะถือสาคำๆนี้เท่าไรนะครับ ถ้าตัวละครมันเหมาะกับคำๆนี้ อย่างอนันดาหรือเด็กวัยรุ่นในตอน “เกรียนล้างโลก” ก็ไม่รู้สึกเท่าไร แต่นี่เหมือนตั้งใจให้ทั้งสี่เรื่อง มีเหี้ย เหี้ย และเหี้ยเต็มโรงไปหมด คุณไม่ได้ด่าคนดูใช่มั้ย

หลุด4หลุด
อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปาย-หยุนไหล

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 December 202024 September 2021

หลังจากออกจากห้วยน้ำดัง จุดหมายที่ตั้งใจไว้คืออำเภอปาย เราไม่ได้จองที่พัก หลังรถเรามีเต๊นท์และอุปกรณ์ปิ้งย่าง ดังนั้นจุดที่เรากำลังมองหาคือจุด กางเต๊นท์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งที่มาเที่ยวปายครั้งแรก ผมประทับใจจุดกางเต๊นท์ตรงโป่งน้ำร้อนท่าปายมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง และน่าจะมีเพื่อนกางเต๊นท์เยอะไม่เหงาไม่น่ากลัว คิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่นทันที ระหว่างทางมีป้ายเล็กๆข้างถนนก่อนถึงโป่งน้ำร้อนท่าปาย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” แวะไปห้อยขาซะหน่อย.. หลังจากอิ่มท้องก็ออกจากร้านและมุ่งหน้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย..รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย (จริงๆก็ผิดหวังมากเลยละ) ความเป็นธรรมชาติแบบเมื่อก่อนหายไปหมดละ โป่งน้ำร้อนได้รับการทำให้เป็นกิจจะลักษณะด้วยการก่อปูนทุกบ่อ ดูเหมือนจะเจริญขึ้น แต่ทำไมผมไม่รู้สึกประทับใจ บรรยากาศโดยรวมดูเงียบเหงา อาจจะเพราะโควิดด้วยส่วนหนึ่ง พื้นที่ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ถ้าจะกางเต๊นท์นอนที่นี่คืนนี้คงมีแต่เต๊นท์เราหลังเดียวให้เปล่าเปลี่ยวหัวใจ เมื่อภาพในหัวไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงต้องรีบหาที่พักใหม่ก่อนจะมืดค่ำ เราต้องการที่พักแบบกางเต๊นท์ จนในที่สุดก็มาสะดุดกับคำว่า “หยุนไหลทะเลหมอก” คำว่า “หยุนไหล” ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับภาพประกอบ ภาพที่มีจุดกางเต๊นท์อยู่บนพื้นที่สูงวิวแบบ 360 องศา มองลงมาเห็นอำเภอปายทั้งอำเภอ ไม่รอช้า..มุ่งหน้าไปทันที ขับออกจากอำเภอปายมาทางหมู่บ้านสันติชลประมาณ 30 นาที ทะลุผ่านหมู่บ้านสันติชลเข้าไปอีกครับ จะมีทางเข้าที่ต้องขับผ่านหมู่บ้านเป็นถนนเล็กๆ และเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะเห็นป้ายคำว่า “หยุนไหล” อยู่บนเนินเขาเล็กๆ หยุนไหล..จุดชมวิวทะเลหมอก และจุดกางเต๊นท์ ที่นี่มีบริการทั้งเต๊นท์ให้เช่าและเต๊นท์นำมากางเองครับ ถ้านำเต๊นท์มาเองอย่างผมค่าบริการอยู่ที่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องน้ำ จุดล้างภาชนะ รวมถึงปลั้กไฟให้ใช้ ส่วนวิวรับรองว่าคุ้มค่ามาก.. เช้าวันรุ่งขึ้นผมตั้งใจจะวิ่งซิตี้รัน เพื่อชมวิถีชาวบ้านแถวนี้สักหน่อย ประมาณ 6 โมงเช้าฟ้าเริ่มสาง ผมก็เริ่มวิ่งจากเขาลงมา และภาพต่อไปนี้คือภาพที่ได้จากการวิ่งซิตี้รันประมาณ 6 กิโลเมตร กลับจากวิ่งประมาณ 9 โมงแล้ว แดดเริ่มมาต้องรีบเก็บเต๊นท์ ทานข้าวเช้าจุดมุ่งหมายของเราต่อไป นั่นคือ “ปางอุ๋ง” ออกจากหยุนไหลละครับ ใครชอบกางเต๊นท์ที่นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ช่วงนี้ไปยังไม่หนาวมากนักตกกลางคืนแค่ 15 องศา ชาวบ้านบอกว่าช่วงหนาวมากๆ มีต่ำกว่า 10 องศาแนะ โพสต์หน้าเจอกันที่ “ปางอุ๋ง”

ปาย หยุนไหล แม่ฮ่องสอน

ทองขาว

ไดอารี่ 18 June 2011

หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่คือ “พฤกษาทาวน์” อยู่ถนนราชพฤกษ์และเป็นโครงการของพฤกษา บริษัทที่สร้างบ้านเยอะที่สุดและมีเรื่องให้พูดถึงในแง่ลบเยอะที่สุดเช่นกัน บ้านผมเป็นทาวน์โฮมครับ ถ้านึกภาพไม่ออกว่าทาวน์โฮมเป็นยังไง ก็ให้นึกถึงทาวน์เฮาทส์ ต่างแต่ว่าทาวน์โฮมสร้างไว้สำหรับอยู่อาศัยเป็นหลัก แต่ทาวน์เฮ้าสท์สร้างไว้ขายของและนิยมปลูกริมถนนใหญ่ แน่นอนทาวน์โฮมก็มีบ้านติดๆกันใช้กำแพงและฝาบ้านร่วมกัน ข้างบ้านผมเป็นคุณลุงคุณป้าวัยเกษียณใจดีทั้งคู่เอ็นดูเราเป็นลูกเป็นหลาน บ้านเราเลี้ยงหมาไทย แต่ชื่อฝรั่งชื่อจิกกี๋ ตัวสีดำ ส่วนลุงกะป้าเลี้ยงหมาบางแก้ว ชื่อไทยๆว่า “ทองขาว” แน่นอนตัวขาวอวบ ทั้งสองไม่ใช่เพื่อนรักกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียดกันมีคำรามใส่กันบ้างบางครั้ง ทองขาวอายุมากกว่าจิ๊กกี๋ 2  ปี ทั้งสองตัวแม้จะมีสีต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันมากนั่นคือ ความหวงบ้านและรักเจ้าของ ทุกครั้งที่มีใครมา ไม่ว่าจะเป็นหมาด้วยกันหรือคนแปลกหน้าผ่านมาหน้าบ้าน ทั้งสองจะกระโจนเห่าแสดงท่าทีดุร้ายใส่ทันที ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงต้องถูกล่ามไว้ในยามเจ้าของไม่อยู่ ทองขาวกับจิ๊กกี๋พึ่งย้ายมาอยู่บ้านนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งสองไม่ได้โตที่นี่ แต่ก็รักและหวงแหนที่นี่มาก ก่อนหน้านี้หน้าบ้านลุงกะป้าเป็นพื้นดิน ทองขาวจึงมาอาศัยอยู่หน้าบ้านได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าบ้านได้ถูกปรับปรุงเป็นพื้นระแนง ทองขาวจึงถูกจำกัดพี้นที่ให้อยู่จำเพาะข้างบ้าน และนับตั้งแต่นั้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอและไม่ค่อยได้ยินเสียงทองขาวอีกเลย ใครจะรู้เล่าว่าเราไม่มีโอกาสได้ยินเสียงมันอีกแล้วตลอดไป ทองขาวมีโรคแทรกซ้อนประกอบกับกำลังก้าวสู่วัยชรา เมื่อคืนนี้หลังจากลุงกับป้ากลับจากทำธุระนอกบ้าน พบว่าทองขาวได้นอนสิ้นใจแล้ว นับจากนี้หน้าที่ดูแลบ้านทั้งสองหลังคงมอบหมายภาระหน้าที่ให้แก่จิกกี๋แต่เพียงผู้เดียว ปล.ภาพประกอบจากFlickr

จิ๊กกี๋ ทองขาว

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (57)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (69)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH