Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ม่อน

อ่านต่อ

เที่ยวหาดสามพระยา ประจวบคีรีขันธ์

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 1 January 202124 September 2021

ต้อนรับปีใหม่ด้วยการพาหมาม่อนไปเที่ยวทะเล ~ ถือว่าเป็นทริปเอาใจหมา เพราะก่อนหน้านี้หนีไปเที่ยวเหนือซะหลายวัน ทริปนี้เลยถือโอกาสพาหมาไปเอาบรรยากาศทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยพาไปหนหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นไปหาดเจ้าสำราญนอนบ้าน ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนเพราะม่อนจะนอนเต็นททททททท์ หาข้อมูลอยู่นานพอสมควรว่าที่ไหนบ้างเขาต้อนรับน้องหมาและที่สำคัญคนต้องไม่เยอะวุ่นวายเกินไป เพราะหมาอาจจะตื่นคนได้ ที่สำคัญเกรงใจคนอื่นเขา (โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบหมา) จนได้ข้อมูลมาว่า หาดสามพระยา สามารถพาหมามาพักแรมได้ แต่กระนั้นก็ได้เผื่อแผนสองไว้แล้วว่า ถ้าที่สุดเจ้าหน้าที่เปลี่ยนกฏกระทันหันไม่ยอมให้หมาเข้าพัก ก็จะลอง walkin ตามรีสอร์ทหรือเลวร้ายที่สุดก็แค่ขับรถกลับบ้านเท่านั้นเอง.. แต่โชคดีที่นี่ต้อนรับหมา.. หาดสามพระยา หาดสามพระยา ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย และยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่นี่จะเป็นบริเวณของหาดทรายที่สวยงาม ร่มรื่น และเงียบสงบ ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จากเชิงเขาสูงไปจดปากคลองเขาแดง ที่สำคัญคือมีทิวสนขนานไปกับชายทะเลเป็นทิวแถว คอยให้ความร่มรื่น ทำให้ไม่ร้อนจนเกินไป.. อากาศช่วงปีใหม่นี้ถือว่าเย็นสบายมาก มีลมเบาๆ กลางคืนอากาศหนาวจับใจ..อยากจะอยู่ต่ออีกสักคืน แต่เจ้าหมาม่อนตื่นที่จนไม่เป็นอันนอน อาจจะแปลกที่นิดหน่อยกับการนอนเต็นท์ หลังจากสั่งอาหารจากร้านสวัสดิการมาทานเสร็จเรียบร้อย ก็เก็บของกลับบ้านครับ อ่อ..อาหารร้านสวัสดิการที่นี่รสชาติเป็นที่เลืองลือเลยนะครับว่าอร่อย และราคาไม่แพง ปิดท้ายด้วยบั้นท้ายลูกสาว..หมาม่อน ทริปหน้าว่ากันใหม่~

กางเต็นท์ ประจวบคีรีขันธ์ ม่อน หาดสามพระยา

อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก

เรื่องทั่วไป 22 March 2010

ใช้ชีวิตในโลกอินเทอร์เนตมาเกือบๆ 10 ปี ชีวิตผมจึงถูกเปลี่ยนให้อยู่ในระบบของโลกออนไลน์มากขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง (จริงๆ อินเทอร์เนตก็คือโลกแห่งความเป็นจริงเหมือนกัน แต่จริงน้อยกว่า)  มี 3 ช่องทางการสื่อสาร คือ อ่าน พูด และเขียน  โลกอินเทอร์เนต ก็สามารถสื่อสารได้ทั้ง 3 ช่องทางเช่นกัน คือ ทั้งอ่าน พูด และเขียน แต่ช่องทางพูดอาจจะน้อยกว่า เราอาศัยพูดกันผ่านตัวหนังสือ !! ตัวหนังสือสื่อสาร ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการพูดกันสักเท่าไร หากทั้งคู่(หมายถึงคู่สนทนา) รู้จักกัน(ดี)มาก่อน เคยคุยกันมาก่อน เพียงเห็นตัวหนังสือก็จะสามารถจินตนาการถึงเสียงของคู่สนทนาชัดเจนอยู่ในหัว เหมือนคุยกันอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว หากแต่ว่่าถ้าไม่เคยคุยกันมาก่อน ไม่เคยได้ยินเสียง หรือไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงตัวหนังสือแม้สื่อมาด้วยคำธรรมดาๆ ก็อาจถูกอีกฝ่ายตีความหมายเป็นอื่นได้ !! ปัญหานี้ อาจทำให้เราเสียเพื่อน หรือร้ายกว่านั้น เพื่อนอาจกลายมาเป็นศัตรูได้อย่างน่ากลัว เหตุการณ์นี้พึ่งเกิดขึ้นกับผม ในฐานะบล็อกแห่งนี้เป็นบล็อกส่วนตัว จึงไม่แปลกที่ผมจะเล่าเรื่องส่วนตัว.. เรื่องมันเกิดขึ้นจากการคุยกันผ่านตัวหนังสือนี่แหละ.. ผมคุยกับเพื่อนแฟนที่อยู่ต่างประเทศผ่านโปรแกรมยอดฮิต Facebook คุยกันบนกระดานหน้าบ้านเขาเลย  ก่อนหน้าที่เขาจะไปอยู่ต่างประเทศ เราก็เคยไปเที่ยว กิน ดูหนังด้วยกันระยะหนึ่ง จนผมทึกทักเอาเองว่า เออ..เพื่อนแฟนก็เพื่อนเราด้วยคนหนึ่ง วันที่เขาบิน เราก็ไปส่งที่สนามบิน ผมแอบชื่นชนกับแฟนว่า เพื่อนหญิงคนนี้ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ทึ่งกับความกล้าที่่จะบินไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศโดยลำพัง ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังไม่สามารถขนาดนั้น .. หลังจากที่เขาไปต่างประเทศก็หลายปีที่ไม่ได้คุยกัน แต่ก็ได้แอดไว้ใน facebook จนล่าสุดเมื่อวันศูกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 ผมได้ทักทายเขาไปในfacebook และก็ได้การตอบกลับมาด้วยไมตรี ถามสารทุกข์สุขดิบประสาคนที่ไม่ได้คุยกันมาเป็นปี ๆ มันเป็นการสนทนาผ่านตัวหนังสือที่ใช้คนละภาษา คือ เขาพิมพ์อังกฤษมา ผมตอบภาษาไทยไป .. ด้วยความคิดมากของผมเอง ไม่แน่ใจว่าเครื่องที่เขาใช้สามารถพิมพ์หรืออ่านภาษาไทยได้ไหม? จึงถามไปว่า อ่านภาษาไทยได้ไหม? ความหมายคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่อ่า่นภาษาไทยได้ใช่ไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้ ..ผมก็ตอบว่า “อ้อ..โอเคนึกว่าอ่านไม่ออก” ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกหรือประชดประชันแดกดันอะไรแต่อย่างใดเลย เป็นน้ำเสียงตอบบประสาสื่ออย่างเพื่อนคุยกับเพื่อนเท่านั้นเอง แต่คำตอบที่ผมได้หลังจากนั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เขาไม่พอใจมากกับประโยคนั้น เขาบอกน้ำเสียงของผมมันเย้ยหยันถึงขั้นดูถูก .. เบื้องต้นผมไม่ทราบว่าเขาโกรธผมจากประโยคไหนที่เราคุยกัน ผมถูกบล็อกไม่ให้ติดต่อใน facebook ยิ่งทำให้ร้อนใจยิ่งกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมให้เพื่อน…

หนึ่ง
อ่านต่อ

Morning Trail Run

วิ่ง, สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 18 July 20163 November 2017

ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสไปต่างจังหวัด ต้องไม่พลาดที่จะหยิบรองเท้าวิ่งและชุดสำหรับวิ่งไปด้วย เพราะเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสนามวิ่งใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ และที่สำคัญได้ออกกำลังกายด้วย ครั้งนี้เช่นกันครับ วิ่งรอบฝายเก็บน้ำที่มีระยะรอบประมาณ 1 กิโลเมตร เวลา 6 โมงเช้าแดดก็เริ่มมาละ ไม่ได้ถ่ายฝั่งที่เป็นฝายเก็บน้ำนะครับ ถ่ายแต่บรรยากาศรอบๆ ที่เป็นทุ่งนา ต้นไม้ นี่คือกองเชียร์ข้างทาง แต่บางจุดกองเชียร์ก็เข้ามาในเลนส์วิ่งแบบนี้! ดูเส้นทางสำหรับวิ่งซะก่อน ..นี่มันวิ่งเทรลชัดๆ แต่บางจุดถนนก็ดี มีต้นไม้เป็นซุ้ม บรรยากาศโดยรวมสดชื่น เขียวชะอุ่มครับ ต้นข้าวได้น้ำใหม่ กำลังเติบโตอยู่เต็มทุ่งสุดลูกหูลูกตา เวลาอาจไม่ดีนัก แต่ระยะทางเป็นที่น่าพอใจ ทริปหน้าไปวิ่งที่ไหนดี..

วิ่ง ออกกำลังกาย
อ่านต่อ

ทริป-เที่ยงท่อง-ล่องแพ

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 12 February 201415 June 2019

พูดถึงจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงแค่ 128 กิโลเมตร (ระยะจากกรุงเทพถึงเขตจังหวัดกาญจนบุรี) แต่บรรยากาศและสถานที่เที่ยวของจังหวัดนี้มีเยอะครับ และถ้าพูดถึงกาญจน์ หลายคนก็จะคิดถึงเขื่อน แพ และน้ำตก ..ทริปนี้เราไปเขื่อนครับ ได้ที่พักที่ อนันตาริเวอร์ฮิลส์รีสอร์ท ซึ่งที่พักมีทั้งแบบแพ แบบห้องพัก และกางเต๊นท์ เราไปครั้งนี้ได้ทั้งแบบห้องแพ ห้องพักบนสันเขื่อน และกางเต๊นท์ครับ กลางวันอาจจะร้อนไปหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าพอตะวันตกดินเท่านั้นละครับ..ความหนาวเย็นเริ่มมาเยือนทันที จุดแข็งของที่นี่นอกจากมีเครื่องเล่นในน้ำแล้ว อาหารรสชาตถือว่าเด็ดครับ ถ้าไปเป็นหมู่คณะที่นี่ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี .. เล่นน้ำเหนื่อยๆ ขึ้นมาแล้วได้ทานข้าวอร่อยๆ ..แค่นี้ก็มีความสุขละครับ 🙂

อนันตาริเวอร์ฮิลส์รีสอร์ท เที่ยวกาญจนบุรี
อ่านต่อ

หลับให้สบายเถอะ..ลูกรัก

ไดอารี่ 19 July 200930 June 2016

ผมเลี้ยงกระต่ายมาปีกว่าแล้ว มันชื่อจุ๊บๆ น่ารัก เชื่อง ซน กัดแทะทุกอย่างในบ้าน ตั้งแต่ไม้กวาด สายไฟ กระเป๋า ผ้า จนถึงขนตัวเอง ผมเคยซื้อกระดิ่งผูกคอให้ มันรำคาญแต่กัดกระดิ่งออกไม่ได้ เลยกัดขนตรงคอที่มีกระดิ่งซะเกลี้ยงเลย เริ่มเชื่อรึยังว่ามันเป็นสัตว์สัญชาติแทะ ผมเลี้ยงจุ๊บจุ๊บแบบปล่อย ไม่เคยขังกรง ปล่อยให้อยู่ที่ระเบียงมีร่มเงา กรง และโพรงให้ จุ๊บจุ๊บอึฉี่เป็นที่เป็นทาง มันมักจะเข้าไปอึฉี่ในกรงที่ด้านล่างมีถาดรองอึมันอยู่ ด้วยความที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อย จุ๊บจุ๊บจะติดคนมาก เวลากลางคืนมักจะออกมาเล่นกับผม มาคลอเคลีย เอาหัวมาซบ (ส่วนใหญ่ซบขาเพราะผมนั่งบนเก้าอี้) จุ๊บจุ๊บชอบให้ลูบหัว ไม่ว่าสิ่งที่ลูบนั้นจะเป็นมือหรือเท้าก็ตาม อาหารที่ชอบที่สุด คือ ขนมปังฟาร์มเฮาส์ แต่อาหารที่ขาดไม่ได้คืออาหารเม็ดของซีพี พอได้ยินเสียงถุงพลาสติก จุ๊บจุ๊บเป็นต้องหูผึ่งวิ่งปรี่มาหา นึกว่ามีขนมให้กิน จุ๊บจุ๊บมักร่าเริงในเวลากลางคืน และหลับในเวลากลางวัน เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 52) ฝ้าในห้องผมพังลงมา ด้วยเจอลมแรง ผมไม่คิดเลยว่า ฝ้าที่ตกลงมานั้น เป็นสัญญาณแห่งความสูญเสียในครั้งนี้ ผมจำเป็นต้องพาจุ๊บจุ๊บไปอาศัยอยู่ที่อื่นก่อนสักพัก เพื่อเจ้าของหอจะได้มาซ่อมฝ้า เหตุที่ต้องพาไปที่อื่นก่อน เพราะจุ๊บจุ๊บไม่ถูกอนุญาตให้อยู่ในหอนี้ ..ใช่ มันเป็นแรงงานต่างด้าว ใช้ความน่ารักน่าเอ็นดูให้คนพอใจคลายเหงาแลกกับอาหารไปวันๆ ผมพาจุ๊บจุ๊บขึ้นรถเมล์โดยใส่ในกระเป๋าผ้า จุ๊บจุ๊บไม่ดิ้น ไม่งอแงเวลาอยู่ในกระเป๋าแม้จะต้องนอนคดอยู่ในนั้นร่วมชั่วโมง ผมเห็นแววตาซื่อและเศร้าของมันตลอดเวลาแห่งการเดินทางครั้งนี้ ณ ที่ๆจะฝากจุ๊บๆนั้น เป็นบ้านสองชั้น และมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้าน โดยสนามหญ้ามีรั้วกั้นมิดชิด แม้จะมีสุนัขอยู่ในบ้านก็หมดห่วง เพราะรั้วสูงและแข็งแรงพอที่จะปกป้องจุ๊บจุ๊บได้ พอเท้าแตะสนามหญ้า จุ๊บจุ๊บวิ่ง กระโจน และกัดกินยอดหญ้าอ่อนด้วยความสุข มันไม่เคยสัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้มาก่อน อยู่แต่ในตึก มีแต่ปูนจนเข้าใจว่า นั่นคือพื้นโลก ไม่เคยรู้จักพื้นดินและต้นหญ้า จุ๊บจุ๊บมีความสุข นอนกลางวันอย่างที่เคย ผมเห็นดังนั้น ก็ดีใจ แม้จะเห็นพญามัจจุราชวิ่งอยู่รอบๆรั้วด้านนอก ก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ผมคิดแต่ว่าหมาเข้าไปทำอันตรายไม่ได้ แต่ลืมคิดไปว่า..กระต่ายมันอาจจะออกมาให้หมาทำอันตรายเสียเอง !! พออาทิตย์ตกดิน ความมืดเข้าปกคลุม จุ๊บจุ๊บเป็นกระต่ายขี้เหงา ชอบให้คนคลอเคลียลูบไล้  มันจึงออกจากรั้วอย่างไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา มันยังไม่เคยเจอใครที่คิดจะทำร้ายหรือเอาชีวิตมันเลย ทุกอย่างบนโลกนี้เป็นสิ่งสวยงามสำหรับจุ๊บจุ๊บ พอขาก้าวแรกพ้นรั้วเท่านั้น หมาที่อยู่ด้านนอก เหมือนเจอของเล่นมีชีวิต มันตระครุบ กัด ฟัด จนจุ๊บจุ๊บสิ้นใจ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย…

จุ๊บจุ๊บ

เพลงสั้น

ไดอารี่ 3 March 2011

พึ่งเปิดหมวดหมู่ใหม่ ให้ชื่อว่า “เพลงสั้น” คอนเซ็ปต์คือเอาชื่อเพลงที่ดังๆ หรือที่ตัวเองชอบมาตั้งเป็นชื่อเรื่อง เขียนเรื่องสั้นให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องในมุมมองของเรา ซึ่งไม่เหมือนเนื้อเพลงต้นฉบับ เช่น เพลงอกหัก ของบอดสี้สแลม ถ้าเขียนเป็นเรื่องสั้นในมุมของ “เพลงสั้น” อาจไม่ใช่เรื่องราวของการอกหักรักคุด แต่อาจเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกจากต้นไม้เมื่อสมัยเด็ก ทำให้อกหัก เดินตัวงอๆตลอดเวลา แต่ชีวิตของผู้ชายอกหักคนนี้ไม่ได้หักไปเสียทุกเรื่อง เขาหักแต่อก แต่รักเขาไม่เคยหัก เป็นต้น ปัจจุบันมีเรื่องสั้นที่อยู่ภายใต้ “เพลงสั้น” แล้ว 2 เรื่อง (คลิกไปอ่าน) การเขียนเรื่องสั้น คือ การผ่อนคลายอย่างหนึ่งจากหน้าที่การงานที่เคร่งเครียด ทุกเรื่องสั้นที่ผ่านหัวข้อเรื่อง “เพลงสั้น” ใช้เวลาเขียนไม่เกิน 1 ชั่วโมง ดังนั้น บางครั้งบางทีบางท่อนบางประโยคบางคำอาจมีตกหล่น ภาษาไม่สวยงามหรือไม่สมจริง ่ส่วนหนึ่งมาจากเวลาที่(ถูก)จำกัดโดยตัวของตัวเอง อีกส่วนหนึ่งคือฝีมือที่ยังไม่เข้าขั้นในการเขียนนั่นเอง แต่อย่างน้อยเพลงสั้นๆเหล่านี้ก็ช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้น ฝาก “เพลงสั้น” ไว้ในอ้อมอกด้วยนะครับ

เพลง เพลงสั้น เรื่องสั้น

อุบัติเหตุอารมณ์

เรื่องทั่วไป 5 July 2008

หลายครั้งที่เห็นภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ถึงอุบัติเหตุ รถชน รถคว่ำ คนนอนเจ็บ คนตายกลางถนน เห็นจนชาชิน เห็นทุกวันในหนังสือพิมพ์หรือในทีวี จนหลังๆ เกิดอาการเฉยๆเมื่อเห็นภาพดังกว่า ไม่หวาดเสียว หรือตกใจเท่าเมื่อก่อนเท่าไรนัก กระทั่งเย็นวานนี้ได้เจออุบัติเหตุสดๆ จริงๆ  แม้ไม่หนักหนาเท่าภาพข่าวในหนังสือพิมพ์ แต่ก็น่าหวาดเสียวไม่น้อย เหตุการณ์มันเกิดขึ้นที่ตีนสะพานคลองตัน หลังจากเลิกงาน ผมก็เดินต๊อกแต๊กๆ มาเรื่อยจนถึงจุดเกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่เห็นกลุ่มคนยืนมุงสองฝั่งถนน อุบัติเหตุเกิดตรงตีนสะพานกลางถนน เป็นสะพานที่ข้ามคลองแสนแสบ ดูจากรูปการณ์โดยที่ไม่ได้ถามใครเลย น่าจะเกิดจากรถแท็กซี่วิ่งจากเลนส์ซ้ายจะขึ้นสะพาน เจ้ามอไซต์ก็จะขึ้นเหมือนกัน แท็กซี่ถูกมอไซต์ปาดหน้าเพื่อขึ้นสะพาน หน้ารถเลยทิ่มตูดมอเตอร์ไซค์เข้าเต็มเปา มอเตอร์ไซค์เลยทิ่มไปที่ขอบสะพาน สภาพที่เห็นน่ากลัวมากครับ มอเตอร์ไซต์คว่ำล้อชี้ฟ้า ส่วนคนนอนคว่ำหัวแตกคอขยับไม่ได้ ส่วนแท็กซี่กันชนหน้าพัง มันก็แค่อุบัติเหตุธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาตรงที่ว่า แท็กซี่ที่ขับรถไปชนตูดมอเตอร์ไซต์ที่เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์นอนไม่ได้สติอยู่นั้น แกไม่รับว่าแกผิด ด่าเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยที่มาบอกให้แกขยับรถออกข้างทาง เพื่อไม่ให้รถติด ด้วยถ้อยคำหยาบคาย  อุบัติเหตุมันก็แย่อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วเหตุการณ์ที่แย่ยิ่งกว่าอุบัติเหตุคือ คนนี่แหละ ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดบ้าง ไม่พอใจบ้าง ถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวอย่างชัดเจน ไม่ค่อยยอมรับ และชอบมีอารมณ์ ที่จริงมันก็แย่ด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะผิด แต่ทำยังไงให้มันดีที่สุด ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก เรื่องก็จบง่าย รถก็จะไม่ติด คนจะไม่หงุดหงิด ชีวิตก็จะไม่บัดซบ! ตัวอย่างอุบัติเหตุมีเยอะแยะแล้ว เห็นตัวอย่างแล้วก็เอามาเป็นอุทาหรณ์ด้วยนะครับ อย่าประมาท ระมัดระวัง มีสติ ที่สำคัญ ขับรถ ไม่โทรศัพท์นะครับบบบ..ไม่อย่างนั้นแล้ว นอกจากจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ยังถูกตำรวจจับด้วยนะครับ เจ้านายยยยย …ย         

น้องหมา..ผู้น่ารัก

เรื่องทั่วไป 12 May 2010

สมัยเด็กๆ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของผม คือ หมา น้องหมาสมัยเด็กของผม ก็เป็นหมาบ้านธรรมดาทั่วไป ข้างบ้าน หรือเพื่อนมีลูกหมาคอกใหม่ก็ขอเขามาเลี้ยงตั้งแต่มันยังเด็กเล็ก เลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน ทำบ้านเป็นกล่องกระดาษให้มันนอน พอรุ่งเช้าชีวิตเด็กบ้านนอกที่มีสัตว์เลี้ยงวิ่งตามอย่างซื่อสัตย์ช่างเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ด้วยพื้นที่เลี้ยงก็กว้าง ที่วิ่งเล่นก็เยอะแยะมากมาย  มีข้อห้ามเพียงนิดเดียวสำหรับคนเลี้ยงหมา คือ ห้ามเลี้ยงหมาให้ดุกัดคนอื่น หรือกัดสัตว์เลี้ยงอย่างเป็ด หรือไม่ มิฉะนั้น น้องหมาผู้น่ารักจะถูกวิสามัญ และผู้เลี้ยงอาจถูกปรับ หากมันไปกัดเป็ด ไก่ หรือกัดใครเข้า ตั้งแต่เลี้ยงมา น้องหมาของผมก็ไม่เคยเกเร กัดเป็ด กัดไก่ หรือกัดใครให้เจ้าของเดือดร้อน มันทำหน้าที่เฝ้าบ้านอย่างดี และคอยไปไหนมาไหนกับเราด้วยอย่างซื่อสัตย์ .. วันเวลาผ่านไป ผมได้ย้ายถิ่นฐาน  ปัจจุบันมาใช้ชีวิตอยู่กลางเมืองหลวง  ก็ให้หวนรำลึกถึงเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ในวัยเด็ก ผมอยากเลี้ยงหมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะเลี้ยงหมาอย่างเมื่อในอดีตไม่ได้อีกแล้ว เพราะพื้นที่และภูมิประเทศไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อตะก่อนตอนเด็ก ..แน่นอน คนกรุงเทพฯนิยมเลี้ยงหมานอก อย่างชิสุ พุดเดิ้ล ปอมฯ ชิวาวา ฯลฯ ซึ่งหมานอกเหล่านี้ก็แพงแสนแพง ซื้อมาแพงไม่พอ อาหารการกินของมันก็แพงกว่าอีก ..จากที่เคยคิดอยากจะเลี้ยงก็ต้องมาคิดหนัก แต่จะอย่างไร ก็คิดๆอยากเลี้ยงไว้สักตัวเหมือนกัน …มองน้องชิสุ น้องปอม  หรือไม่ก็น้องชิวาวาไว้  กำลังมองที่ถูกใจ และถูกราคาอยู่ หากใครมีช่วยแนะนำสักตัวด้วยนะครับ ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง จะดูแลและรักมันอย่างดีครับ ไว้ถ้ามีน้องหมาจริงๆ จะเอามาแนะนำให้รู้จักกันอย่างทั่วหน้า..นะ วันนี้เอาน้องหมาเทศมาให้ดู เพื่อเรียกน้ำย่อยความน่ารักซะก่อน

สุนัข หมา

ธรรมะเสวนา #๒

เรื่องทั่วไป 17 January 2010

เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ เข้าห้องเรียนธรรมะกันสักหน่อยท่าจะดี (ท่าจะดี มาจาก ท่าทางจะดี ไม่ใช่ ถ้าจะดี (เห็นหลายคนใช้ผิด)) ครั้งที่แล้วเราเรียนกัันในหมวด ๒ วันนี้จะพากระโดดไปหมวด ๔ เลย ใช่ว่าหมวด ๓ จะไม่มีธรรมะสำคัญ แต่เห็นว่าหมวด ๔ มีธรรมะน่าสนใจหลายอย่างที่คนทั่วๆไปมักไม่ค่อยรู้จัก ธรรมะ หากอ่าน พูด คิดบ่อยๆ จะทำให้ซึมเข้าในกมลสันดานได้ จิตใจเราจะได้ห่างจากอกุลมูล ๓ (โลภะ โทสะและโฆหะ) จะให้ไม่มีเลยเป็นไปไม่ได้ ได้แต่หวังให้น้อยลงเท่านั้น หมวด ๔ ธรรมะที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว และได้พูดถึงกันบ่อยๆ คือ อิทธิบาท ๔ สูตรแห่งความสำเร็จ (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา) หรือ พรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มิทิตา อุเบกขา) วันนี้เลยขอแนะนำธรรมะเพื่อนำไปสู่ความหมดจดจากบาป ทำตัวให้มีความบริสุทธิ์จากอกุศล  นั่นคือ ปธาน ๔ ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง ๑.  สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน ๒.  ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ๓.  ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน ๔.  อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม ความเพียร ๔ อย่างนี้ เป็นความเพียรชอบควรประกอบให้มีในตน ผู้ที่พิจารณาตัวเองอยู่เนืองๆ จะเห็นความผิดพลาดของตัวเอง และพยายามที่จะระวังไม่ให้ตัวเองมีความผิดพลาดเช่นนั้นอีก การระวังบาปก็ดี ละบาปก็ดี บำเพ็ญกุศลก็ดี รักษาความดีก็ดี มิใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ต้องใช้ความเพียรพยายาม  สิ่งเหล่านี้หากปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์จนเกิดความเคยชิน  จะยากที่จะแก้ไขในภายหลัง ดังนั้น ความเพียร ๔ อย่างนี้..ต้องทำครับ นอกจากนี้แล้ว ธรรมอีก ๔ ข้อที่เราควรหมั่นพิจารณา นั่นคือ อธิษฐานธรรม ๔ อธิษฐานธรรม คือธรรมที่ความตั้งไว้ในใจ ๔ อย่าง…

ธรรม

ปีใหม่ใหม่..ทำอะไรดี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 1 January 2009

เข้าสู่ปีใหม่อีกแล้ว.. “มีอะไรจะเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงใหม่ในวันปีใหม่นี้มั้ยครับ?” หลายคนตั้งใจอย่างนั้น รอมาตั้งแต่ต้นปีของปีที่แล้ว ว่าปีใหม่จะทำโน่น เปลี่ยนนี่ ฯลฯ ก็ไม่รู้จะต้องรอปีใหม่ทำไม ในเมื่อปีใหม่ก็แค่วันใหม่เหมือนวันอื่นๆที่ผ่านๆมาทั่วๆไป..ถ้าหากตั้งใจจะทำความดี ไม่ต้องรอปีใหม่ คิดได้วันนี้ ก็ทำเสียเลยในเดี๋ยวนี้ครับ พระพุทธเจ้าตรัสว่า วันที่ทำความดี นั่นแหละคือวันดี วันฤกษ์ดี ปีใหม่นี้ เลยเอาเกร็ดความคิดดีๆ ของท่านมหาตมะคานธีมาฝาก พอดีพึ่งอ่านหนังสืออัตประวัติของท่านจบ “ความเท็จแม้น้อย ก็สามารถนำความพินาศมาสู่มนุษย์ได้ มีอุปมาเช่นเดียวกับยาพิษ แม้เพียงหยดเดียวย่อมทำลายน้ำนมทั้งหมด” “คนเราขลาดที่จะประสบกับความจริง แต่กล้ากับความหลอกลวง และมักจะชื่นชมในความหลอกลวงเสียด้วย” “ทะเลเป็นที่รวมแห่งน้ำฉันใด ถ้าเราประพฤติความแผ่เมตตา เราก็ย่อมจะเป็นที่รวมแห่งมิตรภาพ ฉันนั้น หากชาวโลกอยู่ด้วยมิตรภาพ สภาของโลกคงจะเปลี่ยนแปลงไปจากโลกนี้มาก” “ไม่ควรหาความอิ่มเอิบให้แก่ความอยาก เมื่อเริ่มหาความอิ่มเอิบให้แล้ว คยวามอยาก็จะหาที่หยุดยั้งไม่ได้ หรือถ้าหยุดยั้งได้ก็ยากเต็มที” “การที่จะเข้าใจตัวเองได้อย่างถ่องแท้ เราควรออกไปจากตัวของเราเองเสียก่อน แล้วจึงมองดูตนเองด้วยสายตาอันเป็นกลางจริงๆ การขอร้องความกรุณาจากผู้อื่น คือการบอกขายอิสรภาพของตนเอง” “ธรรมชาติของน้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด ความชั่วช้าก็ย่อมนำคนไปสู่ที่ต่ำฉันนั้น แต่ความดีนำคนไปสู่ที่สูง ฉะนั้นความดีจึงเป็นสิ่งที่ปฏิบัติยาก” “คนตาบอดมิใช่คนตาเสีย แต่คนตาบอดคือคนที่ปิดบังโทษของตนเองต่างหาก” “อย่าไปโทษผู้อื่น จงโทษตัวของท่านเอง แล้วท่านจะมีความสุขอย่างแท้จริง ถ้าท่านจะพยายามโทษผู้อื่น บางทีท่านจะเผานิ้วของท่านเอง” “ความรู้ที่ปราศจากคุณธรรม ย่อมเป็นอำนาจที่จะก่อความชั่วเท่านั้น ดังจะเห็นได้ในตัวอย่าง “โจรผู้เฉียบแหลม” และ “สุภาพบุรุษชาติชั่ว” อันมีมากหลายในโลกนี้”   สวัสดีปีวัวทองครับ.

อ่านต่อ

แม่ฮ่องสอน..ตะลอนเที่ยว: ปางมะผ้า

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 19 December 202024 September 2021

วันที่ 3 ของการมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน หลังจากเก็บเต๊นท์และสัมภาระที่หยุนไหลใช้เวลาเกือบ 10 โมงกว่า เรามุ่งหน้าไปปางอุ๋งโดยปักหมุดพักกินข้าวเท่ียวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวยอดนิยมอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่” ระหว่างทางก็แวะเที่ยวแวะชิมกาแฟไปตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายนั่นคือ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ เวลาเที่ยงกว่าๆ จึงทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวจ่าโบ่คึกคัก มีลูกค้าหนาตา ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปายมากนัก ใช้เวลาเดินทางจากปายประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ขับรถจากปายตรงไปอีก 12 กิโลเมตร เจอแยกบ้านแม่ระนาเข้าไปยังหมู่บ้านขับรถตรงไปอีก 4 กิโลเมตร เส้นทางทำใหม่ราดยางตลอดทาง เมื่อมาถึงหมู่บ้านเราก็จะได้เจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะนอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยในราคาหลักสิบให้ได้ทานแล้ว มองไปรอบๆ จะเห็นว่าตั้งอยู่ในมุมที่เหมาะเจาะมองเห็นภูเขาที่สวยงามสลับซับซ้อน หลังจากอิ่มหน่ำสำราญทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวและกาแฟแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ หนทางต่อจากนี้ไปปางอุ๋ง รับรองว่าใครธาตุอ่อนมีอ๊วกออกมาแน่นอน.. มันช่างคดเคี้ยวเลี้ยวลดจนเคลื่นไส้..

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่ จ่าโบ่ ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH