Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

ออกกำลังกาย

อ่านต่อ

Morning Trail Run

วิ่ง, สุขกะภาพ, เรื่องทั่วไป 18 July 20163 November 2017

ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสไปต่างจังหวัด ต้องไม่พลาดที่จะหยิบรองเท้าวิ่งและชุดสำหรับวิ่งไปด้วย เพราะเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับสนามวิ่งใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ และที่สำคัญได้ออกกำลังกายด้วย ครั้งนี้เช่นกันครับ วิ่งรอบฝายเก็บน้ำที่มีระยะรอบประมาณ 1 กิโลเมตร เวลา 6 โมงเช้าแดดก็เริ่มมาละ ไม่ได้ถ่ายฝั่งที่เป็นฝายเก็บน้ำนะครับ ถ่ายแต่บรรยากาศรอบๆ ที่เป็นทุ่งนา ต้นไม้ นี่คือกองเชียร์ข้างทาง แต่บางจุดกองเชียร์ก็เข้ามาในเลนส์วิ่งแบบนี้! ดูเส้นทางสำหรับวิ่งซะก่อน ..นี่มันวิ่งเทรลชัดๆ แต่บางจุดถนนก็ดี มีต้นไม้เป็นซุ้ม บรรยากาศโดยรวมสดชื่น เขียวชะอุ่มครับ ต้นข้าวได้น้ำใหม่ กำลังเติบโตอยู่เต็มทุ่งสุดลูกหูลูกตา เวลาอาจไม่ดีนัก แต่ระยะทางเป็นที่น่าพอใจ ทริปหน้าไปวิ่งที่ไหนดี..

วิ่ง ออกกำลังกาย
อ่านต่อ

ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่

ไดอารี่ 11 July 201611 July 2016

ถึงวันนี้(11/07/59) ผมก้าวเข้าสู่การวิ่งมาแล้ว 5 เดือน วิ่งต่อเนื่องทุกอาทิตย์ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 20 กิโลเมตร หากยังวิ่งแบบเดิมๆ ฝึกแบบเดิมๆ ก็จะได้ผลเท่าเดิม คือ วิ่งต่อเนื่องได้แค่ 10 กิโล มาถึงเดือนนี้ (กรกฏาคม) ซึ่งเป็นเดือนเกิดของผมเอง ตั้งใจว่าจะฝึกวิ่งทุกวัน อาจจะไม่ได้ถึง 10 กิโล แต่อยากให้ได้ความต่อเนื่อง เพื่อฝึกกำลังขา แต่พอเข้าเดือนกรกฏา ฝนก็ตกเกือบทุกวัน มีผลให้ความตั้งใจต้องล้มไม่เป็นท่า ถึงอย่างไร เมื่อมีโอกาสต้องรีบเข้าสู่โหมดความตั้งใจเดิมให้ได้ “ให้อภัยตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปวิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข และนี่คือเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมา เราต้องดีขึ้นเรื่อยๆ

run วิ่ง ออกกำลังกาย

แต่งงานกันอีกแล้ววว..ว

เรื่องทั่วไป 11 January 2010

วันเสาร์ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ เป็นวันแต่งงานของเทพรัตน์ โสภาค หรือไอ้เทพ เทพรัตน์เป็นเพื่อนสมัยอยู่พระบาทเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้น  หลังจากแยกย้ายตามวิถีของแต่ละคน ก็มีอันต้องพลัดพรากจากกัน แต่ก็ได้ยินข่าวคราวและข่าวคาวของมันเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้มีโอกาสได้ปะหน้ากันจริงๆจังๆสักที จนเมื่อกลางปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปงานแต่งของมิสเตอร์สิงห์ จึงได้พบหน้าค่าตากันในตอนนั้น เจ้าสาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนมิสเตอร์สิงห์ ทราบจากมิสเตอร์สิงห์ว่า เทพรัตน์จีบเจ้าสาวอยู่ก่อนแล้ว แต่เวลาเข้าไปหา จะไปคนเดียวก็เขินอาย เลยชวนมิสเตอร์สิงห์ไปด้วย แต่ครั้นจะชวนมิสเตอร์สิงห์ไปบ่อยๆ ก็จะเกรงใจ จึงใช้อุบายให้มิสเตอร์สิงห์รักกับคนพี่ซะ ทีนี้จะได้มีแรงจูงใจที่จะไปด้วยกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ทุกอย่างก็ลงเอยอย่างที่ควรจะเป็น มิสเตอร์สิงห์ชิ่งแต่งงานก่อนเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจึงถึงคิวของเทพรัตน์ นักรักจอมวางแผน (555+) งานแต่งเขามีแห่ขันหมากในตอนเช้า และเลี้ยงฉลองในตอนเย็น ตอนเช้าผมไม่ว่าง ก็เลยถือโอกาสไปตอนเย็นแทน งานเลี้ยงจัดที่สมาคมศิษย์เก่าอำนวยศิลป์ ข้างๆโรงเรียนเพชรัตน์ ประชาชื่น เป็นอาคารอเนกประสงค์เก่าๆ ข้างในจัดเป็นโต๊ะจีนประมาณ 50 โต๊ะ แขกเรื่อคับคั่งดี แต่ผมข้องใจธีมของงาน หน้างานจัดซุ้มดอกไม้ให้คู่บ่าวสาวได้ถ่ายรูปกับแขก มีภาพบ่าวสาวถ่ายคู่กัน น่ารักน่าชัง หวานแหวว สดใส กุ๊กกิ๊ก  แต่พอก้าวขาเข้าไปข้างใน นึกว่ามางานหมอลำซิ่งพาเพลิน มีเพลงหมอลำ สลับเพลงลูกทุ่งโจ๊ะๆ พอพิธีบนเวทีเริ่ม พิธีกรมาในชุดสีดำ!! โอ่ะ..นี่กูมางานศพเหรอเนี่ยะ ตะกี้ยังเป็นงานหมอลำพาเพลินอยู่เลยนะ ทั้งนักร้องบนเวที ทั้งพิธีกรชวนกันแต่งชุดดำมาซะอย่างนั้น นี่ถ้าผมเป็นเจ้าของงาน คงโดดตีลังกา 2 รอบ ก่อนจะเสยหน้าทั้งคู่ด้วยปลายรองเท้า ช่างให้เกียรติกับงานแต่งอันเป็นมงคลซะเหลือเกิน หลังพิธีบนเวทีเสร็จ ผมก็ถือโอกาสลาเพื่อนๆกลับก่อน คืนนี้ไม่กล้าแตะแอลกอฮอลล์ เพราะวันอาทิตย์ตั้งใจจะไปบริจาคเลือด งานนี้ไม่ได้แอ้มเค้กแต่งงานเลย ดูท่าแล้วคงไม่เหลือถึงเราแน่ๆ ผมไม่ชินการร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้า และไม่ชอบการรับประทานอาหารแบบค่อยๆทยอยมาทีละจานๆ เลยขอตัวกลับก่อนแบบเกรงใจๆ ผมได้เขียนอวยพรคู่บ่าวสาวในสมุดแล้ว และปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้คำอวยพรนั้นสัมฤทธิ์ผล ผมอวยพรสั้นๆไปว่า “ขอให้รัก อยู่คู่กับทั้งคู่ตลอดไป”

แต่งงาน
อ่านต่อ

น้องหมาชายทะเล

สุขกะภาพ 5 July 201328 October 2015

น้องหมาที่อยู่ริมหาดบ้านกรูด ประจวบคีรีขันธ์ ภาพนี้ดูแล้วขำๆ น่ารักดีครับ น้องหมาริมทะเล

หมา
อ่านต่อ

ลาก่อนน้องมารชมพู

บ่น, ไดอารี่ 2 April 20178 June 2019

ความผูกพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ที่ หรือสิ่งของ หากเราใช้ชีวิตกับมันนานๆย่อมมีความผูกพันธ์..และครั้งนี้ก็เช่นกัน จำใจจากน้องมารชมพูด้วยความอาลัยรัก

jazz น้องมารชมู
อ่านต่อ

ทริปวันเดียว-เที่ยวน้ำตก-นอนเต๊นท์-กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 5 October 201912 November 2019

เป็นอีกหนึ่งปุ้บปั้บทริป..คุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่าเสาร์นี้ไปกินข้าวกันมั้ย แค่ชวนกินข้าวร้านดีๆแถวบ้าน รู้ตัวอีกทีมากินข้าวกลางป่าที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำและภูเขาซะแล้ว.. ที่หลับที่นอนคืนนี้อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีห่างจากน้ำตกเอราวัณประมาณ 7 กิโลเมตรติดกับเขื่อนศรีนครินทร์ กางเต๊นท์บนผาที่มองด้านล่างลงมาเป็นเขื่อน ใกล้ๆกันมีน้ำตกที่ไม่ปรากฏชื่อในแผนที่!! สายน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหน้าเต๊นท์พวกเรา คือน้ำที่แบ่งสายมาจากน้ำตกซึ่งไหลลงมาจากภูเขาลงเขื่อน บรรยากาศต้องบอกว่าสุดๆจริงๆ   หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็ลองเดินสำรวจน้ำตกครับ ทีแรกนึกว่าน้ำตกเล็กๆ แต่พอเดินลัดเลาะไปตามเสียงน้ำตกก็พบว่า ไม่เล็กเลย แต่เนื่องจากทางที่เดินลงมาค่อนข้างลำบาก คนก็เลยไม่นิยมมาเล่น กอรปกับค่อนข้างอันตรายนิดนึ่งเพราะด้านล่างเป็นเขื่อน ถ้าลื่นมีหวังไหลลงเขื่อนแน่นอน หลังจากสำรวจเสร็จก็กลับไปทำอาหารกินกันที่เต๊นท์ครับ บรรยากาศทำอาหารกินเองหวนให้ระลึกถึงสมัยเข้าค่ายลูกเสือ สมัยนั้นได้มาม่าปลากระป๋องนี่ก็ถือว่าเลิศแล้ว คืนนี้มีฝนปรอยๆทำให้บรรยากาศเย็นลงนิดนึง นอนฟังเสียงฝนและเสียงน้ำตก บางคนอาจรำคาญ แต่สำหรับผมบอกเลยว่า ฟินนนนน เช้าประมาณตี 5 เปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดกีฬา ออกไปวิ่งที่เขื่อนศรีนครินท์ บรรยากาศต้องบอกว่าคุ้มค่าตื่นมากๆ..หมอกหนาเต็มพื้นที่ ราวกับวิ่งบนสวรรค์ หลังจากวิ่งเสร็จก็กลับมาทานอาหารเช้ากันที่เต๊นท์ และหลังจากนั้นสายๆ ก็เก็บเต๊นท์ และมุ่งหน้าไปหาน้ำตกอีกที่หนึ่ง เราออกเดินทางจากจุดกางเต๊นท์ประมาณ 40 กิโลเมตร ก็มาถึง “น้ำตกแม่ขมิ้น” น้ำตกแม่ขมิ้น เป็นอุทยานแห่งชาติครับ ดังนั้น จึงมีบริการจุดกางเต๊นท์ มีร้านค้าสวัสดิการ เรียกว่าเป็นอีกที่หนึ่งสำหรับคนที่ชอบกางพักแบบกางเต๊นท์ มีเต๊นท์ให้เช่าหรือจะเอาเต๊นท์มาเองก็สะดวก จบปุ้บปั้บทริปแต่เพียงเท่านี้ครับ

กาญจนบุรี น้ำตกแม่ขมิ้น
อ่านต่อ

โดดเดี่ยว..เที่ยวภูเขาทอง

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 9 November 200823 September 2016

ตั้งใจมาหลายวันแล้วว่าวันนี้ จะไปบริจาคเลือด !! นับเป็นครั้งที่  35 แล้ว ภูมิใจเล็กน้อย เมื่อกล่าวถึงจำนวนครั้ง บริจาคครั้งละ 400 ซีซี ถึงวันนี้ผมบริจาคเลือดไปแล้ว 14,000 ซีซี น่าจะได้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ไม่น้อย แม้ไม่รู้ว่าใครได้เลือดผมไป แต่ทุกครั้งที่มีคนได้เลือดผม นั่นคือชีวิตของเขา และบุญของผม การให้โดยไม่หวังคืนเช่นการบริจาคเลือดนี้ เปรียบเหมือนแม่ที่ให้ทุกอย่างแก่ลูก โดยไม่หวังสิ่งใดๆจากลูกเลย เราไม่รู้เลยว่าใครได้เลือดเราไป เช่นเดียวกัน พ่อแม่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อลูกโตแล้ว จะให้อะไรแก่พ่อแม่บ้าง วกมาถึงการเดินทางไปบริจาคเลือดในวันนี้ การเดินทางต้องมีการวางแผนครับ เพื่อประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ผมจะไปโดยเรือ ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองตัน โผล่ที่ท่าเรืองอโศกเพชรบุรี แล้วขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ไปโผล่ที่สามย่านฝั่งตรงข้ามกับวัดหัวลำโพง หรือฝั่งจามจุรีสแควที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน เดินตรงขึ้นไปก็จะถึงสถานเสาวภาหรือสวนงู หลังสวนงู คือสภากาชาด คาดว่าใช้เวลาไม่น่าจะถึงชั่วโมง (ปกติไปรถเมล์สาย 113 ใช้เวลาชม.กว่า) หลังจากบริจาคเลือดตั้งใจจะไปเดินเล่นที่วัดสระเกศ หรือวัดภูเขาทอง เวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาทีผมไปนั่งรอเรือที่ท่าเรือ วันนี้เรือมาช้ากว่าปกติ เพราะเป็นวันอาทิตย์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการครับ ผมขึ้นจากเรือโผล่ที่เพชรบุรีต่อรถไฟ มาโผล่ที่สามย่าน ตรงหน้าจามจุรีสแควนี่เอง มีเรื่องให้พิจารณานิดหนึ่ง ขณะผมเดินด้านหน้าห้างนั่นเอง มีรถซีวิคฮอนด้านสีบรอนด์ ไม่ทราบเลขทะเบียน เพราะไม่สนใจ จอดริมฟุตบาทด้านหน้าผมไม่ถึงสิบเมตร พอรถจอด ก็มีชายคนหนึ่งรีบลงจากรถพร้อมด้วยถือสิ่งหนึ่งมาด้วย วางลงข้างฟุตบาทหน้าห้าง แล้วรีบขึ้นรถออกไป เมื่อผมเพ่งมองที่วัตถุที่ชายนิรนามนำมาวาง ปรากฏว่าเป็นสิ่งมีชีวิตครับ เป็นลูกแมวสีเทาตัวเล็กๆ ท่าทางอ่อนแรง และงงๆ กับชะตาชีวิต ร้องเหมียวๆท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า ผมจำใจเดินผ่านไป โดยไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าแมวนั่น ขณะที่เจ้าของที่ทิ้งก็ยังไม่ได้ไปไหนไกลเพราะรถติดอยุ่ ผมพยายามมองทะลุกระจกเข้าไปในรถ อยากจะดูว่าหน้าตาไอ้คนใจดำระยำห่านั่น หน้าตามันเป็นอย่างไร มากันกี่คน น่าเสียดายกระจกมืดดำ เลยอดเห็น ผมเองก็รู้สึกตัวเองผิดที่ไม่ได้ดูดำดูดีกับลูกแมวตัวนั้น ไม่ได้ทำอะไรที่ดีกว่านี้เลย ถึงสภากาชาดในเวลาบ่ายสองห้าสิบ วันเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตตฤกษ์ ที่นี่จะปิดให้บริการเร็วคือจะปิดในเวลา 15.30 น. ดังนั้น ผมมีเวลาไม่่มาก เวลาขนาดนี้คนจะไม่เยอะเท่าไรแล้ว ไม่เหมือนตอนเช้าที่คนเนืองแน่นจนหน้ามืด ใช้เวลาในการบริจาคไม่ถึงสามสิบนาทีครับ (บริจาคจริงๆแค่สิบนาที ที่เหลือคือการรอคิว คิวตรวจเลือด คิวบริจาค) ออกจากสภากาชาด ตามแผนอย่างต่อเนื่องเลยครับ จับรถแท็กซี่ไปวัดสระเกศในทันที ด้วยราคามิเตอร์ 70 บาท ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็ได้…

ภูเขาทอง
อ่านต่อ

“อดทนเวลาที่ฝนพรำ.

สุขกะภาพ 28 September 20163 November 2017

.อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจางหาย ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ..”

ฝนตก รถติด

ของขวัญจากพระเจ้า!

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 26 May 201128 October 2015

กำลังอ่านหนังสือ “แกะดำทำธุรกิจ ทุ่งหญ้าแห่งความรู้และความสุข” เขียนโดยคุณประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ แนวคิดในการทำธุรกิจ ในการมองโลก มีมุมที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร สมกับที่เรียกตัวเองว่าเป็น “แกะดำ” แกะดำไม่ใช่แกะที่มีความผิดปกติ หรือมีความแปลกประหลากแตกต่างจากคนอื่น หากแต่ว่าเป็นแกะที่เลือกทำในสิ่งที่ดีกว่า แตกต่าง และให้ผลดีกว่า เลือกที่จะเลี้ยวขวา ขณะที่ทุกคนเลี้ยวซ้าย เลือกที่วิ่งในขณะที่ทุกคนเดิน เลือกที่สุขในขณะที่ทุกคนทุกข์ และอีกมากมาย.. อ่านได้ครึ่งเล่มขณะรถติด ได้ความคิดใหม่ว่าขณะรถติดคนส่วนใหญ่ชอบเล่นเกมส์บนมือถือ เล่นเฟสบุค ทวิตเตอร์ บีบี ดูหนัง ฟังเพลง ล้วนแต่เป็นสิ่งสร้างความบันเทิงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำไมเราไม่อ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ขณะรถติดที่มากกว่านั้น ไม่เสียเงิน แถมได้ประโยชน์มหาศาล ..เลยตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือทุกครั้งที่รถติด!!! จะดูสิว่า เดือนหนึ่งจะอ่านได้กี่เล่ม.. ชอบใจประโยคเด็ดในหนังสือแกะดำฯ ที่คุณประเสริฐ ได้นำคำของ CEO หญิงของ HP มาเขียนไว้อีกที.. ใจความว่า “การที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่า่จะสูงต่ำดำขาว คือสิ่งวิเศษที่พระเจ้ามอบให้เรา ส่วนเราจะประพฤติตนอย่างไร คือสิ่งวิเศษที่เป็นของขวัญที่เราจะมอบแด่พระเจ้า” * อยากรู้จักแกะดำมากขึ้นคลิกไปที่ http://www.blacksheep.co.th/

ประเสริฐ เอี่ยมรุ่งโรจน์ พระเจ้า แกะดำ

ศรีษะนี้..มอบแด่พระเจ้าแผ่นดิน!!

เรื่องทั่วไป 16 May 2010

พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง พูดในงานนาฏราช..ฟังแล้วขนลุก ดาราหลายคนน้ำตาคลอ มีดาราไม่กี่คนที่กล้าแสดงออกทางความคิดในเรื่องการเมือง ด้วยพวกเขาอยู่ในอาชีพที่ต้องอาศัยแรงศรัทธาจากผู้ชม หากชัดเจนว่าอยู่ฝั่งหนึ่ง แฟนานุแฟนที่อยู่อีกฝั่งคงจะไม่ชอบ ดาราจึงออกมาพูดเรื่องการเมืองน้อย และถึงพูดก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่การพูดของพี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ในครั้งนี้ ได้ใจคนทั้งสองฝั่ง

พงษ์พัฒน์
อ่านต่อ

เที่ยวเมืองไทย..ให้คึกคัก..ฉันรักเมืองไทย

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 8 June 200914 May 2016

ไม่รู้มาก่อนว่าที่เมืองทองธานี (อาณาจักรใหม่ของไทยชาติ) มีงาน วันนี้(อาทิตย์ 7 มิถุนายน 2552) ตุปัดตุเป่กันไปจึงพบว่า..เขามีงานชนกันตั้ง 3 งานนนนนนนนนนน   งานแรกเป็นงานท่องเที่ยวไทย ไทยครึกครื้นเศรษฐกิจคึกคัก ไม่ได้ตั้งใจจะมาหาที่เที่ยว ก็เลยได้แต่เดินดูแพกเกจเที่ยวต่างๆนานาประดามี พบว่ามีหลายที่หลายแห่ง ให้ราคาค่อนข้างถูกมากครับ ใครที่วางแผนเที่ยวตอนปีใหม่ ถ้าได้จองกันตั้งแต่วันนี้เลย จะได้ราคาค่อนข้างดี แต่น้อยคนที่จะวางแผนเที่ยวปีใหม่ตั้งแต่วันนี้..เพราะมันอีกตั้งหลายเดือน กว่าจะถึงวันนั้น ไม่รู้คนร่วมทริปกับเราจะยังอยากจะไปอยู่อีกมั้ย? ทีเด็ดของงานนี้อยู่ที่เขาจำลองสถานที่ท่องเที่ยวและประเพณีของแต่ละภาคมาไว้ มีกันทุกภาคส่วน เห็นแล้วก็คึกคักคึกครื้น อยากเสียเงินเหลือเกิน เดินกันที่นี่พอหอมปากหอมคอ หอบแฮ่กแล้ว ก็ไปอีกงาน งานนี้เรียกตัวเองอย่างเป็นทางการอย่างไร จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นงานสินค้าจากโรงงานลดล้างสต็อก คือเสื้อผ้า ของใช้ ยี่ห้อดังๆ ไม่ว่าจะเป็นไนกี้ คอกโคได ฯลฯ ต่างขนเอาเสื้อผ้ามาลดราคากันแหลก (แต่ลดยังไง ผมก็ว่ายังแพงอยู่ดี) มีอีกเยอะแยะมากมายครับ จำชื่อไม่ได้ มาลดมาขายกัน งานนี้ได้เสื้อให้คุณแม่ 2 ตัว งานนี้คนเยอะกว่าคนท่องเที่ยวอีก เดินกันชนิดหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว อีกงานหนึ่ง เป็นงานเกี่ยวกับเกษตร วิชาการเกษตรปีที่ 39 ประมาณนี้ งานนี้คนจะน้อยกว่าทุกงาน แต่ก็ยังดูเยอะอยู่ดี งานนี้เขาขนเอาต้นไม้มาไว้ซะรกครึ้ม ไม้พืชสวน สารพัดเห็ด ต้นไม้ยืนต้น ต้นทุเรียน ต้นกาแฟ ต้นข้าว ฯลฯ  มีพันธ์ไม้ขายด้วย ก็เดินอยู่พักหนึ่ง ได้กาแฟห่อใหญ่กับน้ำองุ่นกลับบ้าน คิดว่าพอละ งานนี้เหนือย แต่ไม่ค่อยน่าเบื่อ  ที่เมืองทองสถานที่กว้างขวาง ห้องน้ำเยอะ ถึงคนมากก็ไม่รู้สึกว่าแน่น ไม่เหมือนทีศูนย์ประชุม ช่วงนี้มีงานประเภทนี้บ่อยๆ ทุกภาคส่วนต้องการช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจไทย  ถ้าไทยซื้อของไทย เที่ยวเมืองไทย ก็เท่ากับช่วยคนไทยช่วยเศรษฐกิจไทย แต่ขณะที่ทุกส่วนต่างช่วยคนไทยด้วยกันอยู่ สอสอผู้มีเกียรติหลายท่าน ก็แอบไปต่างประเทศด้วยข้ออ้างสุดคลาสสิค ไปดูงาน ไปประชุม ประชุมในเมืองไทยแล้ว คิดอะไรไม่ออกรึไง..นิสัย

'สาระแนสิบล้อ' ติดอันดับหนังเสียดายตังค์แห่งปี

เรื่องทั่วไป, ไดอารี่ 8 April 2010

พอดีไปอ่านบทวิจารณ์หนังเรื่อง “สาระแนสิบล้อ” มา  ก็เลยรู้สึกเห็นด้วย เพราะพึ่งไปดูมาเหมือนกัน !! เขาวิจารณ์ประมาณนี้อ่ะครับ “..ที่หนังโปรโมตตัวเองว่า “มีบท” นั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้จริงจังอะไร คือโดยตัวหนัง มันก็มีหัวมีท้าย แบบว่าจะเริ่มเรื่องยังไงและจะไปจบตรงไหนยังไง พูดง่ายๆ ก็คือหนังเขียนบทไว้แบบหลวมๆ เพื่อจะอัดสถานการณ์พิลึกพิลั่นลงไป เปรียบเทียบกัน มันก็คงคล้ายๆ กับหนังของของคุณหม่ำ จ๊กม๊ก อย่าง “วงษ์คำเหลา” ที่คิดพล็อตคร่าวๆ ให้มันมีตอนต้นตอนท้าย แล้วในระหว่างทางก็ “ตบมุก” ไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะพูดให้ชัดขึ้น ผมว่า บางที ทีมสาระแนอาจจะแจ่มแจ้งแก่ตัวเองดีว่าไม่มี “ความสนใจ” มากพอที่จะสร้างสรรค์หนังที่ดีๆ เนียนๆ ได้ ก็เลย “หาทางออก” ด้วยการเลือกที่จะทำมันออกมาในลักษณะแบบบ้าๆ บวมๆ และมั่วแหลกกันไปเลย และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความหลุดโลกสุดเพี้ยน เพี้ยนตั้งแต่เนื้อหาที่พ่วงมากับวิธีคิดแบบทื่อๆ ตื้นๆ อย่างเช่น การจะเป็นลูกผู้ชายได้ต้องใช้ชีวิตหยาบๆ เถื่อนๆ อย่างการไปเที่ยวซ่อง หรือใช้กำลังตัดสิน (กระทืบคนแก่!!) เพี้ยนทั้งตัวละครและสิ่งของ ที่มีตั้งแต่ “แฝดนรกหัวติดกัน” (เสนาหอย, โก๊ะตี๋ อารามบอย) หรือแม้แต่รถสิบล้อที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์คนเหล็ก (ยืมวิชามาจาก Transformers แบบเต็มๆ) และเพี้ยนแม้กระทั่งสถานการณ์ในเรื่อง อย่างเช่น มีดกระเด็นไปเฉาะปากของน้าเชจนฟันหน้าหลุดหลอ, มีดเล่มเดิมนั้นผ่าลงหัวของคู่แฝดทำให้ทั้งคู่หลุดออกเป็นอิสระจากกัน และที่ต้องบอกว่า “บ้า” อย่างสุดกู่ ก็คือผีสาวเข้าสิงรถสิบล้อแล้วทำให้รถสิบล้อพูดได้แถมร้องไห้ซิกๆ นั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด กว่าจะได้ไอเดียนี้มา (อันนี้ไม่ได้แขวะนะครับ แต่ทึ่งจริงๆ ว่าคิดได้ไง)..” สรุปง่ายๆว่า..เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้ว รู้สึกสึกเสียดายตังค์มากกกกๆๆ ..และตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่ดูหนังของค่าย Luck film อีกแล้ว

แบ่งตามหมวด

  • say (9)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (10)
  • ท่องเที่ยว (54)
  • บ่น (36)
  • บ้านบ้าน (17)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (66)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (47)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (65)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH