Skip to content

N E V I K U P

Find your Heart, Find the Happiness.

☰
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ
  • หน้าแรก
  • ท่องเที่ยว
  • คาเฟ่รีวิว
  • เรื่องสั้นสั้น
  • เรื่องยาว
  • สารบาญ

อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์

อ่านต่อ

เที่ยวถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 18 September 202129 July 2022

หลังจากกักตัวอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่โควิดระบาดรอบ 2 รอบ 3 มาเป็นแรมเดือน..ก็ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2564 เป็นต้นมา จนถึงเดือนกันยายนี้ ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนไกลเลย เต็มที่ก็แค่เซเว่นหน้าหมู่บ้าน อาการคิดถึงธรรมชาติ การเดินทางกำเริบเป็นระยะ จนกระทั่งรัฐบาลสั่งคลายล็อกเปิดจุดท่องเที่ยวบางแห่งได้ เราจึงเริ่มมองหาที่เที่ยวบ้าง และที่นี่คือที่แรกที่เราออกเที่ยว หลังการคลายล็อก ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดแบ่งเป็น ถ้ำธารลอดใหญ่และถ้ำธารลอดเล็ก ถ้ำธารลอดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ มีความกว้าง 60 เมตร ตัวถ้ำด้านล่างยาว 60 เมตร กว้าง 40 เมตร และสูง 40 เมตร บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในถ้ำสว่างและมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ ที่ฟากหนึ่งของผนังถ้ำมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานปรากฏว่าบริเวณนี้เป็นที่ฝังศพของมนุษย์โบราณ จากการค้นพบโครงกระดูกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนำไปจัดไว้ให้ชมที่พิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณ โครงการพระราชดำริห้วยองคต อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ทริปนี้ออกเดินทางกัน 3 คนครับ (ก่อนหน้านี้มี 5 แต่ติดธุระมาได้แค่นี้) ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าก็ถึงยังจุดหมายปลายทาง จัดการกางเต็นท์ที่พักเรียบร้อย ทานข้าวเที่ยงเสร็จก็เตรียมตัวเดินเท้าท่องเที่ยวธรรมชาติ เสน่ห์ของที่นี่คือนอกจากมีที่บริการจุดกางเต๊นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำครบครันแล้ว ยังมีกิจกรรมเดินป่าขนาดกำลังน่ารักให้เราเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอีกด้วย จุดเริ่มต้นการเดินเริ่มจากถ้ำธารลอดเล็ก ภายในถ้ำกว้างขวางมืดแต่มีไฟติดตามจุดพอให้เห็นทางเดินได้ ภายในถ้ำมีสายน้ำไหลผ่าน และพอผ่านจุดนี้ไปก็จะเข้าสู่การเดินป่า เป็นป่าที่มีทางเดินสะดวกครับ เด็กเล็กตั้งแต่ 10 ขวบขึ้นไปสามารถเดินได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง เพราะมีบางจุดที่มีความเสี่ยง ทางเดินจะเป็นทางเรียบ และค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ แต่มีบันไดให้เดิน ไม่ลำบากมาก ตลอดทางก็จะมีน้ำตกเป็นระยะให้ได้ถ่ายภาพ หรือลงไปเล่นได้ตามใจชอบ บรรยากาศดีมาก ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆก็จะถึงจุดที่เรียกว่าถ้ำธารลอดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงมีลักษณะคล้ายถ้ำพระยานคร แต่โปร่งกว่า มาถึงจุดนี้ถ้ามีเวลาก็สามารถเดินทางต่อไปอีกนิดหนึ่งจะถึงวัด (ขออภัยที่จำชื่อวัดไม่ได้) เราใช้เวลาในการเดินชมธรรมชาติไปและกลับประมาณ 4 ชั่วโมง กลับถึงเต็นท์ก็ได้เวลาสำหรับอาหารเย็นแล้ว ค่ำคืนนี้มีฝนพร่ำๆ พอให้นอนสบาย นอนฟังเสียงฝนคละเคล้ากับเสียงน้ำตกไกลๆได้บรรยากาศการมาพักผ่อน เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าครับ ประมาณตีห้าครึ่ง ตั้งใจจะวิ่งออกกำลังกายไปที่น้ำตกสไลเดอร์ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอุทยานห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร วิ่งไปกลับก็จะได้ระยะ 10 กิโลเมตรพอดี ระยะทางที่ค่อนข้างเป็นเนินซะส่วนใหญ่ ประกอบกับความฟิตก็ไม่ได้มีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทำการให้วิ่งในวันนี้เหนื่อยเป็นพิเศษ…

กาญจนบุรี ถ้ำธารลอด อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์

รำลึกถึงครู..วันครูแห่งชาติ..๒๕๕๓

เรื่องทั่วไป 16 January 2010

วันนี้เป็นครูแห่งชาติ (เสาร์ที่ 3 ของเดือนมกรา) ผมประเภทบล็อกกึ่งไดอารี่ ต้องไหลไปตามวันสำคัญของปฏิทิน ดังนั้น จะละเลยไม่กล่าวถึงความสำคัญของครูไม่ได้ ในอดีตกาล พระเถระที่ได้ชื่อว่ามีความกตัญญูจนได้รับการกล่าวขวัญคงไม่เกินพระติสสะเถระ หรือที่เรารู้จักกันในนามพระสารีบุตรนั่นเอง ครูที่สอนศิลปวิทยาคนแรกของท่านคือท่านสญชัย แต่ครูคนแรกที่สอนทางธรรมของท่านคือพระอัสสชิเถระ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ ขณะนั้นพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเที่ยวแสวงหาโมกขธรรมอยู่ จนที่สุดก็ได้พบกับพระอัสสชิเถระกำลังเดินบิณฑบาต ท่านก็มิได้แสดงปาฏิหาริย์หรือความอัศจรรย์ใดๆ หากแต่กิริยาที่ก้าวย่างอย่างสำรวมของท่าน ทำให้พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเกิดศรัทธา จนต้องเดินตาม และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ได้บวชในพระพุทธศาสนา ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้บรรลุธรรมชั้นสูงในที่สุด ตั้งแต่วันนั้นท่านก็นับถือพระอัสสชิตลอดมา แม้เดินทางไปในที่ไหน หาทราบว่าพระอัสสชิอยู่ทางทิศไหน ก็จะนอนหันศีรษะไปทางทิศนั้น สำหรับครูคนแรกของผมนั้น มีหลายท่านเหลือเกินครับ แต่ที่จำแม่นๆ คือ ครูศิริพร ครูสักการินทร์ ครูระเบียบ และครูบำเพ็ญ นาดี (ครูคนหลังนี่จำนามสกุลได้ เพราะพึ่งไปพบท่านเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง) ทั้ง 3 ท่าน น่าจะเกษียรแล้วในปีนี้นี่เอง ครูศิริพร เป็นครูคนเก่ง เก่งเชียร์กีฬา เก่งพละ เก่งเล่านิทาน  เรื่องเก่งเล่านิทานนี่เป็นที่ยอมรับของนักเรียนและครูด้วยกัน ผมจำได้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักเรียนมาสายบ่อยๆ ครูใหญ่จึงมีนโยบายให้ครูศิริพรมาเล่านิทานใส่ไมโครโฟนให้ดังไปทั่วโรงเรียนแต่เช้า เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนรีบมาโรงเรียนเพื่อมาฟังนิทานของแก ก็ได้ผลอยู่นะครับ แต่โครงการนี้มีได้ไม่นานก็ยุติ ไม่ใช่ล้มเหลวหรือนักเรียนมาสายกว่าเดิม แต่ครูศิริพรแกไม่ไหวเอง เพราะต้องมาเช้ามาก โตขึ้นมาหน่อย(ป.1-ป.3)  ผมก็มารู้จักกับคุณครูระเบียบ และคุณครูบำเพ็ญ ทั้งสองท่าน เป็นครูที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของครูที่ดุร้าย น่ากลัว ให้เป็นครูใจดีที่นักเรียนสามารถจับต้อง พูดคุย และปรึกษาได้ ครูระเบียบนับว่าใจดีที่สุด ไม่เคยตีนักเรียน ทำผิดให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลอย่างเดียว ส่วนครูบำเพ็ญ แกสามารถใจดีและใจร้ายอย่างมีเหตุมีผล ถ้านักเรียนทำตัวน่าัรักแกจะใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะเดียวกันหากนักเรียนทำตัวไม่น่ารัก แกพร้อมจะเป็นนางยักษ์ใจร้า้ยได้ทันที .. ในชีวิตของคนๆหนึ่งต้องพึ่งครูมากมายครับ ในศาสตร์แต่ละวิชาแต่ละแขนงล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยครูเป็นคนช่วยชี้แนะก่อน หากใครจะบอกว่าเก่งหรือเรียนด้วยตนเอง อย่างน้อยที่สุดก่อนจะเก่งหรือเรียนนั้น ย่อมต้องได้รับการชี้แนะหรือแรงบันดาลใจจากใครสักคน วันสำคัญเช่นนี้เหล่าศิษย์ควรมีจิตคารวะรำลึกถึงบุญคุณของท่าน ท่านมิใช่แค่เรือจ้าง หากแต่เป็นผู้เสกสรรค์ปลุกปั้นสร้างแรงบันดาลใจ ชี้ทางศิษย์ไปสู่ความสำเร็จ รำลึกถึงบุญคุณของคุณครูทุกท่านเสมอครับ

ครู

เมมโมรี่

เรื่องทั่วไป 26 August 2008

พึ่งเช่าวีซีดีเรื่อง เมมโมรี่ รัก-หลอน มาดู หนังแนวลึกลับ ซ่อนเงื่อน มีปมอดีต เมมโมรี่ ในหนังเรื่องนี้ หมายถึงความทรงจำที่แย่ๆในอดีต ซึ่งมีผลในปัจจุบัน ทำให้คนๆหนึ่งมองโลกแปลกไป มองโลกในแง่ร้าย เกลียด กลัว สำหรับตัวละครที่รับบทนี้คือ คุณใหม่ เจริญปุระ   ใหม่เป็นอิงอร ที่ถูกพ่อข่มขื่นตั้งแต่เด็กจนเป็นสาว เธอจึงเกลียดพ่อ ลามไปถึงเกลียดผู้ชายทุกคน เกลียดแม่ตัวเองที่ไม่ห้ามพ่อ ปล่อยให้เรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้นกับเธอ   เธอโตมาด้วยความรู้สึกแบบนี้ จนเธอมีโอกาสแต่งงานกับเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งแต่งไปด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอก็เจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบเดิมๆอีกครั้ง กล่าวคือ สามีของเธอชอบใช้ความรุนแรงกับเธอ ขืนใจเธอ จนเธอมีลูก เธอแบบวางยาพิษชนิดสะสมให้สามีกิน จนกระทั่งสามีตาย เธอจึงได้พาลูกไปอยู่ที่อื่น จนมาเจอกับอนันดา หมอโรคจิต (หมอรักษาคนโรคจิต) อิงอรมักทำร้ายลูก เมื่อลูกขัดใจเธอ แต่เมื่อทำร้ายแล้วก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำ (อาการแบบนี้เกิดขึ้นกับหลายๆคน มากหรือน้อยเท่านั้น ผมก็คนหนึ่ง เคยเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง) ขณะที่หมออนันดาพยายามจะช่วยเธอกับลูก แต่ถูกปฏิเสธ อนันดาเองก็มีเมมโมรี่เล็กๆอยู่ในอดีตเช่นกัน เมื่อมาเจอกับอิงอร เขาจึงรู้สึกสงสาร เห็นใจ และเกิดความรักในที่สุด แต่อิงอร เธอไม่รู้สึกเช่นนั้น เธอเกลียดผุ้ชาย สุดท้ายเธอก็ลงมือทำแบบเดิมอีกครั้ง นั่นคือวางยาหมอ   แต่ครั้งนี้หมอยังไม่ถึงฆาต.. ปมประเด็นทั้งหมดจะถูกเปิดเผยออก ความลับ และเมมโมรี่ร้ายๆในอดีตของอิงอรน่ากลัวขนาดไหน และเมมโมรี่ของอนันดาคืออะไร …ลองแวะร้านเช่าวีซีดีมาชมดูกันครับ   ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่า ไม่เชื่อว่าโลกนี้มีผี สิ่งที่ทุกคนเรียกว่าผีนั้น เป็นโรคเมมโมรี่นี่เอง โรคของความทรงจำร้ายๆในอดีตคอยหลอกหลอน และเกิดภาพซ้อนในสมอง อยู่กับความจริงแท้ และความจริงเทียมจนแยกไม่ออกว่าอันไหนคือจริง อันไหนคือแท้ ท้ายที่สุดก็เป็นโรคประสาท โรคบ้า เห็นอะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่เห็น   คนที่กลัวผีน่าจะลองดูหนังเรื่องนี้นะครับ ถ้าทฤษฏีของหนังเรื่องนี้ถูก ผีไม่น่าจะมีในโลก   ป.ล. เมื่อคืนนั่งดูรายการ จับเข่าคุย แขกรับเชิญคือคุณสมจิตร จงจอหอ ฮี่โร่โอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว สมจิตรก็มารายการนี้ แต่อารมณ์ตรงกันข้ามกับครั้งนี้ ตอนนั้นเขากลับจากโอลิมปิกอย่างผู้แพ้ เขาท้อ…

อ่านต่อ

ตรีนจุด..ตรุษจีน

ไดอารี่ 3 February 200916 June 2019

ผ่านตรุษจีนไปตั้งหลายวัน พึ่งมีเวลาโพสต์ภาพ งานตรุษจีนเยาวราช งานนี้ฉายเดี่ยวครับ โชคดีเจ้าของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ เป็นคนจีน เลยได้อานิสงส์ได้หยุดในวันตรุษจีนกะเค้าด้วย หลายบริษัทไม่ได้หยุด ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาบรรยากาศมาฝาก 🙂 ผมไปสิงสถิตย์ที่วัดไตรมิตรวิทยารามตั้งแต่เที่ยงครับ คนเริ่มมากันหนาตั้งแต่เที่ยงที่มีอากาศเปรี้ยงปร้าง วัดไตรมิตรมีโบราณวัตถุที่คนกทม.ไม่ค่อยรู้จัก(แต่คนต่างประเทศรู้จักกันอย่างแพร่หลาย) คือ พระพุทธรูปทองคำ สุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกบันทึกไว้ในกินเนสบุค แต่เดิมทีไม่ใช่พระทองคำอย่างที่ปรากฏ เป็นเพียงพระปูนปั้นที่ไม่มีความงาม หาคนสนใจไม่มี มีแต่คนเกี่ยงกันเอา จนที่สุดวัดไตรมิตรต้องสร้างวิหารเล็กๆ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน แต่ในวันที่ได้ขนย้ายขึ้นวิหารนั้น เกิดอุบัติเหตุ ทำให้พระปูนปั้นกระเทาะปูนออก ทันใดนั้นเอง คนทั้งหลายต่างแปลกใจครับ เมื่อมีแสงส่องออกมาจากร่องรอยที่ปูนปั้นแตกออก..และเมื่อได้กระเทาะปูนออกทั้งหมดก็ได้ปรากฏพระพุทธรูปทองคำที่สวยอร่ามดั่งเช่นปัจจุบัน นับแต่วันโน้นถึงวันนี้ พระพุทธรูปทองคำยังคงประดิษฐานอยู่แต่ในวิหารเล็กๆ จนบัดนี้วัดไตรมิตรได้ดำเนินการก่อสร้างพระมณฑปเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำให้สมพระเกียรติ และวันนี้มณฑปก็เป็นรูปเป็นร่างใกล้เสร็จแล้วครับ คาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายน ในวันตรุษจีนเปิดให้เข้าชมได้แต่เพียงบางส่วน (มี 4 ชั้น ชั้น4 ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ชั้น 3 มีพิพิธภัณฑ์) ว่ากันว่าชั้นที่เปิดให้ชมเป็นพิพิธภัณฑ์นั้น อลังการงดงามอย่างยิ่งครับ (วันที่พระเทพฯเสด็จมาเปิดงาน พระองค์เสด็จอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ตั้งเกือบ 2 ชม.) ตอนนี้เปิดใหเข้าชมฟรีจนถึงวันที่ 8 ก.พ. 52 นี้ ตรงนี้เป็นอุโบสถครับ ลานกว้างๆเป็นหน้าพระมณฑป ต่อไปจะจัดเป็นลานหินอ่อน ห้ามรถจอด นี่ภาพมณฑปยามค่ำคืนของวันตรุษจีน นี่อีกภาพ.. นี่อีกมุม.. เทียนที่ถูกจุดขึ้นเพื่อบูชา..บนวิหาร ชมวัดพอละ เดี๋ยวจะพาแว่บไปเยาวราช ผมเดินนิดเดียว คนเยอะ ขี้เกียจ เหนื่อย !! ไม่ได้เล่าอะไรมาก เพราะในเยาวราชผมเดินไปแค่นิดเดียว ขี้เกียจฝ่าฝุงมหาชน ว่างๆ ก็ไปไหว้พระที่วัดไตรมิตรได้นะครับ ไปง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีหัวลำโพง จากนั้น เดินไปทางที่ไปเยาวราช ประมาณ 500 เมตร ก็จะเห็นวัดละครับ

ตรุษจีน

ได้เวลา..เอาเลือดบ้าออก

ไดอารี่ 12 January 2010

หยุดเสาร์-อาทิตย์ กิจกรรมออกกำลังกายและงดมื้อเย็นของผมก็มีอันต้องหยุดไปด้วย ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าวันอาทิตย์นี้ จะไปบริจาคเลือดให้ได้ หลังจากปีที่แล้ว ไปแค่ครั้งเดียว และครั้งเดียวนั้นก็ถูกปฏิเสธจากสภากาชาดด้วยข้อหา “เลือดลอย”  ก่อนบริจาคเลือดจะมีกระบวนการวัดความดัน และเจาะเลือดตรวจก่อน หลังจากสูบเลือดจากปลายนิ้วเสร็จแล้ว เขาจะหยดแหมะลงในน้ำยาสีฟ้า ถ้าเลือดปกติมันจะดิ่งลงก้นขวดในทันที ถ้าเลือดจาง มันจะค่อยๆจม หรือไม่จมเลย ที่เราเรียกว่า “เลือดลอย” นั่นแหละครับ สาเหตุมาจาก นอนดึก พักผ่อนน้อย หรือเคยบริจาคเลือด แต่ไม่กินยาบำรุงเลือด ผมอยู่ในจำพวก ไม่กินยาบำรุงเลือดที่เขาาให้มา สาเหตุคือ ผมแพ้ยาวิตามินเม็ดสีแดงมันๆ หวานๆ นั่นอย่างรุนแรง ร่างกายจะสร้างปฏิกิริยาต่อต้น พะอืดพะอมจนจะอาเจียนพู่งปรี๊ดกลับมาทางเดิมให้ได้ ..อาการแพ้มันเกิดขึ้นเพราะผมอุตริเอง เมื่อสมัยบริจาคเลือดยุคแรกๆเมื่ออายุ 17-18 พอได้ยาบำรุงเลือดมา ก็กระดกหมดทั้งถุง ตั้งแต่บัดนั้นละครับ ผมเกลียดยานี้อย่างรุนแรง อย่าว่าแต่กินเลย เห็นหน้ายาก็เกิดอาการแล้วละ วันนี้ตั้งใจว่าจะบริจาคจริงๆ เย็นวันก่อนไปบริจาคเลยปฏิเสธแอลกอฮอลล์จากเพื่อนๆในงานแต่งจนสิ้น ได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการบริจาคเลือดครับ ก่อนจะบริจาคเลือด นอกจากต้องนอนให้พอ กินอาหารให้อิ่ม ไม่กินยาพารา ยาแก้อักเสบแล้ว ภายในวันนั้นก่อนบริจาคเลือด ต้องอย่ากินอาหารมันๆ เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ฯลฯ วันนี้คนมาบริจาคเยอะพอสมควร เวลาบ่าย 2 โมงแล้ว คิวยังยาวเฟื้อย มีเทคนิคนิดหนึ่งสำหรับคนที่ไปบริจาคแล้ว พบว่ามีคิวยาวมาก แนะนำให้ว่า ก่อนกรอกรายละเอียดในการบริจาคเลือดให้ไปกดบัตรคิวก่อน กดบัตรคิวทั้งข้างบนและข้างล่าง คิวข้างล่างเพื่อเจาะตรวจเลือดวัดความดัน ส่วนคิวด้านบนเพื่อเจาะเก็บเืลือด เอาคิวทั้งสองที่มาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการบริจาค อาจจะช่วยให้เร็วขึ้นอีกนิดนึง เลือดผมค่อนข้างดี เร็ว และแรง อาจเพราะอั้นมาทั้งปี หลังจากไปนอนกำแบๆ แป๊บเดียว ก็เต็มกระปุกแล้ว เต็มก่อนคนที่เข้าไปก่อนซะอีก  วันนี้เจอพวกแปลกๆมาบริจาคเลือด แบกกล้องตัวใหญ่มาด้วย แล้วก็เที่ยวถ่ายทุกช็อตตั้งแต่ทางเดิน จนกระทั่งบันไดเลื่อน ถ่ายๆ พอตัวเองต้องนอนให้เลือด ก็ยังอุตส่าห์หยิบกล้องตัวใหญ่กระเตงถ่ายแขนตัวเองที่มีเข็มปักอยู่อย่างยากลำบาก.. ไม่รู้ถ่ายไปอวดใคร แต่เอาเถอะ..ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แถมยังได้บุญด้วย ผมก็ขออนุโมทนาด้วยคนน่ะ หลังจากบริจาคเลือดแล้วว่าจะเข้าไปกราบพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรฯ แต่วน 2 รอบ ยังหาที่จอดไม่ได้เลย แดดก็ร้อน รถก็เยอะ คนก็แยะ เลยถอดใจ วันหลังค่อยมาใหม่ละกัน…..

อ่านต่อ

แดดร่มลมตก ณ วัดเล่งเน่ยยี่ ๒

ท่องเที่ยว, สุขกะภาพ 13 March 20099 November 2017

วัดเล่งเน่ยยี่ 2 หรือ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่บางบัวทองครับ เดินทางไปสะดวก มีทั้งรถเมล์ และรถตู้

วัดเล่งเน่ยยี่

สามเซ็งซี้ดส์

ไดอารี่ 21 March 2011

วันอาทิตย์ประมาณบ่าย 3 โมงมีนัดกับช่างสวิส ช่างสวิสเป็นช่าง buit in ที่มีฝีมือและอัธยาศัยดีคนหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้บริการจากแก ครั้งแรกใช้ให้ย้ายตู้ให้ เป็นการย้ายตู้ที่ไม่ธรรมดา เพราะต้องรื้อและต้องไปประกอบขึ้นใหม่ ครั้งนี้เป็นงานใหญ่กว่าครั้งแรก เพราะผมจะว่าจ้างให้แกรื้อและทาสีคอนโดใหม่!! คอนโดถูกปลวกยึดมาปีกว่า วันนี้ถึงเวลาที่ผมต้องขอคืนพื้นที่แล้ว นอกจากจะเรียกใช้บริการจากช่างสวิสแล้วผมได้เรียกบริษัทกำจัดปลวกมาอีกชุดหนึ่ง งานนี้ต้องขอคืนพื้นที่ชนิดไม่ให้เหลือ เซ็ง 1 ช่วงเช้าก่อนไปเจอกับช่างสวิส เลยมีเวลาว่างจึงไปดูหนังกันดีกว่า!! ตั้งใจไปดูเรื่อง SuckSeed ห่วยขั้นเทพ ขับรถไปดูที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ เนื่องจากยังไม่เที่ยง คนเลยยังไม่มากนักพอเลี้ยวเข้าห้าง ก็เจอที่ว่างทันที ผมกดไฟฉุกเฉินเตรียจอด!! ที่จอดเป็นทางเลี้ยวพอดี ที่จอดอยู่ขวามือ ผมหันหัวรถไปทางซ้ายเพื่อให้ท้ายเข้าทางขวา ขณะถอยเข้าซอง ก็มีเสียงแตรและเสียงชนดังขึ้นไล่ๆกัน ..ซวยแล้ว พอลงจากรถไปดูเหตุ สาวเจ้าของรถคันหลังใส่แว่นดำแต่งตัวหวือหวาไม่รับกับสภาพรถที่ค่อนข้างเก่าเลยสักนิด เจ๊แกตำหนิผมก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไร “ทางนี้เขาห้ามเลี้ยวซ้าย” น้ำเสียงเรียบแต่ท่าทีตำหนิเป็นเชิงสั่งสอนอยู่ในที “ผมไม่ได้จะเลี้ยวซ้าย ผมจะเ้ข้าจอด ไฟฉุกเฉินยังเปิดอยู่เลย” ผมพูดพร้อมชี้ให้ดูไฟกระพริบ เจ๊แกรู้ตัวว่าตัวเองผิด เดินกลับขึ้นรถหน้าตาเฉย ผมดูด้วยสายตา รถเจ๊แกไม่เป็นอะไรเลย ส่วนรถผมตรงกันโคลนหน้าเผยอขึ้นเล็กน้อย มองผิวเผินแทบไม่เห็นความเสียหาย ผมก็เลยไม่ติดใจเอาความ ด้วยมีรถติดจอดเป็นแถวยาวอยู่ “คุณจะมีปัญหาอะไรมั้ย” ผมถามเจ๊คู่กรณี เพราะถ้าเอาเข้าจริงผมก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ยอมมองหลังให้ดีก่อนถอย เจ๊แกนิ่ง ผมกล่าวขอบคุณ (ซึ่งไม่รู้จะขอบคุณทำไม) แล้วก็ขับรถออกไป พร้อมด้วยอารมณ์ที่เซ็งเล็กน้อย เซ็ง 2 ถึงมีเหตุการณ์เซ็งๆแบบนี้ ผมก็ไม่ละความตั้งใจที่จะดูหนังไทย..ซัคซี้ด พอเข้าไปซื้อตั๋ว ปรากฏว่าหนังเริ่มฉายพอดี ผมไม่รอช้า รีบซื้อตั๋วดิ่งเข้าโรง พอเข้าโรง ภาพยนตร์ตัวอย่างจบพอดี หนังกำลังเริ่ม ..แต่เอ่ะเดี๋ยวก่อน ทำไม เครดิตผู้สร้างเป็นภาษาอังกฤษ ผมดูหนังไทยไม่ใช่เหรอ คิดได้ดังนั้นก็รีบวิ่งออกมาหน้าโรง ตายห่า..ในตั๋วบอกโรงหก แต่ผมเข้าโรงห้า!! ในที่สุดก็ได้ดูหนังสมใจ SuckSeed ห่วยขั้นเทพ หนังย้อนยุคสัก 3-5 ปี ช่วงชีวิตเด็กวัยรุ่นยุคม.ปลาย ยุคที่เด็กเกรงใจเพื่อนมากกว่าพ่อแม่และครู บูชานักร้องดังเทพเจ้า มีความใฝ่ฝัน อยากเป็นนักร้อง และมีความรักเป็นครั้งแรก หนังสะท้อนชีวิตเด็กประถมช่วงสั้นๆ และเด็กมัธยมได้อย่างได้รสได้ชาติมาก หนังมีสีสันด้วยได้นักร้องดังมาโผล่ในทุกฉากที่มีเสียงเพลง มีมุกตลกสอดแทรกอยู่เป็นระยะ นักแสดงหน้าใหม่อย่าง “ลูกพีช” เล่นดีบทเด่นแซงหน้า “ก้าว” พระเอกในเรื่อง…

suckseed รถ เซ็ง
อ่านต่อ

สำราญมากเว่อร์…เมื่อได้มาเที่ยวที่หาดเจ้าสำราญ

ท่องเที่ยว 5 August 201814 June 2019

มีเวลาพักแค่เพียงน้อยนิดแต่อยากเที่ยวทะเล เล่นน้ำให้ชื่นใจ สูดกลิ่นอายธรรมชาติ โอบล้อมด้วยหาดทราย สายลม น้ำทะเล ไม่ต้องเสียเวลาหาโปรแกรมเที่ยวให้เหนื่อย แนะนำให้มาที่หาดเจ้าสำราญ เพราะให้ความสำราญเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจใน 1 วันมากจริงๆ แต่ถ้าใครมาเที่ยวแล้วเกิดอาการอินบรรยากาศดีๆ และอาหารอร่อยๆ จนต้องค้างคืนเพื่อดื่มด่ำความสุขต่อไปก็สามารถ กดคลิก จองที่พักหาดเจ้าสำราญกับ Traveloka ก่อนเดินทางได้เลย รับรองว่าเที่ยวได้เพลินๆ เรื่องที่พักไม่ต้องกังวลอีกต่อไป “หาดเจ้าสำราญ” ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นชายหาดสีนวลสะอาดตาความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร โดยหาดเจ้าสำราญเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ มาแต่สมัยโบราณ โดดเด่นชวนประทับใจด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย มีสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ทั้ง ปูเสฉวน หอย แมงกะพรุน อีกด้านหนึ่งติดภูเขา มีบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยรอบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย อากาศช่วงค่ำเย็นสบาย ได้กลิ่นไอทะเลช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายพร้อมที่พักหลากหลายสไตล์ให้เลือกมากมาย เริ่มด้วยการเดินทาง สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพ บอกเลยว่าสะดวกมากๆ เพราะมีวิธีการเดินทางให้เลือกถึง 4 วิธี ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เข้าสู่อำเภอปากท่อ จากนั้นแยกเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี และจากอำเภอเมืองเพชรบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3177 ผ่านสถาบันราชภัฎเพชรบุรี ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร จะผ่านสถานีตำรวจภูธรหาดเจ้าสำราญ เมื่อถึงสี่แยกให้ตรงไปก็จะถึงหาดเจ้าสำราญ ส่วนรถโดยสารประจำทางแนะนำให้ไปใช้บริการจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี สำหรับใครที่ชอบควรรวดเร็วสามารถเลือกใช้บริการรถตู้ได้เช่นกัน โดยรถตู้ สายอนุสาวรีย์ชัย – เพชรบุรี วิ่งตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 หรืออยากเดินทางแบบชิลล์ๆ ก็ขึ้นรถไฟได้จ้า มีรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ให้บริการหลายขบวน ทั้งรถธรรมดา รถด่วน รถเร็ว และรถด่วนพิเศษ นั่งรถกันมาอาจจะเมื่อยล้าบ้างอะไรบ้าง แต่ทันทีที่มาถึงหาดสำราญ ความเหน็ดเหนื่อยน่าจะลดน้อยถอยลงกว่าครึ่ง เพราะมีความสวยงามของหาดมาดึงดูดความประทับใจไปแทน ด้วยบรรยากาศสงบเงียบ ร่มรื่น ชวนเย็นตาและสบายอารมณ์ แถมชายหาดแห่งนี้ยังมีความพิเศษเนื่องจากทรายถูกพัดถมขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีทรายที่ละเอียดมากในส่วนของต้นหาด เหมาะแก่การถอดรองเท้าเดินทอดน่องย่ำทรายพร้อมเดินรับลมชมวิวเป็นที่สุด นอกจากนี้ด้วยธรรมชาติที่งดงามอันมีทิวสนน้อยใหญ่ตลอดแนวหาดจึงเหมาะแก่การมาปูเสื่อนั่งรับลมฟังเสียงคลื่นชิลล์ๆ หรือจะสั่งอาหารทะเลอร่อยๆ บริเวณหาดเจ้าสำราญก็มีร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงของกินเล่น…

หาดเจ้าสำราญ

EMOTIONAL BANK ACCOUNT

เรื่องทั่วไป 2 February 2010

อาทิตย์นี้ได้หนังสือมาสองเล่ม รู้สึก ว่าตัวเองอ่านหนังสือน้อยลง กลัวจะถูกจัดอยู่ในพวกปีหนึ่งอ่านหนังสือ 8 บรรทัด เลยต้องหาขวนขวายมาอ่านซะหน่อย เล่มแรก เป็นหนังสือของนักเขียนรางวัลซีไรต์อย่างคุณวินทร์ เหลียววารินทร์ที่ผมเป็นแฟนอยู่  ชื่อ หนังสือ “ฝนตกขึ้นฟ้า นวนิยาย ฟิล์มนัวร์” อีกเล่มสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เนต ชื่อหนังสือ Zig Zag เมื่อแกะดำทำธุรกิจ ของคุณประเสริญ เอี่ยมรุ่งโรจน์ ที่ผมรู้จักท่านจากรายการคม ชัด ลึก เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในสองเล่มนั้น ของคุณวินทร์หนากว่า ดังนั้น จึงถูกวางไว้ก่อน แกะดำทำธุรกิจบางกว่า จึงถูกหยิบจับมาเปิดอ่านก่อน ผมพอเข้าใจแนวคิดของคุณประเสริฐมาบ้างจากรายการ คม ชัด ลึก  เป็นแนวคิดของการทำธุรกิจแบบแกะดำ กล่าวคือ ไม่เดินตามรอยคนอื่น ไม่เลี้ยวขวาไปตามทางที่คนหมู่มากเลี้ยวไป  สอนให้รู้จักคิดอย่างมีระบบ มีเหตุผล สอนวิธีคิดที่คุณประเสริฐเน้นว่าสำคัญที่สุดกว่าองค์ความรู้  ใชสมองทังสองด้านทำงาน โดยให้สมองซีกขวานำและตามด้วยสมองซีกซ้าย จากเนื้อหา 130 หน้า  31 บท แต่ละบทมีแนวคิด คำคม และปรัชญาการทำธุรกิจแบบแกะดำ มีกรณีศึกษาจากบริษัทใหญ่ๆทั่วโลก บอกตามตรงบางบริษัทที่คุณประเสริฐยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟัง ผมไม่รู้จักมาก่อนเลย  แต่ก็ ไม่ได้ทำให้อรรถรสในเนื้อหาด้อยลงนะครับ ด้วยลีลาการเขียนที่คุณประเสริฐแกออกตัวว่า แกคิดช้า เขียนช้า บทหนึ่งๆแกใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง จึงเป็นเนื้อหาที่ประกอบด้วยสาระ ได้เห็นความตั้งใจที่คุณประเสริฐพยายามอัดใส่ทุกบท ใช่แต่แกจะพูดถึงการทำธุรกิจอย่างเดียว การใช้ชีวิต การคิดและการตัดสินใจ คุณประเสริฐก็เขียนไว้อย่างน่าอ่าน ผมชอบเรื่อง EMOTIONAL BANK  ACCOUNT กล่าวถึงการฝากความรู้สึกดีๆไว้กับ คนอื่น โดยอาศัยแนวคิดจากการฝากเงินไว้ในธนาคาร เงินในธนาคารยิ่งฝากมากยิ่งมีเก็บมาก ความรู้สึกดีก็เช่นกัน ยิ่งฝากไว้กับคนอื่นไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร ฝากมากๆ เราก็ย่อมมีมาก เมื่อใดที่ชีวิตเราพบอุปสรรค อาจจะมีวันที่ความรู้สึกระหว่างเรากับคนรอบข้างอาจจะขุ่นมัว สิ่งที่เราฝากและสะสมบน Emotional Bank Account จะเป็นตัวช่ว่ย คุณประเสริฐ อธิบายการออมความรู้สึกดีๆ ว่า การฝาก คือ การที่เราเป็นคนมีน้ำใจ เปนคนรักษาคำมั่นสัญญา ดำรงตนเป็นคนน่าเชื่อถือ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยที่คนอื่นไหว้วานก็ทำให้ การถอน…

แกะดำ
อ่านต่อ

นิทานเรื่อง “กรุ๊บเลือด”

เรื่องทั่วไป 31 January 201428 October 2015

เมื่อคืนนั่งดูรายการเจาะใจ รายละเอียดรายการจะไม่ขอพูดถึง แต่จะพูดถึงบางเสี้ยวที่เขาพูดไว้ในรายการ เขาพูดถึงคนกรุ๊ปเลือดอะไร ควรเน้นบริโภคอาหารประเภทใด และเพื่อให้จำได้ จึงมีเรื่องเล่าสั้นๆ ให้จำได้ง่าย ต่อไปนี้ เมื่่อนานมาแล้ว ในครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก คน คือ สัตว์จำพวกแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ในยุคนั้นมีแต่พืชผลไม้ คนกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ชื่อว่า กลุ่ม A จึงนิยมกินพืชผลไม้ พระเจ้าสร้างคนกลุ่มที่สองขึ้นมา โดยเรียกว่า กลุ่ม B กลุ่มนี้เริ่มรู้จักปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด และเลี้ยงสัตว์ จึงนิยมกินอาหารประเภทแป้งได้ คนกลุ่มต่อมา คือ กลุ่ม AB กลุ่มนี้มาทีหลังจึงกินได้ทุกอย่างที่กลุ่ม A และกลุ่ม B ปลูกหรือเลี้ยงไว้ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนกรุ๊ปเลือด A ควรเน้นบริโภคพืชผลไม้ คนกรุ๊ปเลือด B ควรเน้นบริโภคอาหารประเภทแป้ง ข้าว คนกรุ๊ปเลือด AB บริโภคได้ทุกอย่าง    

อ่านต่อ

น้องหมาชายทะเล

สุขกะภาพ 5 July 201328 October 2015

น้องหมาที่อยู่ริมหาดบ้านกรูด ประจวบคีรีขันธ์ ภาพนี้ดูแล้วขำๆ น่ารักดีครับ น้องหมาริมทะเล

หมา

แบ่งตามหมวด

  • say (8)
  • กลอน (1)
  • คุยกับคอม (9)
  • ช่วยชิม (11)
  • ท่องเที่ยว (61)
  • บ่น (35)
  • บ้านบ้าน (16)
  • พูดจาภาษาฝรั่ง (9)
  • วิ่ง (26)
  • สุขกะภาพ (74)
  • เพลงสั้น (11)
  • เรื่องทั่วไป (88)
  • เรื่องยาว (9)
  • เรื่องสั้นสั้น (52)
  • แมคบุค (4)
  • ไดอารี่ (63)

Copyright © 2020. All rights reserved.

Contact me : nevikup@gmail.com
Facebook.com/aroundmeTH