หาย?
“คุณตำรวจค่ะ จิ๊กกี๋หายตัวไปจากบ้าน 3 วันแล้วค่ะ” หญิงสาวแจ้งความทันทีที่เข้าไปในสถานีตำรวจ ดูท่าทางเธอตกใจไม่น้อย ขณะที่ตำรวจพึ่งปิดแฟ้มคดีเรื่องอื่นไปเมื่อก่อนหน้า อย่างเหนื่อยหน่าย “ใจเย็นๆก่อนนะครับ ค่อยๆเล่า คุณบอกว่าจิ๊กกี๋หายตัวไปจากบ้าน 3 วันแล้ว?” “ค่ะ คุณตำรวจ” คำตอบไวแทบจะเท่ากับคำถาม “ก่อนหน้านี้ เขาเคยมีปัญหาอะไรกับใคร หรือมีปัญหากับทางบ้านมั้ยครับ” “ไม่ค่ะ แต่..เมื่อ 2-3 เดือนก่อน เขาเคยทะเลาะกับเพื่อน ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร” “ครั้งสุดท้าย คุณเจอเขาเมื่อไร?” ตำรวจถาม พร้อมหยิบปากเตรียมเก็บรายละเอียด “เมื่อตอนบ่าย 2 วันก่อน ตอนดิชั้นเข้าบ้าน เขาก็ยังออกมาต้อนรับ” “แล้วคุณจิ๊กกี๋นี่ เป็นหญิงหรือชาย อายุประมาณเท่าไร วันสุดท้ายที่พบเขา เขาใส่เสื้อผ้าสีอะไร”? “จิ๊กกี๋ เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 4 ปี สีดำ พันธ์ุ…” “เดี๋ยวนะครับ..จิ๊กกี๋ที่คุณพูดถึงนี่ เป็นคนหรือสัตว์?” ตำรวจหนุ่มหยุดการบันทึก หันมาจ้องหน้าเธออย่างซีเรียส “เป็นสุนัขค่ะ พันธุ์ไทยแท้ สีดำคาดแดง นิสัย..” “พอเลยคุณ แค่คดีที่เกี่ยวกับคนที่มีอยู่ ผมก็แทบไม่มีเวลาดูละครหลังข่าวอยู่แล้ว หมาที่หายไปก็เป็นหมาไทยบ้านๆ ถ้าเป็นหมาฝรั่ง ตัวแพงๆก็ว่าไปอย่าง หมาบ้านๆแบบนี้ ถ้าอยากได้ใหม่ ไปขอใครมาเลี้ยงก็ได้” ตำรวจทิ้งปากกาลงบนโต๊ะ พูดพลางเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ได้รับคำตอบอย่างไม่ใยดีจากตำรวจไทย หญิงสาวแทบกรี๊ดเป็นภาษาเวียดนามให้โรงพักแตก แต่เธอสะกดอารมณ์โกรธไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่จะพูดไปว่า “หมาไทย มันไม่ดียังไง แล้วมันสู้หมาฝรั่งไม่ได้ตรงไหน แล้วคุณตำรวจเอาอะไรไปวัดว่าหมาฝรั่งที่ตัวแพงๆ มันดีกว่าหมาไทย หมาไทยก็ใช่ว่าจะรักเจ้าของน้อยกว่าหมาฝรั่ง ถ้าคุณค่าของหมาวัดกันด้วยความซื่อสัตย์ ดิชั้นกล้ายืนยันได้เลยว่า จิ๊กกี่หมาไทยของดิชั้น มูลค่าแพงกว่าหมาฝรั่งเป็นหลายเท่าแน่” “เอาเถอะ ๆ ..คุณจะพูดยังไงก็ตามเถอะ แต่ผมจะไม่รับแจ้งความเรื่องหมาหายของคุณ เดี๋ยวมันก็กลับบ้านแล้ว หมาบ้านๆนะ” ตำรวจตัดบทอย่างรวบรัด ตาชำเหลืองดูนาฬิกาอีกครั้ง เขากำลังคิดถึงตอนจบของละครหลังข่าวสุดโปรดอยู่ “หมามันออกจากบ้านไป จะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ รถราก็เยอะ ตึกราบ้านช่องก็มากมาย มันอาจหลงทาง หรือถูกรถชน..” พูดถึงตรงนี้ แววตาเธอเริ่มประกาย คลอด้วยน้ำตา “โอเค…